ข้อมูลอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนพบว่ากำลังเกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจสำหรับบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศ โดยพบว่ารถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สามารถเอาชนะผู้บริโภคเหนือรถไฟฟ้าล้วน (EV) เนื่องจากบรรดาผู้ขับขี่ต่างรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับระยะทางและค่าใช้จ่ายต่างๆ
รถไฮบริด ซึ่งสามารถแล่นในระยะใกล้ด้วยแบตเตอรี่ จากนั้นก็เปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในระยะทางไกล เวลานี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของยอดขายรถอีวีใหม่ในจีนในปีนี้ กระตุ้นให้บรรดาผู้ผลิตหลายบริษัทกำลังเร่งพัฒนาและยกระดับกำลังผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
บีวายดี โฟล์คสวาเกน โตโยต้า และบรรดาค่ายรถอื่นๆ มียอดขายรถยนต์ไฮบริด 396,000 คัน ในจีนแผ่นดินใหญ่ ในเดือนกรกฎาคม หรือคิดเป็น 45.1% ของยอดการส่งมอบรถอีวีทั้งหมด จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (China Passenger Car Association : CPCA) เพิ่มขึ้นจากระดับ 34.3% ในเดือนเดียวกันของปีก่อน
ข้อมูลของทางการระบุว่า บรรดาผู้บริโภคจีนระมัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าเดิม ทำให้ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว ขณะที่ตัวเลขคนว่างงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ผลักให้หลายคนหันมาชำระสินเชื่อบ้านล่วงหน้า และหาทางลดหนี้ตัวเอง แทนที่จะเพิ่มการใช้จ่าย
ยอดค้าปลีกของจีนเพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 23.6 ล้านล้านหยวน (ราว 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ฉุดรั้งการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ให้อยู่ที่แค่ 5% ขณะที่ตัวเลขการเติบโตของยอดค้าปลีกดังกล่าวคิดเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.2%
รถยนต์ไฮบริด เช่นดียวกับรถไฟฟ้าล้วน ต่างปรีดาจากโครงการจูงใจต่างๆ ของรัฐบาล ในนั้นรวมถึงการยกเว้นภาษีการบริโภค 10% และเงินอุดหนุนสำหรับทดแทนรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ส่วนหนึ่งในแผนผลักดันของปักกิ่งในการมุ่งหน้าสู่พลังงานสะอาดในระยะยาวและเป้าหมายปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
บรรดาตัวแทนจำหน่ายทั้งหลายบอกว่าผู้ซื้อจำนวนมากหันมาหารถไฮบริด สืบเนื่องจากความกังวลอย่างสูงเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่หมดลงอย่างรวดเร็วในฤดูหนาว ท่ามกลางคลิปที่ถูกพูดถึงกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นภาพรถยนต์อีวีหลายสิบคันติดอยู่ท่ามกลางหิมะในมณฑลหูเป่ย ในช่วงเทศกาลตรุษจีน หลังจากแบตเตอรี่ของรถเหล่านี้หมดลง
เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มความหวั่นกลัวแก่บรรดาผู้ซื้อที่มองว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วนยังคงไม่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางในระยะไกล ในขณะเดียวกันรถยนต์ไฮบริดบางส่วน ดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากกว่า จากราคาและระยะทางการขับขี่ที่ไปได้ไกล
แม้กระทั่งบีวายดี ผู้ผลิตรถยนต์อีวีที่ขายดีที่สุดในโลก ก็เพิ่งเปิดตัวเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดใหม่ เวอร์ชันปรับปรุงแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม เพื่อกระตุ้นยอดขายรถไฟฟ้าของพวกเขา
รถยนต์รุ่นปรับปรุงของบีวายดี Qin L และ Seal 06 ทำการติดตั้งเทคโนโลยี "ประสานขุมพลัง 2 รูปแบบ" ที่สามารถแล่นได้ไกลสูงสุด 2,100 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง พร้อมน้ำมันเต็มถัง
มีผู้ผลิตรถอีวีสัญชาติจีนรายอื่นอย่างน้อย 3 รายที่แถลงในเดือนนี้ว่าพวกเขามีแผนทุ่มเททรัพยากรไปที่เทคโนโลยีไฮบริดสำหรับพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในหนทางรองรับความต้องการของผู้บริโภค
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของรถไฮบริดที่มีเหนือรถอีวีล้วน ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะในจีน แต่รถไฮบริดคิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ของยอดขายรถอีวีใหม่ทั่วโลกในเดือนเมษายน อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทวิจัยออโตวิสตา ขณะที่ยอดขายไฮบริดและรถไฟฟ้าล้วนในจีนคิดเป็นสัดส่วนราว 65% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดทั่วโลก
