นั่งอ่าน คห. แล้วอดคิดไม่ได้ว่า ทุกวันนี้กลุ่มตลาด "เก่า" กับ "ใหม่" ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน

ก่อนหน้าใจซ่อนรัก หลิงออมต่างเป็นนักแสดงแทบจะ "โนเนม" ด้วยกันทั้งคู่
หลิงหลิงเล่นเป็นตัวรองซะส่วนใหญ่ ใครๆ ได้เห็นก็ต่างชื่นชมในความงามสะดุดตาของเธอ หลังจากนั้นก็ลืมเลือน แม้แต่ชื่อยังมีไม่กี่คนที่จำได้
ออมยิ่งหนักกว่า ผลงานนับ 10 ชิ้น แต่เป็นแค่นักแสดงแถว 3, 4, ไปจนถึงรับเชิญ คนพอจะรู้จักบ้างในชื่อ "รีรี่" จากมาตาลดา ส่วนชื่อจริง (ทั้งเก่าทั้งใหม่) รวมถึงชื่อเล่น แทบไม่มีใครรู้จัก

จากเรตติ้งใจซ่อนรัก 0.5 ไปถามคนที่ดูทีวีเป็นสื่อหลักคงบอกว่าทั้งคู่ "ไม่ดัง" ยิ่งไม่น่าแปลกใจหากมีคนถามกลับว่า "หลิงออมคือใครอ่ะ?"

หันมาฝั่งคนดูออนไลน์, ดู Netflix, ดูย้อนหลังผ่านแอพ, รวมถึงพวกเล่นโซเชี่ยล (อย่างน้อยก็ส่วนหนึ่ง) เริ่มจากในไทย เปิดมาเจอหน้าหลิงออมทุกวัน จนหลายคนอดใจไม่ไหวต้องตามไปดูซีรีส์ย้อนหลัง กลายเป็นว่าใจซ่อนรักไปตกได้กลุ่มคนไทยที่ดูแต่ซีรีส์เกาซีรีส์จีนมาเป็น FC จำนวนไม่น้อย แถมคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ LGBTQ ไม่ใช่วัยรุ่น กลับเป็นพวกวัยทำงานไปจนถึงวัยกลางคน ทั้งชายจริงหญิงแท้ แถมมีกำลังซื้อสูงอีกต่างหาก
ส่วนตลาดต่างประเทศต้องใช้คำว่า "มหัศจรรย์" ด้วยอานิสงส์จาก Netflix เผลอๆ แฟนหลิงออมในต่างแดนจะมากกว่าในไทยหลายเท่าตัว

บางคนมองว่าใจซ่อนรักเป้นผลงาน "โคตรฟลุ๊ค" ที่บังเอิญดัง (แม้ใครจะบอกว่าดังเฉพาะในในโลกโซเชี่ยลก็ตามที) เอาเข้าจริงดูจากการที่ CEO ของช่องลงมาดูแลเองแสดงว่างานนี้หมายมั่นปั้นมือในระดับหนึ่ง ขนาดกล้าเอาละครไปฉายตอน 4 ทุ่มครึ่งทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าแทบจะไม่มีใครดู ต้องมั่นใจขนาดไหนกับ 'กลุ่มตลาดใหม่' และผลที่ออกมาคือรายได้เป็นกอบเป็นกำเกินคาดไปมาก บัตรแฟนมีทขายหมดใน 30 นาทีทุกรอบ ล่าสุดไม่ถึง 5 นาทีบัตรแฟนมีทมาเก็าถูกจองหมดเกลี้ยง

บรรดา FC ใจซ่อนรักเห็นตรงกันว่าปีนี้ช่อง 3 ค้นพบ 'เพชรเม็ดงาม' ถึง 2 เม็ด... นั่นยังน้อยไป ต้องบอกว่าช่อง 3 ค้นพบ 'แหล่งแร่เพชร' ต่างหาก ตลาด LGBTQ เป็นขุมทรัพย์แห่งใหม่ แยกจากรูปแบบธุรกิจละครแบบเก่าที่ช่อง 3 เคยทำมาตลอด วางแผนขุดดีๆ เหมืองเพชรแห่งนี้อาจสร้างผลประโยชน์ให้กับทางช่องได้มหาศาลกินยาวๆ กันเลยทีเดียว