บทนำก่อนเล่าเรื่อง ปีที่เกิดเหตุ ประมาณปี พ.ศ. 2540 สถานที่เกิดเหตุ สวนผลในไม้จังหวัดนครปฐม
เหตุการณ์ก่อนหน้า พ่อกับแม่ไปดูดวง เพื่อที่จะปลูกบ้านใหม่ เนื่องจาก2-3ปีที่ผ่านมาได้เงินจากการขายผลไม้(องุ่น) ทำให้มีเงินเก็บจำนวนหนึ่งจึงอยากสร้างบ้านใหม่จึงไปดูฤกษ์กับหมอดูที่เป็นผู้นับถือกันแถวบ้าน เพื่อที่จะปลูกบ้านใหม่โดยกำหนดคร่าว ๆ ว่าประมาณปลายปี แต่หมอดูทักท้วงว่า ปีนี้พ่อดวงตกสุดๆ ช่วงนี้พยายามอย่าสร้างของใหญ่ ถ้าสร้างบ้านก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ อย่ามีเรื่องราวขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะจะแพ้คดีจนหมดตัว อย่าพยายามออกจากบ้านไปค้างที่ไหนหรือกลับบ้านดึกเพราะจะมีเคราะห์รุนแรง
เรื่องบ้าน แม่เชื่อหมอและหยุดเรื่องสร้างบ้านไว้ก่อน
เรื่องคดีความ ก่อนวันที่จะโดนผีเข้าประมาณ 2 เดือน มีญาตห่าง ๆ หลอกคนมาฆ่าชิงทรัพย์ตายในซอยสวนที่บ้าน โดยพบกองเลือดอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ลุง-ป้าเป็นคนเอาน้ำมาล้างรอยเลือด เพื่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยป้าและญาตแถวๆนั้น รวมถึงพ่อรู้ว่าคนฆ่าเป็นใคร เพราะเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน คืนเกิดเหตุ คนนี้มานั่งดื่มเหล้าอยู่ในกระเตงสวนบริเวณจุดเกิดเหตุ พ่อผู้อยากรู้อยากเห็น พยายามจะหาว่าเอาศพไปทิ้งไหน จนได้เรื่อง , 3-4 วันหลังเกิดเหตุ พ่อไปพบศพคนตายอยู่ในดงหญ้าข้างถนนในซอยแถวบ้านที่เป็นถนนที่คนไม่ค่อยผ่าน สภาพศพเน่าอืด เริ่มส่งกลิ่นเหม็น ย้อนไปเรื่องหมอดู ทุกคนในบ้าน ห้ามไม่ให้พ่อบอกใครว่าพบศพ ห้ามไม่ให้เป็นคนแจ้งตำรวจ ให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพื่อให้คนอื่นเป็นคนมาพบและแจ้งแทน เพราะกลัวตำรวจสอบสวนแล้วจะหลุดปากว่าใครเป็นคนฆ่า กลัวว่าคนฆ่าจะตามมาฆ่าปิดปากครอบครัว ตอนนั้นทุกคนในบ้านกลัวมาก เพราะพ่อเป็นคนดื้อไม่ฟังใคร ดีที่สุดท้ายเรื่องนี้จบลง ตรงลุงเป็นคนไปแจ้งว่าเป็นคนพบศพคนแรก (เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) ให้เหตุผลว่าจะไปจับนกเป็ดน้ำบริเวณนั้นเลยพบศพ สุดท้ายตำรวจก็ตามจับคนร้ายได้ คนร้ายรับสารภาพว่าหลอกผู้ตายมาฆ่าชิงทรัพย์ เรื่องนี้ก็จบลงไป (เคยเป็นข่าวลงในหนังสือพิมพ์)
วันที่พ่อโดนผีเข้า เป็นวันที่พ่อต้องไปช่วยรักษาความปลอดภัยที่งานวัดแถวบ้าน(พ่อเป็น อปพร) ซึ่งคืนสุดท้ายของงาน จะต้องมีการนับเงินทำบุญ ซึ่งทำให้ต้องกลับบ้านดึกมากกว่าปกติ เวลาเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน ระหว่างที่พ่อเดินผ่านหน้าเมรุวัด พ่อก็เหมือนโดนลมตบหน้าอย่างแรง หลังจากนั้นก็ประคองสติ แต่พ่อปวดหัวอย่างนัก จนไม่สามารถขับรถกลับบ้านเองไม่ได้ (ตอนนั้นผมอยู่ ป.6) ผมต้องขับรถกระบะกลับบ้านให้พ่อแทนจนถึงบ้าน เรื่องคืนนั้นก็จบลงเท่านี้ เป็นว่าคืนนี้ พ่อก็กลับบ้านพร้อมกับวิญญาณของอีกคนที่อยุ่ในร่างกายพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จบบทนำ
