พ่อเราทำประกันกับกรุงไทยแอกซ่า(เราจะเรียกว่า เล่ม1) เมื่อส่งเงินครบตามสัญญา ตัวแทนประกันมาหาที่บ้านเพื่อชักชวนทำประกันเล่มใหม่ โดยยื่นข้อเสนอว่า ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ทางตัวแทนจะดำเนินการดึงเงินจากกรมธรรม์เล่ม 1 มาส่งให้กรมธรรม์เล่มใหม่ ซึ่งก็เป็นของแอกซ่า เป็นเล่มที่ 2 เมื่อตัวแทนประกันยื่นข้อเสนอต่างๆ เกี่ยวกับผลประโยชน์ พ่อจึงตัดสินใจทำ และมีการดำเนินการนำเงินออกจากเล่ม 1 มาใส่เล่ม 2 จริง โดยมีการทำธุรกรรมผ่านเจ้าของบัญชี ซึ่งหมายความว่าได้รับการยินยอมโดยตรงจากพ่อ แต่เมื่อถึงปีที่ 2 ที่ต้องจ่ายเล่มที่ 2 ทางตัวแทนแจ้งว่าให้หยุดจ่ายเล่มที่ 2 และให้มาทำเล่มที่ 3 จะได้สิทธิประโยชน์ดีกว่า และเงินที่จ่ายไปในเล่มที่ 2 ทางตัวแทนจะดำเนินการชดใช้คืนให้ในการจ่ายงวดสุดท้ายของการจ่ายเล่มที่ 3 เพราะนั่นเป็นจรรยาบรรณของตัวแทน (คำกล่าวอ้างของตัวแทน) ซึ่งเล่ม 3 เป็นของ AIA ชื่อตัวแทนประกันไม่ใช่ชื่อเดิมกับเล่ม 2 แต่ใช้เบอร์โทรติดต่อตัวแทนเล่ม 2 (แอกซ่า) และเล่ม 3 (AIA) เบอร์เดียวกัน ปัจจุบันติดต่อไม่ได้ เมื่อได้เริ่มต้นจากปีแรกแล้ว พ่อจึงตัดสินใจเชื่อมั่นในตัวแทนประกัน และทำตามที่ตัวแทนประกันชักชวน 

เริ่มจ่ายเล่ม 3 (AIA)ได้ 1 ปี โดยการดึงเงินออกจาก ประกันเล่ม 1 เช่นเดิม และเมื่อครบกำหนดจ่ายในปีที่ 2 (สิงหาคม 2566)ทางตัวแทนเงียบหาย ไม่ติดต่อ พอติดต่อได้ ตัวแทนประกันแจ้งว่าติดปัญหา ยังไม่สามารถดึงเงินออกมาจ่ายได้ แต่ลูกค้าไม่ต้องกังวล ไม่มีปัญหาแน่นอน และเงียบหายไปอีก มีการติดต่อพูดคุยกันหลายครั้ง(ซึ่งติดต่อยากมากๆ) และได้คำตอบเดิม คือ มูลค่าเงินในเล่มแรกยังไม่เพียงพอที่จะดึงมาจ่ายในเล่มที่ 3 ต้องรอเวลาก่อน จนในที่สุดประมาณปลายปี 66 มีการนัดพูดคุยกัน ตกลงกันได้ว่า ทางเราจะดำเนินการดึงเงินออกมาเอง และจะดำเนินการจ่ายเอง แต่ขอให้ทางตัวแทนปรับยอดการส่งเงินประกันให้ยอดเงินที่ต้องจ่ายน้อยลง และหากพบปัญหาใดๆ ตัวแทนยินดีให้คำปรึกษาทุกอย่าง และยังยืนยันว่า เงินงวดสุดท้ายจะชดเชยให้ 