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์
: MGR Online
กระแสพลิก! คนจีนวิตกไม่กล้าใช้รถไฟฟ้าล้วน ดันยานยนต์ไฮบริดมียอดขายพุ่งแซงหน้า
รถไฮบริด ซึ่งสามารถแล่นในระยะใกล้ด้วยแบตเตอรี่ จากนั้นก็เปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงสำหรับการขับขี่ในระยะทางไกล เวลานี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของยอดขายรถอีวีใหม่ในจีนในปีนี้ กระตุ้นให้บรรดาผู้ผลิตหลายบริษัทกำลังเร่งพัฒนาและยกระดับกำลังผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
บีวายดี โฟล์คสวาเกน โตโยต้า และบรรดาค่ายรถอื่นๆ มียอดขายรถยนต์ไฮบริด 396,000 คัน ในจีนแผ่นดินใหญ่ ในเดือนกรกฎาคม หรือคิดเป็น 45.1% ของยอดการส่งมอบรถอีวีทั้งหมด จากข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (China Passenger Car Association : CPCA) เพิ่มขึ้นจากระดับ 34.3% ในเดือนเดียวกันของปีก่อน
ข้อมูลของทางการระบุว่า บรรดาผู้บริโภคจีนระมัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าเดิม ทำให้ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว ขณะที่ตัวเลขคนว่างงานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ผลักให้หลายคนหันมาชำระสินเชื่อบ้านล่วงหน้า และหาทางลดหนี้ตัวเอง แทนที่จะเพิ่มการใช้จ่าย
ยอดค้าปลีกของจีนเพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 23.6 ล้านล้านหยวน (ราว 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ฉุดรั้งการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ให้อยู่ที่แค่ 5% ขณะที่ตัวเลขการเติบโตของยอดค้าปลีกดังกล่าวคิดเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.2%
รถยนต์ไฮบริด เช่นดียวกับรถไฟฟ้าล้วน ต่างปรีดาจากโครงการจูงใจต่างๆ ของรัฐบาล ในนั้นรวมถึงการยกเว้นภาษีการบริโภค 10% และเงินอุดหนุนสำหรับทดแทนรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง ส่วนหนึ่งในแผนผลักดันของปักกิ่งในการมุ่งหน้าสู่พลังงานสะอาดในระยะยาวและเป้าหมายปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
บรรดาตัวแทนจำหน่ายทั้งหลายบอกว่าผู้ซื้อจำนวนมากหันมาหารถไฮบริด สืบเนื่องจากความกังวลอย่างสูงเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่หมดลงอย่างรวดเร็วในฤดูหนาว ท่ามกลางคลิปที่ถูกพูดถึงกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นภาพรถยนต์อีวีหลายสิบคันติดอยู่ท่ามกลางหิมะในมณฑลหูเป่ย ในช่วงเทศกาลตรุษจีน หลังจากแบตเตอรี่ของรถเหล่านี้หมดลง
เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มความหวั่นกลัวแก่บรรดาผู้ซื้อที่มองว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วนยังคงไม่น่าเชื่อถือสำหรับการเดินทางในระยะไกล ในขณะเดียวกันรถยนต์ไฮบริดบางส่วน ดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากกว่า จากราคาและระยะทางการขับขี่ที่ไปได้ไกล
แม้กระทั่งบีวายดี ผู้ผลิตรถยนต์อีวีที่ขายดีที่สุดในโลก ก็เพิ่งเปิดตัวเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดใหม่ เวอร์ชันปรับปรุงแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม เพื่อกระตุ้นยอดขายรถไฟฟ้าของพวกเขา
รถยนต์รุ่นปรับปรุงของบีวายดี Qin L และ Seal 06 ทำการติดตั้งเทคโนโลยี "ประสานขุมพลัง 2 รูปแบบ" ที่สามารถแล่นได้ไกลสูงสุด 2,100 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง พร้อมน้ำมันเต็มถัง
มีผู้ผลิตรถอีวีสัญชาติจีนรายอื่นอย่างน้อย 3 รายที่แถลงในเดือนนี้ว่าพวกเขามีแผนทุ่มเททรัพยากรไปที่เทคโนโลยีไฮบริดสำหรับพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในหนทางรองรับความต้องการของผู้บริโภค
อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของรถไฮบริดที่มีเหนือรถอีวีล้วน ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะในจีน แต่รถไฮบริดคิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ของยอดขายรถอีวีใหม่ทั่วโลกในเดือนเมษายน อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทวิจัยออโตวิสตา ขณะที่ยอดขายไฮบริดและรถไฟฟ้าล้วนในจีนคิดเป็นสัดส่วนราว 65% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดทั่วโลก
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์
: MGR Online