คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ควรเลิกครับ คุณไม่มีทางสมหวังอะไรกับเขาได้หรอก
ถ้าคุณคิดจะคบกับใครสักคนแล้วหวังถึงขั้นแต่งงาน สร้างครอบครัวด้วยกัน อีกฝ่ายเขาต้องเอากับคุณด้วยนะ มันไม่ใช่แค่ว่าคุณรักเขาจากนั้นมันจะแย่ยังไงก็ได้หมด ถ้ายังเป็นวัยรุ่นก็ถือว่ายังเรียนรู้หาประสบการณ์ได้ แต่ถ้าคุณโตแล้วอายุ 20 กว่าแล้ว คุณต้องเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ และรู้จักคิดให้ยาวไกล จะมามัวคิดผิด ตัดสินใจผิดอยู่เรื่อยไม่ได้ ในสังคมมีผู้หญิงหลายคนที่ใช้ชีวิตตอนวัยรุ่นแบบผิดๆ แล้วต้องมาเสียใจไปตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวอีก สุดท้ายก็ต้องมาอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ
คุณควรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาผู้ใหญ่ของคุณด้วย ถ้าคุณคิดจะเอาเขามาเป็นสามี มาเป็นลูกเขยให้พ่อแม่คุณ ลักษณะแบบนี้มันผ่านหรือเปล่า ฟังคำแนะนำของผู้ใหญ่เขาบ้างก็ดี
ถ้าคุณคิดจะคบกับใครสักคนแล้วหวังถึงขั้นแต่งงาน สร้างครอบครัวด้วยกัน อีกฝ่ายเขาต้องเอากับคุณด้วยนะ มันไม่ใช่แค่ว่าคุณรักเขาจากนั้นมันจะแย่ยังไงก็ได้หมด ถ้ายังเป็นวัยรุ่นก็ถือว่ายังเรียนรู้หาประสบการณ์ได้ แต่ถ้าคุณโตแล้วอายุ 20 กว่าแล้ว คุณต้องเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนทัศนคติ และรู้จักคิดให้ยาวไกล จะมามัวคิดผิด ตัดสินใจผิดอยู่เรื่อยไม่ได้ ในสังคมมีผู้หญิงหลายคนที่ใช้ชีวิตตอนวัยรุ่นแบบผิดๆ แล้วต้องมาเสียใจไปตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวอีก สุดท้ายก็ต้องมาอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ
คุณควรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาผู้ใหญ่ของคุณด้วย ถ้าคุณคิดจะเอาเขามาเป็นสามี มาเป็นลูกเขยให้พ่อแม่คุณ ลักษณะแบบนี้มันผ่านหรือเปล่า ฟังคำแนะนำของผู้ใหญ่เขาบ้างก็ดี
แสดงความคิดเห็น
กับความสัมพันธ์ครั้งนี้เราควรทำยังไงคะ
เรื่องเกิดจากวันที่1เรามีสอบ เราก็บอกเขาว่าเราสอบวันที่1สอบเสร็จกลับวันนั้นเลยช่วงสามทุ่มหน่อยๆ ้เขาเข้าใจว่าเราไปถึงวันสอบเลย ตอนนั้นโทรคุยค่ะเราเลยบอกว่าไม่ๆเราไปถึง31 สอบวันที่ 1 เขาก็โอเค พอวันก่อนเดินทางเราคุยกับเขาอีกรอบเขาว่าอ้าวเขาเข้าใจว่าจะมาถึงวันที่ 1เลย แล้วเขานัดเพื่อนไว้วันที่31 แต่ถ้ามีเวลาว่างจะมาหาเราก่อนไปเจอเพื่อน ตรงนี้เราเข้าใจค่ะว่าเขาเรียนต่อด้วยทำงานด้วยอาจจะลืมไปบ้างการเจอเพื่อนก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขาแบบจะได้พักผ่อนคลายเครียดตรงนี้เราไม่ว่าค่ะแค่นอยนิดหน่อยที่เขาจำไม่ได้ ก็เลยนัดกันว่าเดี๋ยววันที่1พาเราไปสอบ แต่จริงๆวันนั้นก็ได้เจอกันประมาณ5-10นาทีตอนที่เราไปถึงก่อนกลับห้อง