และหลังจากนั้นเราจะเข้าไปดำเนินการตามที่ตัวแทนประกันแนะนำแต่เราทำไม่ได้ เราจึงพยายามติดต่อกับทางตัวแทนประกันเพื่อขอคำแนะนำ แต่ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ซึ่งเราพยายามสอบถามเพื่อนที่ขายประกัน หลายคนบอกว่าจะทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่น่าไปทำแบบนี้เลย ล่าสุดมีโอกาสได้คุยกับตัวแทนประกัน คนที่เขาดูแลเพื่อนร่วมงานเราอยู่ เขาได้ให้คำแนะนำ และตรวจสอบข้อมูลให้เบื้องต้น สรุปว่า เราไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ จากการรับปากของตัวแทนล่าสุดเลย ไม่มีการปรับเบี้ยประกันใดๆ ตามที่เขาแจ้งว่าดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

ผลจากการที่เราโง่เขลา ไม่ศึกษาหาความรู้ และหลงเชื่อคำพูดของตัวแทนประกัน ตอนนี้เราได้เรียนรู้และเราถือว่านั่นคือบทเรียนที่จะทำอะไรต้องรอบคอบกว่านี้ พ่อเราต้องกลับไปทำให้ประกันเล่มแรกที่ไปนำเงินออกมา ให้สถานะสมบูรณ์ตามเดิม ด้วยยอดเงินทั้งหมดรวมดอกเบี้ย ประมาณ 55,000 บาท ที่ต้องจ่ายคืน
-ตอนนี้ดำเนินการชดเชยเงินที่ดึงออกมาจากเล่ม 1 เรียบร้อยแล้ว
-ติดต่อไปที่ คปภ. แล้ว เขาแนะนำให้ติดต่อบริษัทประกัน 
-กรุงไทยแอกซ่า เล่ม 2 บริษัทประกันให้พยายามติดต่อหาตัวแทน แต่สถานะเล่มกรมธรรม์ไม่มีผลแล้ว บริษัทดำเนินการอะไรให้ไม่ได้
-AIA ติดต่อ call center ยากมาก ล่าสุด ฝากข้อความไว้ รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ทั้งหมดที่เราเล่ามานั้น เราเพียงหวังว่าเราจะได้รับการดูแล ไม่มากก็น้อย 
และเราจะสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ไหม ถึงแม้สำหรับบางคน เงินที่เสียไปอาจจะไม่มากมาย แต่สำหรับบางคน เงินนั้นก็มีประโยชน์มหาสาร

เราไม่ได้โทษบริษัทประกันนะคะ แต่เราโกรษจรรยาบรรณของตัวแทนขายประกันมากกว่า

มีคำถามหนึ่งเกิดขึ้นในหัว "ตอนเสนอขายบอกว่าจะดูแลเราเป็นอย่างดี ดำเนินการให้ทุกอย่าง แต่พอมีปัญหาทำไมลูกค้าต้องแบกรับภาระ และแก้ปัญหาเองทั้งหมด" คนเฒ่าคนแก่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร ก็หวังพึ่งแต่ตัวแทนประกันนั่นแหละที่จะดูแล 

ในฐานะที่เราพลาดมาก่อน ฝากเป็นข้อคิดสำหรับทุกท่านนะคะ 
-เราซื้อประกันจากตัวแทนประกันก็จริง ถ้าตัวแทนประกันเราน่ารัก ดูแลเราดีสม่ำเเสมอ มีจรรยาบรรณ จริงใจในการดูแล นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่เราเองก็ไม่ควรเชื่อใจตัวแทนมากนัก เมื่อเราซื้อประกันแล้ว การติดต่อประสานงานกับบริษัทโดยตรง เป็นเรื่องที่ดีและสำคัญมาก ๆ 

จากประสบการณ์การได้รับคำเสนอขายประกันมา ส่วนใหญ่มักจะพูดถึงผลประโยชน์ที่ได้รับ ชักชวนให้สนใจ ส่วนข้อเท็จจริงหลักๆ บางเรื่องกลับไม่กล่าวถึง สุดท้ายแล้วผู้ซื้อประกันชีวิตเองต้องมีไหวพริบที่สุด รู้เท่าทันผู้ขาย หาความรู้เพิ่มเติมก่อน ตัวแทนประกันถูกฝึกมาอย่างดีในเรื่องการเสนอขาย คำพูดคำจาน่าเชื่อถือไปหมด ระวังกันด้วยนะคะ