JJNY : มวลน้ำเหนือถึงอยุธยา│น้ำท่วมอ.ขุนตาลยังหนัก│“พิธา”ลั่นจะนำสส.อีก1คนกลับคืน│เลขานาโต้ชี้ ยูเครนชอบธรรมบุกคูร์สก์

มวลน้ำเหนือถึงอยุธยา ถนนเส้นแรกจมน้ำถูกตัดทางเข้า-ออก บ้านเรือนพื้นที่ต่ำถูกน้ำท่วม
https://ch3plus.com/news/social/morning/414951

 
(31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเร่งระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา คงอยู่ในพื้นที่ตำบลหัวเวียง และตำบลบ้านกระทุ่ม และตำบลบ้านแพน อำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมสูง จากการเร่งระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ชาวบ้านเชื่อว่าน้ำเหนือไหลลงมาถึงอยุธยาแล้วด้วยความเร็วน้ำ 2 คืน น้ำขึ้นสูง 1 เมตร เสาวัดระดับน้ำกลางหมู่บ้าน พบว่าเหลืออีกไม่ถึง 50 cm ระดับน้ำจะเทียบเท่ากับปี 66 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน วันนี้ยังอยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม น้ำยังมาต่อเนื่องคาดระดับน้ำปีนี้ทะลุสูงกว่าปี 66 แน่นอน

น้ำที่ขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ถนนเส้นทางหลักเข้าหมู่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จมน้ำไปแล้ว ล่าสุดชาวบ้านหมู่ 5 ตำบลหัวเวียง แจ้งว่าระดับน้ำท่วมขึ้นมาสูง 80 เซนติเมตรแล้ว รถเล็กผ่านไม่ได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นหลักในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน

ในขณะเดียวกันน้ำจะขึ้นอย่างต่อเนื่องไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำสูงกว่า 1 เมตร นายวรพล อ่อนดี ชุมชนริมแม่น้ำน้อย ตำบลหัวเวียงหมู่ 4 บ้านอยู่ในพื้นที่ต่ำ เฝ้าติดตามการประกาศเตือนของทางราชการอย่างต่อเนื่องได้เก็บของหนีน้ำไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าน้ำจะขึ้นเร็วอย่างนี้ น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว เนื่องจากว่าบ้านปลูกอยู่ในที่ลุ่มต่ำ ไม่มีเงินดีดบ้านให้สูงขึ้นเหมือนกับคนอื่น จึงถูกน้ำท่วม ต้องระดมเพื่อนบ้าน ลูกหลานใช้เรือพายเข้ามาเก็บของตัดระบบไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตราย


 
เชียงรายอ่วม! น้ำท่วมอ.ขุนตาลยังหนัก ประชาชนขาดแคลน ‘อาหาร-เวชภัณฑ์’
https://www.matichon.co.th/region/news_4765910

เชียงรายอ่วม! น้ำท่วมอ.ขุนตาลยังหนัก ประชาชนขาดแคลนอาหาร-เวชภัณฑ์
 
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ชาวบ้านป่าข่า ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล ยังคงต้องใช้เรือเป็นพาหนะสัญจรเข้าไปมา หลังแม่น้ำอิงยังคงเอ่อท่วมหมู่บ้านอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งบางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยระดับน้ำแม่อิง ยังคงทรงตัวและบางช่วงได้เพิ่มระดับขึ้น เนื่องจากมวลน้ำจาก อ.เทิงได้ไหลเข้ามา อีกทั้งหมู่บ้านยังตั้งอยู่ในที่ลุ่มทำให้ระบายน้ำออกไปยังพื้นที่ด้านนอกได้ยาก
 
ขณะนี้มีบ้านเรือนของประชาชนถูกน้ำท่วมประมาณ 90 หลังคาเรือน ชาวบ้านยังคงประสบปัญหาขาดแคลนข้าวสาร อาหาร และน้ำดื่ม เนื่องจากไม่สามารถออกไปทำงาน และหุงหาอาหารได้ ซึ่งยังมีผู้มาบริจาคอาหารให้กับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง
 
