JJNY : “สุรเชษฐ์”โต้ พท.คว่ำร่างขนส่งทางบก│ทั่วไทยฝนลด!│ประเมินเหนือท่วมเสียหายแล้ว 6พันล.│F-16 ยูเครนตก นักบินเสียชีวิต

“สุรเชษฐ์” โต้ พท. คว่ำร่างขนส่งทางบก แต่ปากบอกส่งเสริมขนส่งสาธารณะท้องถิ่น
https://www.thairath.co.th/news/politic/2811534
 
 
“สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” โต้กลับพรรคเพื่อไทย อ้างกระจายอำนาจขนส่งสาธารณะแล้ว จึงคว่ำร่างกฎหมายพรรคประชาชน แฉความจริงตั้งงบปี 68 เพื่อจ้างที่ปรึกษา แนะลองถามประชาชน รัฐบาลอยู่มา 1 ปี ขนส่งสาธารณะท้องถิ่นพัฒนาขึ้นบ้างหรือไม่ ย้อนถามแล้วเมื่อไหร่ท้องถิ่นจะมีรถเมล์ ดี ๆ
 
วันที่ 29 สิงหาคม 2567 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้ความเห็นถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย สื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ว่า ถึงแม้เมื่อวานนี้เสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ จะมีมติไม่รับหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ.การขนส่งทางบกของพรรคประชาชน แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลเพื่อไทยส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะในท้องถิ่น โดยที่ผ่านมาได้ให้อำนาจท้องถิ่นเพิ่มเติมแล้วในหลายลักษณะ
 
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยประกาศมีความคลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดอยู่หลายจุด โดยตนขอแจกแจงรายละเอียดเป็น 4 ประเด็น ประเด็นแรกพรรคเพื่อไทยอ้างว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 64 (พ.ศ. 2567) เพื่อให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการระบบขนส่งสาธารณะได้เอง แต่ในความจริงคือ กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นเพียงการระบุวิธี “ขอดำเนินการ” ไม่ใช่การ “ให้อำนาจดำเนินการ” ทำให้โครงสร้างอำนาจยังคงเหมือนเดิมคือรวมศูนย์อยู่ที่รัฐราชการส่วนกลาง ถ้าท้องถิ่นต้องการให้บริการรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่ ก็ให้ “ขอ” มาเป็นรายกรณี
ประเด็นที่สอง พรรคเพื่อไทยอ้างว่า ปัจจุบันคณะกรรมการกลางฯ ตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ได้ถ่ายโอนอำนาจการกำหนดราคาค่าโดยสารและการออกใบอนุญาตประกอบการให้คณะกรรมการในระดับจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการแทนแล้ว แต่ในความเป็นจริงคือ โครงสร้างอำนาจปัจจุบัน
ตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก มาตรา 20 วรรคท้ายระบุไว้ว่า การกำหนดเกี่ยวกับใบอนุญาตและราคาค่าโดยสาร “เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแล้ว จึงจะบังคับใช้ได้” หมายความว่า การขออนุมัติต้องทำผ่านคณะกรรมการจังหวัดที่นอกจากจะแทบไม่ยึดโยงกับประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังต้องไปผ่านรัฐส่วนกลางอีกรอบ ซึ่งก็คือการรวมศูนย์ไว้ที่รัฐราชการส่วนกลางเช่นเดิม
 
...
 
ประเด็นที่สาม พรรคเพื่อไทยอ้างว่า ในงบประมาณปี 2568 ที่กำลังพิจารณาอยู่ในสภาฯ มีการตั้งโครงการเพื่อศึกษารูปแบบการอุดหนุนของรัฐในระบบขนส่งสาธารณะ และส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีศักยภาพในการมีระบบขนส่งสาธารณะของตัวเองอย่างยั่งยืน ซึ่งนายสุรเชษฐ์กล่าวว่า งบประมาณส่วนนี้เป็นเพียงการจ้าง “ที่ปรึกษา” มูลค่า 10 ล้านบาท และต้องรอผลการศึกษาอีก 1 ปี ซึ่งเป็นงบตามระบบราชการ ไม่ใช่การริเริ่มจากพรรคเพื่อไทย แตกต่างจากพรรคประชาชนที่ศึกษามาแล้วว่าควรเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ มากที่สุด จนเสนอออกมาเป็นร่างแก้ไข พ.ร.บ.การขนส่งทางบกอย่างเป็นรูปธรรม แต่สุดท้ายกลับโดนพรรคร่วมรัฐบาลปัดตก โดยไม่มีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมมาเปรียบเทียบเลยด้วยซ้ำ
และประเด็นสุดท้าย พรรคเพื่อไทยอ้างว่า “ทุกอย่างมีการดำเนินการอยู่ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย และคงไม่ช้าเกินไปหากในเวลานั้นเราจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณากันอีกครั้ง ในแง่มุมที่ครบถ้วนรอบด้านมากขึ้น” นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สิ่งนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก ให้ลองถามประชาชนดูว่ารัฐบาลนี้อยู่มา 1 ปีแล้ว ด้วยแนวทางการกระจายอำนาจขนส่งสไตล์รัฐบาลเพื่อไทย ขนส่งสาธารณะในท้องถิ่นของแต่ละคนพัฒนาขึ้นบ้างหรือไม่
 
