JJNY : เท้งชี้ถึงเวลาจัดการลุ่มน้ำโขง│อดีตกกต.มชี้โทษหนัก│ดัชนีเชื่อมั่นซื้อที่อยู่อาศัยยังต่ำ│สหรัฐอัดฉีดให้ยูเครนเพิ่ม

เท้ง รุดให้กำลังใจ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย ชี้ ถึงเวลาจัดการลุ่มน้ำโขงอย่างเป็นระบบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4753183
 
 
เท้ง รุดให้กำลังใจ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย ชี้ ถึงเวลาจัดการลุ่มน้ำโขงอย่างเป็นระบบ
 
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ได้โพสต์เอ็กซ์และเฟซบุ๊ก ภายหลังลงพื้นที่น้ำท่วมใน อ.ขุนตาล อ.เวียงแก่น อ.เทิง ที่ จ.เชียงราย วานนี้ (23 สิงหาคม) ว่า

ข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการจัดการน้ำป่า-น้ำอิง-น้ำโขง ต่อปัญหาน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย
 
จากการลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายที่ อ.เวียงแก่น อ.ขุนตาล และ อ.เทิง จ.เชียงราย พร้อมกับ ส.ส.ปั๋น – ชิตวัน ส.ส.หญิง – จุฬาลักษณ์ ส.ส.ไดซ์ – ฐากูร และ ส.ส.ต้น – นิติพล
เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.67) พบว่า ในแต่ละพื้นที่มีลักษณะของปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่มีฝนตกชุกรุนแรงในเวลาเดียวกัน ซึ่งปริมาณน้ำฝนในช่วง 3 วัน 21-23 สิงหาคม แต่ละจุดสูงถึงประมาณ 200 มิลลิเมตร ประกอบกับการระบายน้ำของเขื่อนตอนบนในลุ่มน้ำโขง เพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน จาก 1,375 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในวันที่ 19 สิงหาคม เป็น 2,205 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในวันที่ 23 สิงหาคม ทำให้การระบายน้ำในลุ่มน้ำอิงและลุ่มน้ำงาวทำได้ยากขึ้น
 
ที่ อ.เวียงแก่น เป็นน้ำป่าไหลหลาก ช่วงเวลาที่ผมไปถึงน้ำผ่านไปแล้ว เหลือไว้แต่เพียงเศษซากและขี้โคลนที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จากหลายเทศบาลในบริเวณนั้นมาช่วยกันทำความสะอาด วิธีการป้องกันเหตุภัยพิบัติจากน้ำป่า นอกเหนือจากการไม่ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อรักษาสภาพป่าให้สมบูรณ์แล้ว ระบบโทรมาตรวัดน้ำฝนบนพื้นที่ต้นน้ำที่เป็นป่าเขา ก็เป็นส่วนสำคัญในการแจ้งเตือนภัยก่อนที่น้ำจะหลากมาถึงบ้านเรือนประชาชน
 
จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า พื้นที่ในบริเวณนั้นยังขาดสถานีโทรมาตรวัดน้ำฝนที่ทั่วถึง (ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องไปตรวจวัดเอง เลยมักจะตั้งในที่ราบ) ซึ่งนอกเหนือจากระบบการแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ที่มีการตั้งงบประมาณเข้ามาในปี 2567 แล้ว การจัดสรรงบประมาณเพื่อตั้งสถานีมาตรวัดน้ำฝนบนพื้นที่ป่าเขาก็มีส่วนสำคัญ ที่พวกเราต้องเข้าไปผลักดันร่วมกันต่อไปครับ
 
ส่วนที่ อ.ขุนตาล และ อ.เทิง มีลักษณะของปัญหาอีกแบบหนึ่ง เป็นปัญหาเชิงระบบการจัดการลุ่มน้ำโขง ที่เกี่ยวพันกับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า แผนพลังงานแห่งชาติ และประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว)
 
