ชวนไปไหว้หลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ วัดโกโรโกโส กราบหลวงปู่ดู่วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา



สวัสดีครับ วันนี้ขอชวนชาวพันทิปไปเที่ยววัดไหว้หลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ วัดโกโรโกโส และกราบหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก ที่อำเภออุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดตั้งอยู่ห่างจากถนนสายเอเซียทางแยกต่างระดับเข้าจังหวัดอยุธยาไปไม่ถึง 10 กิโลเมตร ทั้งสองวัดนี้อยู่ใกล้กันมีแค่คลองข้าวเม่ากั้นอยู่ ไปเที่ยวในเมืองอยุธยาแล้ว แวะไหว้พระสองวัดนี้ก่อนกลับกรุงเทพก็ได้สบายๆ ครับ


เริ่มกันที่วัดโกโรโกโสก่อนนะครับ





วัดโกโรโกโส หรือวัดสี่โอ (มีสระโอสี่ตัว) หรือวัดคลังทอง เป็นวัดขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมคลองข้าวเม่า ซึ่งเคยเป็นเส้นทางเดินทัพสำคัญสมัยสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะกองทัพพระเจ้าตากเมื่อครั้งเสด็จออกจากพระนครคราวเสียกรุง ได้แวะวัดนี้และกราบขอพรหลวงพ่อดำในพระอุโบสถ ขอให้กอบกู้เอกราชได้สำเร็จ

เมื่อชาวบ้านในละแวกนี้ทราบข่าวจึงได้ช่วยกันตำข้าวเม่าให้เป็นเสบียงกองทัพ และชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งคลองก็ช่วยกันทำธนูเพื่อเตรียมเอาไปสู้รบกับข้าศึก ต่อมาทัพพม่ารู้ข่าวว่าหมู่บ้านแถวนี้เป็นที่ซ่องสุมกำลังคน จึงบุกมาเผาทำลายจนสิ้น

เมื่อพระเจ้าตากกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ ทรงพระราชทานชื่อหมู่บ้านทางฝั่งคลองที่ตำข้าวเม่าว่าหมู่บ้านคลองข้าวเม่า ส่วนฝั่งตรงข้ามที่ทำธนูได้พระราชทานชื่อหมู่บ้านว่า หมู่บ้านธนู

ชาวบ้าน และพระภิกษุคิดจะบูรณะซ่อมแซมวัดขึ้นมาใหม่ แต่ก็ยากที่จะทำได้ เพราะเหลือแต่ซากปรักหักพัง จึงได้ร่วมกันสร้างวัดใหม่ซึ่งอยูฝั่งตรงข้ามชื่อว่า วัดสะแกชาวบ้านจึงเรียกวัดเก่านี้ว่า "วัดโกโรโกโส" จนติดปากเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สิ่งสำคัญภายในวัดก็คือพิพิธภัณฑ์วัดโกโรโกโส จัดแสดงความเป็นมาของวัด และประวัติศาสตร์วิถีชุมชนในย่านนี้













พระบรมรูปพระเจ้าตากสินทรงม้า เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงพระองค์





และวิหารหลวงพ่อดำ หรือหลวงพ่อแก้วสารพัดนึก พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แกะสลักจากหินทรายศิลปะอยุธยาแบบอู่ทอง ที่ประชาชนนิยมมากราบไหว้เพื่อขอให้สิ่งต่างๆ สำเร็จดังหวัง ประดิษฐานอยู่ในวิหารทรงจตุรมุขขนาดเล็กทาสีทองอร่ามทั้งหลัง สร้างอยู่ในแนวกำแพงของโบสถ์เก่า











นอกจากนี้บริเวณริมคลองข้าวเม่าได้ปรับพื้นที่เป็นจุดนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศคลองที่มีความสงบ สวยงามอีกด้วย




.
.

มาต่อกันที่วัดสะแก ซึ่งเป็นวัดที่จำพรรษาของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วทุกสารทิศ แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว





วัดสะแก เดิมตั้งอยู่ที่วัดคลังทอง หรือวัดโกโรโกโส ในปัจจุบัน สร้างเป็นวัดขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา กรมการศาสนาระบุตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2310 วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2325 โดยย้ายจากวัดคลังทองข้ามฝั่งมาตำบลธนู เหตุที่ย้ายจากวัดคลังทอง เนื่องจากวัดถูกพม่าเผาทำลายจนสภาพทรุดโทรมยากที่จะฟื้นฟู ประกอบกับเมื่อถึงหน้าน้ำ น้ำจะท่วมทุกปี ส่วนที่ตั้งปัจจุบันของวัดเป็นเนินสูง เคยมีต้นสะแก และไม้ยืนต้นต่างๆ ขึ้นเป็นจำนวนมาก

วัดสะแกเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยหลวงปู่ดู่เป็นเจ้าอาวาส เนื่องจากท่านเป็นพระเกจิอาจารย์นักปฏิบัติ มีจริยวัตรเรียบง่าย ท่านได้เมตตาสร้างพระเครื่องขึ้นเพื่อแจกลูกศิษย์ผู้เคารพเลื่อมใสให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา

อาคารเสนาสนะที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถกว้าง 15 เมตร ยาว 28 เมตร ผนังด้านนอกเป็นหินอ่อน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยปูนปั้นลงรักปิดทอง ด้านหลังพระประธานตกแต่งเป็นต้นโพธิ์ทองมีความวิจิตรงดงาม












อาคารพิพิธภันฑ์หลวงปู่ดู่ จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่ และพระเครื่องรุ่นต่างๆ ที่หลวงปู่สร้าง










กุฏิหลวงปู่ดู่อาคารไม้ทรงไทย ปัจจุบันได้จำลองภาพสมัยที่ท่านยังอยู่ จำลองการจารปลุกเสกวัตถุมงคล ภายในมีผู้คนเข้าไปกราบไหว้หลวงปู่จำนวนมาก แต่บรรยากาศกลับเงียบสงบดูเข้มขลัง น่าเคารพเป็นอย่างยิ่งครับ











เราสามารถจอดรถที่วัดสะแก แล้วเดินข้ามสะพานไปวัดคลังทองได้ หรือจะขับรถไปก็ได้ จอดรถที่ลานจอดรถของ อบต.ข้าวเม่า ที่อยู่ติดกับวัด และถ้าใครหิวก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแพสังข์กะศรี เป็นแพริมน้ำบรรยากาศดี แต่เสียดายวันที่ไปยังไม่ได้แวะทานเลยไม่มีภาพร้านก๋วยเตี๋ยวมาฝากครับ





แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่