ความฝันที่ท้องถิ่นจะมีรถเมล์ดีๆ ต้องรออีกนานเท่าไหร่ หากรัฐบาลไม่จริงใจกับการกระจายอำนาจ” นายสุรเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย



ทั่วไทยฝนลด! ตกหนัก ‘ตะวันออก’ ไต้ฝุ่น ‘ชานชาน’ ปกคลุมตอนใต้ญี่ปุ่น
https://www.dailynews.co.th/news/3806808/
 
กรมอุตุฯ พยากรณ์สภาพอากาศวันนี้ ไทยมีฝนลดลง แต่ยังตกหนักบางแห่ง บางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนพายุโซนร้อน "ชานชาน" ไม่กระทบไทย แต่ใครเดินทางไปญี่ปุ่นขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อน
 
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 67 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “ชานชาน” SHANSHAN ปกคลุมบริเวณตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ออกประกาศ 30 สิงหาคม 2567

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
00:00 น. วันนี้ ถึง 00:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน สุโขทัย
ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.



หอการค้าไทย ประเมินเหนือท่วมเสียหายแล้ว 6 พันล้าน แนะนายกฯนั่งหัวโต๊ะเตรียมมาตรการเยียวยา
https://www.matichon.co.th/economy/news_4762934

หอการค้าไทย ประเมินเหนือท่วมเสียหายแล้ว 6 พันล้าน แนะนายกฯนั่งหัวโต๊ะสั่งการรับมือน้ำท่วม เตรียมมาตรการเยียวยา
 
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา สุโขทัย ลำปาง เพชรบูรณ์ แพร่ น่าน พิษณุโลก และนครสวรรค์ ยังมีแนวโน้มที่ฝนจะตกเพิ่มอีกระลอกนั้น หอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินมูลค่าความเสียหายกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ภาคเหนือไว้ว่า
 
เบื้องต้นประเมินความเสียหายประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.02-0.03% ของจีดีพี ซึ่งยังคงต้องติดตามและประเมินผลกระทบอีกครั้ง เนื่องจากหลายจังหวัดยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดน้ำท่วมเพิ่มเติม ทั้งนี้ จากการประเมินพบว่า ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด รองลงมาเป็นภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรม” นายสนั่นกล่าว
 
นายสนั่นกล่าวว่า ในระยะสั้นหอการค้า เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อให้การสั่งการและมอบหมายนโยบายข้ามกระทรวงเกิดการบูรณาการการทำงานอย่างคล่องตัว และจะต้องเตรียมแผนรับมือมวลน้ำที่จะไหลลงมาสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ตลอดจนปริมาณฝนที่คาดว่าจะมีการตกหลังเขื่อนในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มเติมได้ หากรัฐบาลมีแผนเชิงป้องกันไว้ล่วงหน้าที่ชัดเจนก็จะช่วยลดผลกระทบและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและเศรษฐกิจได้มาก
นายสนั่นกล่าวต่อว่า ในส่วนของภาคเอกชนหอการค้าไทยโดยมูลนิธิพาณิชย์สงเคราะห์ได้เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านเครือข่ายเอกชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งส่งมอบเงินผ่านหอการค้าจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เพื่อจัดหาสิ่งของที่จำเป็น และระดมอาสาสมัครภาคเอกชนลงพื้นที่แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงเครือข่ายเอกชนต่างๆ ที่ได้จัดคาราวานลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือสถานการณ์หลังระดับน้ำลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติ ภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องมีแนวทางการช่วยเหลือ ซ่อมแซม และฟื้นฟู ให้ประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะความเสียหายของสิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่อาศัย และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาปรับปรุงและซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
 
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการค้าปลีกและบริการ ได้ผนึกกำลังความร่วมมือกับผู้ประกอบการค้าปลีกและค้าส่ง (Modern Retail & Wholesale) ชั้นนำของประเทศ ระดมแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ผ่านการจัดแคมเปญลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาทิ ไทวัสดุ ให้การสนับสนุนการลดราคาสินค้าในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม-ตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร่วมรายการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่