[CR] Georgia, ผู้มั่งคั่งแห่งอูดาบโน (Udabno )



บนจุดที่สูงที่สุดแห่งที่ราบสูงกาเรจิ ทุ่งหญ้าสีน้ำตาลไกลสุดตา ลดหลั่นเหลื่อมไปตามเนินเขาที่สลับกันไป ถ้าหรี่ตาลงเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางคลื่นทะเลทรายสีน้ำตาลตัดกับฟ้าสีน้ำเงิน  ห่างจากชายแดนอาเซอร์ไบจานไม่เกิน 5 กิโลเมตร   เงียบจนมีเพียงเสียงลมเบาๆปะทะใบหน้า มีเพียงเราสี่คนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ...จนกระทั่ง.. 
.
พี่ไป Oasis ที่อูดาบโน พี่จะชอบ
ยังไง  คืออะไร”
มันเงียบมากกก ไม่มีคน  ไม่วุ่นวาย เป็นเวิ้งทะเลทรายกว้างสุดตา
ไม่เหงาตายเหรอ?
ไม่นะ  มีคลับ มีเสน่ห์ มีนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็ก ไปดมขี้วัวกัน
.
ท้ายๆทริปแล้วเรายังไม่ได้ไปโบสถ์ในคาเคทิทีหมักไวน์พันปีเลย  ในที่สุดเราตัดสินใจไปอูดาบโน ตามคำเชิญชวนของน้องในทริปที่มาจอร์เจียเป็นรอบที่สี่ 555
.


กลับมาตั้งต้นที่ทบิลิซี่ใหม่ขับไปประมาณชั่วโมง ทิวทัศน์เริ่มเปลียนเป็นทุ่งหญ้าสีน้ำตาลเข้ม เริ่มมีฝูงแกะเดินริมถนนโดนต้อนมาข้ามถนนเป็นร้อยตัว  คนเลี้ยงแกะเลี้ยงฝูงม้าหลายตัว   เราขับไปจอดที่เกือบชายแดนจอร์เจีย-อาเซอร์ไบจาน  มีป้อมไม้เล็กๆ ตั้งอยู่ห่างไปเกือบกิโลบนสันของเนินกับรถกระบะจอดอยู่   นี่มองข้ามไปเป็นเขตอาร์เซอร์ไบจานสินะ..ไม่มีรั้ว แม่น้ำหรืออะไรเป็นขอบเขตแดนให้รู้เลย  มีแต่กะๆเอาจากบนกูเกิ้ลแมพ ที่นำทางมา

ปี๊ดๆๆๆ.....”     มีเสียงนกหวีดดังมาพร้อมรถกระบะทีขับเคลื่อนใกล้เข้ามา เป็นรถตำรวจลาดตระเวน!!!!

เราทั้งหมดขึ้นรถและขับกลับเข้าไปในเขตแดนอูดาบโน
 
 
Oasis Club พื้นที่ซ่อนตัวในอูดาบโน่

Udabno ในภาษาจอร์เจียหมายถึงทะเลทราย หมู่บ้านเล็กๆ สร้างขึ้นในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 โดยผู้อพยพจากภูมิภาค Svaneti บนภูเขา ใกล้กับอาราม Davit-Gareji   จุดเริ่มต้นของหมู่บ้านทะเลทรายแห่งนี้ เป็นผู้ประกอบการชาวโปแลนด์ที่เริ่มต้นธุรกิจในสถานที่ห่างไกล  จนถึงตอนนี้เขาสามารถสร้าง Club ขึ้นมาเองได้ มีทั้งบาร์ ร้านอาหาร และโฮสเทล
.
Oasis Club มี 2 แห่งอยู่ใกล้กันเปิดสลับกันในฤดูร้อน-หนาว วันที่เราเข้าพักมีกลุ่มทำสารคดีจากยุโรปมาทานอาหารที่เจ้าของทำเองเป็นโฮมเมด กลิ่นอบอวลของอาหารและเสียงคุยกันให้คลายเหงา 
.
โฮลเตลห้องที่เราอยู่ชั้น 3 เปิดโล่งมี 10 เตียง แต่มีเราเพียง 4 คนไม่มีนักท่องเที่ยวอื่นพักเลยทั้งหลัง  ห้องน้ำรวมอยู่ชั้นล่าง   ตกเย็นเราไปนั่งก่อกองไฟที่คลับมีด้านหลังเจอนักท่องเที่ยวจากตุรกี นั่งดูน้องวัวที่เดินกลับเข้าบ้านท่ามกลางพระอาทิตย์ตกดิน  
.
วันต่อมาเราหาทางเสิรชไปหุบเขาสีแดงหรือสีรุ้งเรียกว่า Red Mountain ไม่มีทางลาดยาง ใช้ขับ 4 wheel ที่เราเช่าไว้ตลอดทริปไปตามทางที่น้องเคยปักโลเคชั่นไว้   ระหว่างทางเราหยุดลงไปเดินและถ่ายรูปบนเนินหญ้ากว้างไกลสุดตา มองเห็นแต่ฝูงแกะและคนเลี้ยงขี่ม้าอยู่ไกลๆ   จนกระทั่ง...

มีผู้ชายขี่มาเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ  “กัมมะ โจบา”  พร้อมเสียงทักทายภาษาจอร์เจีย เราคุยกันคนละภาษาแต่ใช้ภาษากายและเดาว่า เค้ามาแนะนำจุดถ่ายรูปของ Red Mountain  และยื่นให้เราลองขึ้นขี่ม้า ตอนแรกเรายังคิดว่าเค้าจะมาเก็บเงินทีหลังมั้ย  ก่อนจากกันเค้าไม่ได้เรียกร้องอะไร อำลาพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร เราเลยบอกให้รอแล้ววิ่งไปเอาช้อคโกแลตที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก้ตให้ไป  เค้าขอบคุณและยิ้มตาเป็นประกาย
.
พีรู้มั้ยวัวตัวละเท่าไหร่  ม้าตัวละเท่าไหร่...เค้าถือเป็นคนมีตังค์เลยนะ
เราไม่แน่ใจว่าราคาเท่าไหร่  แต่ดูจากแววตา ท่าทางและส่งต่อมิตรภาพให้ผู้มาเยือน..เค้าคือผู้มั่งคังแห่งอูดาบโน..

ฉันมีความสุขที่อูดาบโน.. 
อมยิ้ม50

ชื่อสินค้า:   จอร์เจีย (Georgia)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่