เหวง ถามเพื่อไทย ลืมแล้วหรือ จับมือปชป. ด้านหมอหวาย รับยังไงก็ลืมไม่ลง ภาพศพปี’53
https://www.matichon.co.th/politics/news_4762014
เหวง ถามเพื่อไทย ลืมแล้วหรือ จะจับมือปชป. ด้านหมอหวาย รับยังไงก็ลืมไม่ลง ภาพศพเมื่อปี’53
จากกรณี นาย
สรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร แก่ นาย
เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั้น
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 นพ.
เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าวว่า
“อย่าลืมเป็นอันขาดรัฐไทยฆ่าปชช. สองมือเปล่ากลางกรุงทั้งสองหนคือปี 2519
และปี 2553 ล้วนเกิดในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ เพื่อไทยลืมแล้วหรือ”
ด้าน นพ.ส
ลักธรรม โตจิราการ หรือ หมอ
หวาย หมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บุตรชาย นพ.
เหวง โตจิราการ และ
ธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในกรณีเดียวกันว่า
“
ผมนึกถึงตอนไปดูการผ่าศพพิสูจน์ผู้ที่เสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน 2553
ภาพนั้นยังอยู่ในใจถึงวันนี้ ลืมอย่างไรก็ลืมไม่ลงและคงอยู่ในใจตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่”
https://www.facebook.com/drwengtojirakarn/posts/pfbid02p1JN7pYis5QUyT63w2z8ozXByRk4wRHnkuaCN9dMoJh7j7QHVvGDk93ZfvKyzWSHl
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0kzZj6msUuKFuTCvCP3186DNqNEsFcH9n7uzenJ671QfdmS6GofLFbfX1xqgwJtBFl&id=692245758
กสม. ชี้ ธำรงวินัย ‘พลทหารวรปรัชญ์’ เสียชีวิต ละเมิดสิทธิ เล็งส่งเรื่อง ‘อสส.-กก.ป้องกันการทรมานฯ’ เอาผิด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4762503
กสม. ชี้ ธำรงวินัย ‘พลทหารวรปรัชญ์’ เสียชีวิต ละเมิดสิทธิ เล็งส่งเรื่อง ‘อสส.-กก.ป้องกันการทรมานฯ’ เอาผิด
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นาย
วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงกรณีพลทหาร
วรปรัชญ์ พัดมาสกุล หรือน้อง
เน อายุ 18 ปี พลทหารผลัดที่ 1/67 สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการธำรงวินัยถูกลงโทษ ระหว่างการฝึก เมื่อวันที่ 2 ส.ค.67 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งผลการชันสูตรพบว่า อวัยวะภายในบอบช้ำ กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงหัก และปอดฉีกรั่ว ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 กองทัพบก ชี้แจงว่ากองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชาที่ขาดการกำกับดูแล จำนวน 3 ราย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนถึงผู้บังคับกองพัน และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นกำลังพลนายสิบและทหารกองประจำการ จำนวน 13 ราย ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายแล้วนั้น
กสม.ได้ติดตามข่าวประกอบกับได้รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งมีข้อมูลยืนยันว่า พลทหาร
วรปรัชญ์ ถูกเตะ ต่อย กระทืบ ให้เข้าเวรยาม 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง และถูกบังคับให้ดื่มปัสสาวะตนเอง จนสภาพร่างกายทนไม่ไหวและมีอาการป่วย แต่หน่วยงานไม่ส่งตัวไปรักษา ต่อมาเมื่ออาการป่วยรุนแรงจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่าย และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามลำดับ จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา กสม. เห็นว่าการธำรงวินัยและวิธีลงโทษของครูฝึก ครูผู้ช่วย รวมถึงกำลังพลที่เกี่ยวข้องที่กระทำต่อเนื้อตัวร่างกายของพลทหารวรปรัชญ์ ถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง การลงโทษโดยการให้ดื่มปัสสาวะ การเตะ ต่อย หรือรุมกระทืบ เป็นการกระทำในลักษณะการลดทอนคุณค่าหรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง อันถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ซึ่งหากผู้บังคับบัญชาทราบแต่ไม่ดำเนินการเพื่อระงับการกระทำความผิดดังกล่าว ย่อมต้องรับผิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาตามกฎหมายนี้ด้วย กสม.เห็นว่า กรณีดังกล่าวซึ่งมีการกระทำทรมานจนเป็นเหตุให้พลทหารได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตนั้น การดำเนินการทางวินัยและการดำเนินคดีอาญาข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น อาจไม่เพียงพอและครบถ้วนตามพฤติการณ์แห่งการกระทำ