ที่ อ.ขุนตาล และ อ.เทิง สถานการณ์น้ำท่วม ณ ขณะที่ผมไปยังค่อนข้างวิกฤต เพราะระดับน้ำในน้ำอิงยังล้นเอ่อและไหลท่วมรุนแรง
น้ำอิงเป็นน้ำที่ไหลมาจากใต้-ขึ้น-เหนือ จากพะเยา-ผ่านเชียงราย-ออกแม่โขง สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีฝนตกหนัก น้ำอิงจากพะเยา (ต้นน้ำ) ก็สูง ระดับน้ำในแม่โขง (ปลายน้ำ) ก็สูง ทำให้ อ.ขุนตาล และ อ.เทิง ที่อยู่กลางน้ำเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในระดับวิกฤตในรอบหลายสิบปี ปู่ ย่า ตา ยาย หลายคนที่ผมไปเจอมาเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เกิดมา 70-80 ปี ไม่เคยเห็นปีไหนน้ำท่วมหนักเท่านี้มาก่อน
 
เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับวิธีการในการบริหารจัดการลุ่มน้ำในบริเวณนี้ร่วมกัน นอกเหนือจากการขุดลอกคูคลองท้องน้ำให้ลึกเพื่อให้น้ำระบายได้เร็ว ซึ่งเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในภาพเล็กแล้ว ผมคิดว่าภาพกลางเช่นการหาพื้นที่รับน้ำ (แก้มลิง) ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรศึกษาไว้ในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคต
 
ส่วนภาพใหญ่ที่สุด คือ เรื่องการจัดการลุ่มน้ำโขง ที่พวกเราได้รับเสียงสะท้อนจากชาวบ้านในพื้นที่ต่อข้อห่วงใยในโครงการสร้างเขื่อนปากแบงใน สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้เอกชนได้เซ็นสัญญาการสร้างเขื่อน และแผนการรับซื้อพลังงานไฟฟ้ากลับมายังประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือขั้นตอนสุดท้ายในการฟังความคิดเห็นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
 
แน่นอนที่สุดว่าการสร้างเขื่อน ย่อมสร้างผลกระทบให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนสูงขึ้น ซึ่งในมุมมองของชาวบ้าน ย่อมเกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย บริเวณที่ผมไปลงพื้นที่นี้โดยตรง ซึ่งชาวบ้านมีความเป็นห่วงว่าหากเขื่อนปากแบงนี้สร้างเสร็จ อาจส่งผลกระทบให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณนี้หนักขึ้นไปอีก โดยเฉพาะ อ.เวียงแก่น ที่ติดกับ สปป.ลาว และเอกชนยังไม่มีการพูดถึงค่าชดเชยจากผลกระทบต่อสายน้ำหลักและสายน้ำรองหลังจากการสร้างเขื่อน
 
เรื่องการสร้างเขื่อนปากแบงนี้ ส.ส.พรรคประชาชนได้เคยตั้งข้อสังเกตถึงความจำเป็นในการสร้าง เพราะไทยสามารถต่อสัมปทานเขื่อน 5-6 แห่งใน สปป.ลาว ที่สัญญากำลังจะหมดลง โดยถ้าต่อสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนเหล่านี้จะมีต้นทุนเพียง 1-1.5 บาท/หน่วย ในขณะที่การไฟฟ้าเซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนปากแบงในราคา 2.8-2.9 บาท/หน่วย
 
จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคเหนือในครั้งนี้ ขอให้หน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เร่งสนับสนุนการทำหน้าที่ช่วยเหลือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และเครือข่ายอาสาสมัคร ในพื้นที่ในการเข้าช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูพื้นที่โดยเร่งด่วน นอกเหนือจากนี้แล้ว ผมคิดว่าควรเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เราควรเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเป็นวงกว้างต่อการบริหารจัดการน้ำในบริเวณลุ่มน้ำนี้ทั้งระบบ รวมถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนในการสร้างเขื่อนปากแบงด้วยครับ

https://x.com/teng_mfp/status/1827204955947831352



อดีตกกต. ชี้โทษหนัก พวกไม่ผ่านมติ แยกก๊วน ส่งชื่อรมต. พรรคแกนนำก็เสี่ยงโดนด้วย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4753289

อดีตกกต. ชี้โทษหนัก พวกไม่ผ่านมติ แยกก๊วน ส่งชื่อรมต. พรรคแกนนำก็โดนด้วย ฐานสมรู้ร่วมคิด 
 
จากกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แบ่ง 2 กลุ่ม ระหว่างกลุ่มของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค เพื่อชิงเสนอชื่อคนเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมดึง 21 เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขสถานการณ์ระหว่างกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้รัฐบาลมีทั้งหมด 330 เสียง ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ โดยกลุ่มพล.อ.ประวิตร ได้มีมติกก.บห. ยืนยันส่ง 4 ชื่อเดิม
 
ล่าสุด (24 ส.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกลาวว่า
 
 เมื่อวานเดินผ่าน ได้ยินคนคุยกัน พวกที่อยู่พรรคการเมืองหนึ่ง แต่แอบติดต่อกับพรรคแกนนำรัฐบาล เสนอชื่อใครต่อใครร่วมรัฐบาล โดย กรรมการบริหารพรรคไม่ได้ให้ความเห็นชอบ และอ้างว่าตัวเองมีเสียง ส.ส. ในมือเท่าโน้นเท่านี้ เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรี โปรดระวัง
 
1. อาจมีผู้ไปร้องต่อ ป.ป.ช.ว่า ท่านทำผิด พ.ร.ป. พรรคการเมืองในเรื่องการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง และฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว นำไปสู่การถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต
 
2. ผู้บริหารพรรคการเมือง ที่รับผู้ที่รู้หรือสมควรรู้ว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ขัดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง อาจถูกรางวัลใหญ่ตามไปด้วย
 
เดินผ่าน แล้วบังเอิญได้ยินมาครับ
 
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02cAUX3qBVK2reoobvF2n9f2eLYKu6sSnBGGWrChqkmpbccbiQp9XFRtpN9VUX1pJTl
 

 
แรงกดดันรอบด้าน มาตรการกระตุ้นไร้ผล ฉุดดัชนีเชื่อมั่นซื้อที่อยู่อาศัยยังต่ำ ยอดขายบ้านใหม่วูบ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4753335

แรงกดดันรอบด้าน มาตรการกระตุ้นไร้ผล ฉุดดัชนีเชื่อมั่นซื้อที่อยู่อาศัยยังต่ำ ยอดขายบ้านใหม่วูบ

วันที่ 24 สิงหาคม นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ-ปริมณฑลไตรมาส 2/2567 มีค่าดัชนีระดับ 39.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบไตรมาส 1 โดยเป็นระดับความเชื่อมั่นที่ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 สะท้อนผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีความเชื่อมั่นในเกณฑ์ต่ำ แม้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ และค่าจดจำนอง มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ช่วยให้เข้าถึงสินเชื่อได้และกระตุ้นให้ตลาดมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบหลายด้าน เช่น มาตรการ LTV หนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 90% ของจีดีพี สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ การปฏิเสธสินเชื่อสูงขึ้นในกลุ่มมีรายได้น้อย-ปานกลาง ภาวะดอกเบี้ยทรงตัวสูง 2.50% และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ล้วนส่งผลความสามารถในการซื้อและการผ่อนชำระลดลง กระทบต่อยอดขายที่อยู่อาศัยโดยตรง

นายวิชัยกล่าวว่า ผลสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ 32.1% ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซื้อเพื่อลงทุนเก็งกำไรและให้เช่า 17.8% ซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน 15% โดยต้องการทั้งมือหนึ่งหรือมือสอง 54.5% เฉพาะที่อยู่อาศัยมือหนึ่งลดลง ด้านประเภทที่ต้องการซื้อ เป็นบ้านเดี่ยว 39.3% ราคา 3-5 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 36% ราคา 2-3 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์19.4% ราคา 2-3 ล้านบาท บ้านแฝด 5% ราคา 3- 5ล้านบาท กลุ่มผู้มีอายุอยู่ระหว่าง 18-44 ปี สนใจซื้อบ้านเดี่ยวมากสุด กลุ่มอายุระหว่าง 45-54 ปี และ 55 ปีขึ้นไป สนใจซื้อคอนโดมิเนียม เกิดจากความต้องการซื้อเพื่อลงทุนและเก็งกำไร เพราะเป็นกลุ่มที่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองแล้ว ส่วนจังหวัดที่สนใจมีกรุงเทพฯ ทำเลแนวรถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน เช่น  พระราม 9 บางนา บางแค ลาดพร้าว และ ห้วยขวาง รองลงมาเป็นนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร ส่วนจังหวัดอื่น ๆ เช่น ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่