เมื่อมีวิญญาณของคนอื่น มาอยู่ในร่างกายของคนในบ้าน
เหตุการณ์ก่อนหน้า พ่อกับแม่ไปดูดวง เพื่อที่จะปลูกบ้านใหม่ เนื่องจาก2-3ปีที่ผ่านมาได้เงินจากการขายผลไม้(องุ่น) ทำให้มีเงินเก็บจำนวนหนึ่งจึงอยากสร้างบ้านใหม่จึงไปดูฤกษ์กับหมอดูที่เป็นผู้นับถือกันแถวบ้าน เพื่อที่จะปลูกบ้านใหม่โดยกำหนดคร่าว ๆ ว่าประมาณปลายปี แต่หมอดูทักท้วงว่า ปีนี้พ่อดวงตกสุดๆ ช่วงนี้พยายามอย่าสร้างของใหญ่ ถ้าสร้างบ้านก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ อย่ามีเรื่องราวขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะจะแพ้คดีจนหมดตัว อย่าพยายามออกจากบ้านไปค้างที่ไหนหรือกลับบ้านดึกเพราะจะมีเคราะห์รุนแรง
เรื่องบ้าน แม่เชื่อหมอและหยุดเรื่องสร้างบ้านไว้ก่อน
เรื่องคดีความ ก่อนวันที่จะโดนผีเข้าประมาณ 2 เดือน มีญาตห่าง ๆ หลอกคนมาฆ่าชิงทรัพย์ตายในซอยสวนที่บ้าน โดยพบกองเลือดอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ลุง-ป้าเป็นคนเอาน้ำมาล้างรอยเลือด เพื่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยป้าและญาตแถวๆนั้น รวมถึงพ่อรู้ว่าคนฆ่าเป็นใคร เพราะเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน คืนเกิดเหตุ คนนี้มานั่งดื่มเหล้าอยู่ในกระเตงสวนบริเวณจุดเกิดเหตุ พ่อผู้อยากรู้อยากเห็น พยายามจะหาว่าเอาศพไปทิ้งไหน จนได้เรื่อง , 3-4 วันหลังเกิดเหตุ พ่อไปพบศพคนตายอยู่ในดงหญ้าข้างถนนในซอยแถวบ้านที่เป็นถนนที่คนไม่ค่อยผ่าน สภาพศพเน่าอืด เริ่มส่งกลิ่นเหม็น ย้อนไปเรื่องหมอดู ทุกคนในบ้าน ห้ามไม่ให้พ่อบอกใครว่าพบศพ ห้ามไม่ให้เป็นคนแจ้งตำรวจ ให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพื่อให้คนอื่นเป็นคนมาพบและแจ้งแทน เพราะกลัวตำรวจสอบสวนแล้วจะหลุดปากว่าใครเป็นคนฆ่า กลัวว่าคนฆ่าจะตามมาฆ่าปิดปากครอบครัว ตอนนั้นทุกคนในบ้านกลัวมาก เพราะพ่อเป็นคนดื้อไม่ฟังใคร ดีที่สุดท้ายเรื่องนี้จบลง ตรงลุงเป็นคนไปแจ้งว่าเป็นคนพบศพคนแรก (เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) ให้เหตุผลว่าจะไปจับนกเป็ดน้ำบริเวณนั้นเลยพบศพ สุดท้ายตำรวจก็ตามจับคนร้ายได้ คนร้ายรับสารภาพว่าหลอกผู้ตายมาฆ่าชิงทรัพย์ เรื่องนี้ก็จบลงไป (เคยเป็นข่าวลงในหนังสือพิมพ์)
วันที่พ่อโดนผีเข้า เป็นวันที่พ่อต้องไปช่วยรักษาความปลอดภัยที่งานวัดแถวบ้าน(พ่อเป็น อปพร) ซึ่งคืนสุดท้ายของงาน จะต้องมีการนับเงินทำบุญ ซึ่งทำให้ต้องกลับบ้านดึกมากกว่าปกติ เวลาเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืน ระหว่างที่พ่อเดินผ่านหน้าเมรุวัด พ่อก็เหมือนโดนลมตบหน้าอย่างแรง หลังจากนั้นก็ประคองสติ แต่พ่อปวดหัวอย่างนัก จนไม่สามารถขับรถกลับบ้านเองไม่ได้ (ตอนนั้นผมอยู่ ป.6) ผมต้องขับรถกระบะกลับบ้านให้พ่อแทนจนถึงบ้าน เรื่องคืนนั้นก็จบลงเท่านี้ เป็นว่าคืนนี้ พ่อก็กลับบ้านพร้อมกับวิญญาณของอีกคนที่อยุ่ในร่างกายพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จบบทนำ