ดังนั้น กสม.จะส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เพิ่มเติม เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และป้องกันมิให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้ตาย ซึ่งจะต้องมีการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจต่อไป
อดีตกกต. ชี้ข้อบังคับพปชร. มีสิ่งที่พรรคอื่นไม่มี เตือนโทษพวกฝ่ามติ ชงชื่อพ่อ-น้อง เป็นรมต.แทน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4762983
อดีตกกต. ชี้ข้อบังคับพปชร. มีโทษที่พรรคอื่นไม่มี เตือนพวกสวนมติ เสี่ยงโทษหนัก ชงชื่อพ่อ-น้อง เป็นรมต.แทน
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า
ขว้างงูไม่พ้นคอ
ไม่รู้ใครเขียนข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พรรคอื่นอาจไม่มีสิ่งนี้ในข้อบังคับพรรค แต่พรรคพลังประชารัฐมี และมีเต็มๆ ครบทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร
ในข้อบังคับพลังประชารัฐ หมวด 8 มาตรฐานทางจริยธรรมของสมาชิกพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง ได้นำเนื้อหามาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ที่มีผลใช้บังคับกับ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี มาใช้แบบครบถ้วนไม่ตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรเดียว
แปลว่า อะไรที่บังคับกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ส.ส. ส.ว. รัฐมนตรี ก็มีบังคับใช้กับกรรมการบริหารพรรครวมไปถึงระดับสมาชิกพรรคด้วย
มาตรฐานนี้ คือ มาตรฐานที่เคยเอา ส.ส. รัฐมนตรี จนถึงนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งมาแล้ว
ข้อ 61 ของข้อบังคับพรรค เป็นมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ระบุว่า สมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค “ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองหรือผู้อื่น …..“
ในข้อ 78 ระบุว่า การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง
ตามด้วยข้อ 79 ที่ว่า การดำเนินการแก่บุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย
การนำชื่อบุคคลที่กรรมการบริหารไม่ได้มีมติเสนอเป็นรัฐมนตรีไปเสนอต่อพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยใช้จำนวนเสียง ส.ส.ในกลุ่มของตนไปแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะไม่ใช่ชื่อของตนเองในฐานะสมาชิกพรรค หากแต่เป็นชื่อน้อง ชื่อบิดา ชื่อหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นที่มีความเชื่อมโยงถึง ก็ไม่อาจพ้นผิดได้
เพราะในข้อ 61 ของข้อบังคับพรรคเขียนไว้ชัดว่า เพื่อตนเองหรือ “ผู้อื่น” ด้วย
ส่วนที่เขียนว่า ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญหรือ กฎหมาย ต่อไป นั่นคงหมายความว่า ไม่เพียงแค่มีมติขับออกด้วยข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยังจะมีการดำเนินการในเรื่องจริยธรรมต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งมีผลถึงการถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
ใครนะ ช่างรอบคอบในการเขียนข้อบังคับ ราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0wM15m3QP5eqxoM48dPv6WiTGqpyWSq9DXYn9TGpdSKbLLBxkAsM9puv2YTbq5RHXl
โตโยต้า เผยการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลดลง ส่วนในไทยลด 13%
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/414748
โตโยต้า เผย ผลิตรถยนต์ทั่วโลกลดลงติดกัน 6 เดือน หลังการผลิตในไทย และจีนชะลอตัวลงแรง
โดยสำนักข่ารอยเตอร์รายงานว่า บริษัท Toyota Motor Corp เปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตรถยนต์ทั่วโลก ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนกรกฎาคม โดยได้รับผลกระทบจากการผลิตที่ชะลอตัวลงในประเทศจีนและไทย โดยการผลิตรถยนต์ในจีนลดลง 6% ขณะที่การผลิตรถยนต์ในไทยลดลงถึง 13% อย่างไรก็ดี การผลิตรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนมิถุนายนที่ยอดการผลิตร่วงลงในอัตราเลขสองหลัก
ส่วนยอดขายรถยนต์ของโตโยต้า ลดลงน้อยกว่า 1% เนื่องจากยอดขายในตลาดขนาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ ลดลง 5% ขณะที่ยอดขายในจีนลดลง เนื่องมาจากการที่ผู้บริโภคหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินที่จำหน่ายโดยผู้ผลิตรถยนต์ของจีนนั้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อแบรนด์รถยนต์ต่างชาติ
