“คาร์ซีท” คือ ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นอุปกรณ์เสริมประจำรถที่ทั่วโลกใช้เพื่อความปลอดภัยของเด็กในขณะเดินทาง เพื่อปกป้องและป้องกันเด็กจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ช่วยลดความรุนแรงในการบาดเจ็บและกันไม่ให้เด็กเสียชีวิต แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่อาจจะดูสูงแต่ก็คุ้มค่าเงิน เพราะมีประโยชน์ด้านความปลอดภัยต่อชีวิตของคนที่คุณรัก เพราะคาร์ซีทจะกำหนดท่าทางการโดยสารที่เหมาะสมให้กับเด็กในระหว่างเดินทางมีการรัดเข็มขัดในจุดที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน ตัวเบาะที่ติดตั้งร่วมกับเข็มขัดนิรภัยภายในรถจะลดความรุนแรงของการกระแทก ช่วยเสริมความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี คาร์ซีทสามารถใช้ได้ตั้งแต่เป็นเด็กทารกจนถึงอายุ 12 ปี
ปัจจุบันเพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็กเล็กระหว่างเดินทาง จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย โดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 กำหนดให้ คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายหรือมีวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ตามมาตรา 123 (2) (ข) ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท นอกจากนี้ ในกกฎหมายที่มีการปรับปรุงใหม่เพื่อความปลอดภัยนี้ ได้กำหนดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลา ทุกครั้งที่โดยสารรถยนต์ด้วย
ทั้งนี้ หากจะเลือกซื้อคาร์ซีทควรเลือกซื้อที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของเด็ก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหากกรณีเกิดอุบัติเหตุ แต่สิ่งสำคัญที่ควรศึกษาฉลากของผลิตภัณฑ์ คู่มือการติดตั้ง ลักษณะ ประเภท ข้อแนะนำ คำเตือน และที่สำคัญสังเกตฉลากที่ระบุว่า “ที่นั่งนิรภัยนั้นได้รับมาตรฐาน UN ECC R44” เป็นมาตรฐานที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งการกำหนดฉลากของสินค้านั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคในการที่จะทราบข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
ข้อมูลจาก : พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123 (2) (ข) มาตรา 123 (2) (ค) มาตรา 148
ถ้าชีวิตลูกสำคัญ…คาร์ซีทก็คือสิ่งสำคัญ
ปัจจุบันเพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในเด็กเล็กระหว่างเดินทาง จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย โดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 กำหนดให้ คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายหรือมีวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ตามมาตรา 123 (2) (ข) ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท นอกจากนี้ ในกกฎหมายที่มีการปรับปรุงใหม่เพื่อความปลอดภัยนี้ ได้กำหนดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลา ทุกครั้งที่โดยสารรถยนต์ด้วย
ทั้งนี้ หากจะเลือกซื้อคาร์ซีทควรเลือกซื้อที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของเด็ก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหากกรณีเกิดอุบัติเหตุ แต่สิ่งสำคัญที่ควรศึกษาฉลากของผลิตภัณฑ์ คู่มือการติดตั้ง ลักษณะ ประเภท ข้อแนะนำ คำเตือน และที่สำคัญสังเกตฉลากที่ระบุว่า “ที่นั่งนิรภัยนั้นได้รับมาตรฐาน UN ECC R44” เป็นมาตรฐานที่สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งการกำหนดฉลากของสินค้านั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคในการที่จะทราบข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
ข้อมูลจาก : พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123 (2) (ข) มาตรา 123 (2) (ค) มาตรา 148