นายสอน เทพสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านป่าข่า กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ท่วมอยู่ในหมู่บ้าน ขึ้นลงสลับกัน ตามปริมาณของน้ำในแม่น้ำอิงที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันน้ำเข้าท่วมหมู่บ้านมานานกว่า 1 อาทิตย์แล้ว เนื่องจากน้ำที่มาจากกว๊านพะเยา ในแม่น้ำอิงตอนบนยังคงเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะย้ายขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของบ้าน บางส่วนก็จะออกไปอาศัยบ้านญาติอยู่
 
นายสอน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามทางหมู่บ้านยังขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ผ้าอนามัย รวมไปถึงเวชภัณฑ์ และรองเท้าบู๊ต เพื่อให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยสามารถมใช้ในช่วงน้ำท่วมได้ เพราะคาดว่าน้ำจะท่วมหมู่บ้านไปอีกนาน บางครั้งอาจจะนานถึง 1 เดือนก็เป็นได้
 
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเชียงราย ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เชียงรายห้วงระหว่างวันที่ 16-30 สิงหาคม พบว่ามีพื้นที่ประสบอุทกภัยจำนวน 18 อำเภอ 105 ตำบล 905 หมู่บ้าน 27 ชุมชน ผู้ประสบภัย 33,572 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยพื้นที่อำเภอเทิง ประสบภัยมากสุด 10 ตำบล 145 หมู่บ้าน 14,956 ครัวเรือน รองลงมาคือพื้นที่อำเภอเวียงแก่น 4 ตำบล 43 หมู่บ้าน 3,850 ครัวเรือน และอำเภอเมืองเชียงราย 15 ตำบล 157 หมู่บ้าน 27 ชุมชน 3,487 ครัวเรือน
 
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดพบว่าส่วนใหญ่นำได้กลับสู่ภาวะปกติหมดแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำอิงที่ยังคงถูกน้ำท่วม ประมาณ 200-3000 หลังคาเรือน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเทิงและขุนตาล โดยมีพื้นที่ทางการเกษตรนาข้าวจำนวนหลายพันไร่ยังคงจมอยู่ใต้น้ำ



“พิธา” ลั่น จะนำสส.อีก 1 คนกลับคืนฝ่ายค้านให้ได้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_769210/

“พิธา”ยิ้มรับหาเสียงมีเราไม่มีลุง แต่ตอนนี้ลุงมาอยู่กับเรา มอง เอาหนึ่งป.ออกแต่เพิ่มอีกป. ก็เป็น 3 ป. อยู่ดี ประกาศ ลุยช่วยหาเสียงพิษณุโลก ลั่น จะนำสส.อีก 1 คนกลับคืนฝ่ายค้านให้ได้
  
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงภายหลังช่วยผู้สมัครหาเสียง ว่า อยากให้พรรคประชาชนทำเต็มที่กับการแข่งขันในครั้งนี้ เชื่อว่าเขาได้ทำเต็มที่ในเรื่องการหาผู้สมัคร และนโยบายหาเสียง และทำงานโดยทันที รวมถึงตนก็มาที่นี่ครั้งที่ 4 หรือ 5 เว้นไปแค่ครั้งเดียวที่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็บินกลับมาเพื่อตามหาชัยชนะในโค้งสุดท้าย ให้กับ อบจ.ของพรรคประชาชนให้ได้
 
ซึ่งเชื่อว่า ด้วยความชัดเจนที่เขามี และความพร้อมของพวกเรา ถ้าได้บริหารจะแสดงให้เห็นในหลายๆ เรื่อง แต่ผลลัพธ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะมาใช้สิทธิแค่ไหน หากออกมาเยอะเราก็มั่นใจว่าเราจะชนะ
 
ผมเดินทางกลับมา 13,000 กิโล ก็เชื่อว่าชาวราชบุรีที่กำลังตัดสินใจอยู่ จะตัดสินใจกลับมาชี้ราชบุรีก่อนวันที่ 1 กันยายนนี้
 
ส่วนประเด็นมองการทำงานของฝ่ายค้านหลังจากนี้ หลังพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล นายพิธา กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะทำงานไม่เหมือนเดิมในช่วงแรก และมั่นใจว่าพรรคประชาชนจะทำงานอย่างเต็มที่และเข้มแข็งไม่ได้ทำให้การทำงานของฝ่ายค้านถดถอย ส่วนการหาเสียงที่เคยประกาศไว้ มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา แต่วันนี้ลุงมาอยู่กับเรา รู้สึกอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า
 
เค้าปิดไปอีกป.แต่เขาเพิ่มมาอีกป. เอาคนที่ชื่อป.ลงไปแต่เอาพรรคที่ชื่อป.กลับมา สิ่งที่กังวลใจคือ การที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ในระบอบประชาธิปไตย
เรื่องที่มีการสูญเสียและขัดแย้งกัน สิ่งที่ต้องทำคือการเสาะหาข้อเท็จจริง รวมถึงการเยียวยาหาคนรับผิดรับรับผิดชอบ ให้วัฒนธรรมการลอยนวลหายไปนี่คือบริบทที่เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ใช่ก้าวข้ามหัวประชาชน และไปจับมือกับพรรคที่เคยบอกว่าจะไม่จับ
 
และต้องการให้มีบทเรียนมีคนรับผิดรับผิดชอบ ดังนั้นนักการเมืองต้องคิดให้ดี ว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งหรือคุณกำลังก้าวข้ามหัวประชาชน เพราะสิ่งนี้คือต่างอย่างชัดเจน
 
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ จับมือกับพรรคเพื่อไทย มองเป็นกันเมืองแบบใด นายพิธา กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา พวกเราก็เดินหน้าพิสูจน์ตัวเอง ทำหน้าที่การเมืองอย่างสร้างสรรค์ต่อไป การที่บอกว่าต้องมี 320 กว่าเสียง เพื่อเสถียรภาพทางการเมือง มองว่าประสิทธิภาพอยู่ที่การทำงานให้กับประชาชน แก้ไขน้ำท่วมและดินถล่ม แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้หรือไม่ ดังนั้นเสถียรภาพมาจากประชาชนมากกว่าเสียงในสภา
 
ส่วนการที่เขาจับมือกันเป็นเพราะ 14 ล้านเสียงของพรรคก้าวไกลอำนาจเก่าไม่อยากให้ก้าวไกลมาสู่รัฐบาล นายพิธา มองว่า เขาทำอะไรอย่าอ้างพรรคก้าวไกลเลย วันนี้ก็เป็นอดีตไปแล้ว พวกคุณก็ทำลายสำเร็จแล้ว แต่พวกเราก็กลับมาได้เป็นพรรคประชาชนแล้ว รอเวลาเราจะเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าประเทศไทยเคยมีมา ยืนยันว่าพรรคประชาชนประสิทธิภาพไม่ด้อยลง และตนจะไปช่วยพิษณุโลกนำสส.อีกหนึ่งคนกลับมาให้ฝ่ายค้านให้ได้
 
ส่วนมองว่าพรรคประชาชนจะสามารถต่อกรกับนายทักษิณ ชินวัตร ในปี 70 ได้หรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า เราไม่เคยปฏิเสธการแข่งขันกับใครทั้งสิ้น พร้อมที่จะแข่งขันกับทุกคน เพราะตนเชื่อว่านโยบายและบุคลากร หากทำให้เกิดประสิทธิภาพคนที่ได้รับคือประชาชน
 
เพราะฉะนั้นจะใครที่ไหนก็พร้อมแข่งขันเต็มที่อยู่แล้ว แต่ปี 70 ช้าไป ขอให้มองในเดือนกันยาที่จะเป็นหมุดหมาย ซึ่งการเดินทางกลับมาจากอเมริกา เพื่อมาเอาชัยชนะในสองสนามนี้ให้ได้ คืออบจ.ราชบุรีและพิษณุโลก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่