รับชมทางยูทูบที่ :
https://youtu.be/oB8tFDe0Yw4
JJNY : 5in1 เหวงถามพท.│กสม.ชี้ละเมิดสิทธิ│อดีตกกต.เตือนโทษพวกฝ่ามติ│โตโยต้าผลิตรถลด ในไทยลด 13%│ศาลฮ่องกงตัดสิน 2 บก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4762014
เหวง ถามเพื่อไทย ลืมแล้วหรือ จะจับมือปชป. ด้านหมอหวาย รับยังไงก็ลืมไม่ลง ภาพศพเมื่อปี’53
จากกรณี นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แก่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นั้น
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าวว่า
“อย่าลืมเป็นอันขาดรัฐไทยฆ่าปชช. สองมือเปล่ากลางกรุงทั้งสองหนคือปี 2519
และปี 2553 ล้วนเกิดในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ เพื่อไทยลืมแล้วหรือ”
ด้าน นพ.สลักธรรม โตจิราการ หรือ หมอหวาย หมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง บุตรชาย นพ.เหวง โตจิราการ และ ธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำคนเสื้อแดง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในกรณีเดียวกันว่า
“ผมนึกถึงตอนไปดูการผ่าศพพิสูจน์ผู้ที่เสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน 2553
ภาพนั้นยังอยู่ในใจถึงวันนี้ ลืมอย่างไรก็ลืมไม่ลงและคงอยู่ในใจตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่”
https://www.facebook.com/drwengtojirakarn/posts/pfbid02p1JN7pYis5QUyT63w2z8ozXByRk4wRHnkuaCN9dMoJh7j7QHVvGDk93ZfvKyzWSHl
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0kzZj6msUuKFuTCvCP3186DNqNEsFcH9n7uzenJ671QfdmS6GofLFbfX1xqgwJtBFl&id=692245758
กสม. ชี้ ธำรงวินัย ‘พลทหารวรปรัชญ์’ เสียชีวิต ละเมิดสิทธิ เล็งส่งเรื่อง ‘อสส.-กก.ป้องกันการทรมานฯ’ เอาผิด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4762503
กสม. ชี้ ธำรงวินัย ‘พลทหารวรปรัชญ์’ เสียชีวิต ละเมิดสิทธิ เล็งส่งเรื่อง ‘อสส.-กก.ป้องกันการทรมานฯ’ เอาผิด
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงกรณีพลทหารวรปรัชญ์ พัดมาสกุล หรือน้องเน อายุ 18 ปี พลทหารผลัดที่ 1/67 สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการธำรงวินัยถูกลงโทษ ระหว่างการฝึก เมื่อวันที่ 2 ส.ค.67 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งผลการชันสูตรพบว่า อวัยวะภายในบอบช้ำ กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงหัก และปอดฉีกรั่ว ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 กองทัพบก ชี้แจงว่ากองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชาที่ขาดการกำกับดูแล จำนวน 3 ราย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนถึงผู้บังคับกองพัน และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นกำลังพลนายสิบและทหารกองประจำการ จำนวน 13 ราย ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายแล้วนั้น
กสม.ได้ติดตามข่าวประกอบกับได้รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งมีข้อมูลยืนยันว่า พลทหารวรปรัชญ์ ถูกเตะ ต่อย กระทืบ ให้เข้าเวรยาม 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง และถูกบังคับให้ดื่มปัสสาวะตนเอง จนสภาพร่างกายทนไม่ไหวและมีอาการป่วย แต่หน่วยงานไม่ส่งตัวไปรักษา ต่อมาเมื่ออาการป่วยรุนแรงจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่าย และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามลำดับ จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา กสม. เห็นว่าการธำรงวินัยและวิธีลงโทษของครูฝึก ครูผู้ช่วย รวมถึงกำลังพลที่เกี่ยวข้องที่กระทำต่อเนื้อตัวร่างกายของพลทหารวรปรัชญ์ ถือเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง การลงโทษโดยการให้ดื่มปัสสาวะ การเตะ ต่อย หรือรุมกระทืบ เป็นการกระทำในลักษณะการลดทอนคุณค่าหรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง อันถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ซึ่งหากผู้บังคับบัญชาทราบแต่ไม่ดำเนินการเพื่อระงับการกระทำความผิดดังกล่าว ย่อมต้องรับผิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาตามกฎหมายนี้ด้วย กสม.เห็นว่า กรณีดังกล่าวซึ่งมีการกระทำทรมานจนเป็นเหตุให้พลทหารได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตนั้น การดำเนินการทางวินัยและการดำเนินคดีอาญาข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น อาจไม่เพียงพอและครบถ้วนตามพฤติการณ์แห่งการกระทำ
ดังนั้น กสม.จะส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เพิ่มเติม เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และป้องกันมิให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้ตาย ซึ่งจะต้องมีการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายทั้งด้านร่างกายและจิตใจต่อไป
อดีตกกต. ชี้ข้อบังคับพปชร. มีสิ่งที่พรรคอื่นไม่มี เตือนโทษพวกฝ่ามติ ชงชื่อพ่อ-น้อง เป็นรมต.แทน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4762983
อดีตกกต. ชี้ข้อบังคับพปชร. มีโทษที่พรรคอื่นไม่มี เตือนพวกสวนมติ เสี่ยงโทษหนัก ชงชื่อพ่อ-น้อง เป็นรมต.แทน
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า
ขว้างงูไม่พ้นคอ
ไม่รู้ใครเขียนข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พรรคอื่นอาจไม่มีสิ่งนี้ในข้อบังคับพรรค แต่พรรคพลังประชารัฐมี และมีเต็มๆ ครบทุกบรรทัด ทุกตัวอักษร
ในข้อบังคับพลังประชารัฐ หมวด 8 มาตรฐานทางจริยธรรมของสมาชิกพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง ได้นำเนื้อหามาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ที่มีผลใช้บังคับกับ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี มาใช้แบบครบถ้วนไม่ตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรเดียว
แปลว่า อะไรที่บังคับกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ส.ส. ส.ว. รัฐมนตรี ก็มีบังคับใช้กับกรรมการบริหารพรรครวมไปถึงระดับสมาชิกพรรคด้วย
มาตรฐานนี้ คือ มาตรฐานที่เคยเอา ส.ส. รัฐมนตรี จนถึงนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งมาแล้ว
ข้อ 61 ของข้อบังคับพรรค เป็นมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ระบุว่า สมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค “ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองหรือผู้อื่น …..“
ในข้อ 78 ระบุว่า การฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง
ตามด้วยข้อ 79 ที่ว่า การดำเนินการแก่บุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย
การนำชื่อบุคคลที่กรรมการบริหารไม่ได้มีมติเสนอเป็นรัฐมนตรีไปเสนอต่อพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยใช้จำนวนเสียง ส.ส.ในกลุ่มของตนไปแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะไม่ใช่ชื่อของตนเองในฐานะสมาชิกพรรค หากแต่เป็นชื่อน้อง ชื่อบิดา ชื่อหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นที่มีความเชื่อมโยงถึง ก็ไม่อาจพ้นผิดได้
เพราะในข้อ 61 ของข้อบังคับพรรคเขียนไว้ชัดว่า เพื่อตนเองหรือ “ผู้อื่น” ด้วย
ส่วนที่เขียนว่า ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญหรือ กฎหมาย ต่อไป นั่นคงหมายความว่า ไม่เพียงแค่มีมติขับออกด้วยข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยังจะมีการดำเนินการในเรื่องจริยธรรมต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งมีผลถึงการถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
ใครนะ ช่างรอบคอบในการเขียนข้อบังคับ ราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid0wM15m3QP5eqxoM48dPv6WiTGqpyWSq9DXYn9TGpdSKbLLBxkAsM9puv2YTbq5RHXl
โตโยต้า เผยการผลิตรถยนต์ทั่วโลกลดลง ส่วนในไทยลด 13%
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/414748
โตโยต้า เผย ผลิตรถยนต์ทั่วโลกลดลงติดกัน 6 เดือน หลังการผลิตในไทย และจีนชะลอตัวลงแรง
โดยสำนักข่ารอยเตอร์รายงานว่า บริษัท Toyota Motor Corp เปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตรถยนต์ทั่วโลก ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนกรกฎาคม โดยได้รับผลกระทบจากการผลิตที่ชะลอตัวลงในประเทศจีนและไทย โดยการผลิตรถยนต์ในจีนลดลง 6% ขณะที่การผลิตรถยนต์ในไทยลดลงถึง 13% อย่างไรก็ดี การผลิตรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนมิถุนายนที่ยอดการผลิตร่วงลงในอัตราเลขสองหลัก
ส่วนยอดขายรถยนต์ของโตโยต้า ลดลงน้อยกว่า 1% เนื่องจากยอดขายในตลาดขนาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ ลดลง 5% ขณะที่ยอดขายในจีนลดลง เนื่องมาจากการที่ผู้บริโภคหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินที่จำหน่ายโดยผู้ผลิตรถยนต์ของจีนนั้น ยังคงสร้างแรงกดดันต่อแบรนด์รถยนต์ต่างชาติ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/oB8tFDe0Yw4