เหมือนทุกอย่างจะปกติดี วันที่1ค่ะ เรานัดกันว่าจะเจอกันตรงนี้แล้วไปสนามสอบด้วยกัน คืน31ที่เขาเจอเพื่อนมีดื่มแอลกอฮอร์ค่ะเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เราถึงที่นัดก็บอกเขาว่าไม่ต้องรีบเดี๋ยวอ่านหนังสือ เขาก็โอเคแล้วประมาณครึ่งชม.เขาบอกให้เราไปสนามสอบก่อนเลยกลัวเราไม่ทันเขาอยากนอนต่อสักหน่อย คือก่อนเขาจะตอบมาเรามีความคิดในหัวว่าเหมือนเขาจะไม่ได้อยากพาเราไปหรือเหมือนจะไม่ได้ไปด้วยกัน พอเขาตอบมาเราก็เลยโมโหมาก เราก็ถามว่าถ้าไม่ได้อยากพาไปก็บอกเขาก็บอกว่าไม่ใช่ แต่เขาไม่ได้บอกตอนนั้นค่ะว่าเมาหนักกลับดึก แล้วเวลาตอนนั้นคืออีก2ชม.สอบเราเลยไปคนเดียว จริงๆไปคนเดียวมันอาจจะไม่ใช่เรื่องยากของใครหลายคน แต่เป็นเรื่องยากของเราเพราะเราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ไม่รู้อะไรเลย แต่ตรงนี้ผ่านไปได้ค่ะเราไปถึงสนามสอบทันและโชคดีที่สนามสอบมีที่รับฝากของ
ส่วนที่เราอยากถามคือเราควรทำยังไงกับความสัมพันธ์ครั้งนี้คะ เรารู้มาตลอดว่าจัดลำดับความสำคัญของเขาเราอยู่ข้างล่างสุด แต่เข้าใจเพราะหลายๆเรื่องสำคัญกว่าเราเป็นเรื่องของอนาคตอะไรแบบนั้นเราไม่ได้อยากเรียกร้องว่าเราต้องสำคัญอันดับหนึ่ง แต่เรารู้สึกน้อยใจมากว่าทำไมการเจอกันแต่ละครั้งมันยากอยู่แล้วแต่เขาดูไม่พยายามที่จะหาโอกาสพยายามจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ้าง เรารู้สึกเหมือนพยายามอยู่คนเดียวรู้สึกว่าเขาไม่ได้รักเราถ้ารักก็น่าจะให้ความสำคัญกับเราอีกสักหน่อย ลืมว่าเราจะไปวันนั้นเลยนัดเพื่อนเข้าใจได้ เราพยายามตลอดเท่าที่เราจะทำได้แล้วพยายามเข้าใจทุกเรื่องวันที่คุยแค่สองประโยคเราก็พยายามเข้าใจว่าเขางานยุ่งเครียดปั่นงานวันที่หลับไปก่อนก็เข้าใจว่าเหนื่อย ้
ตอนนี้มันเป็นความเสียใจเสียใจที่ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ความคิดนึงในหัวก็คิดว่าเขาพยายามทำตัวเองให้ดูแย่เพื่อให้เราไม่ไปต่อรึเปล่า หรือเขาแค่ลงลืมกันไปบางครั้งหรือไม่ได้คิดมากอะไรเพราะมีอะไรหลายๆอย่างให้ต้องโฟกัส เขาเป็นคนดีมาตลอดค่ะดีแบบดีจริงๆใส่ใจตลอด ใจดี ใจเย็นกับเราตลอด แต่หลังสอบก็ได้เจอนะคะแต่ไม่ได้พูดเรื่องนี้เท่าไหร่เหมือนแค่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน