JJNY : 5in1 เอาผิดผู้เอี่ยวเหตุสังหารหมู่│'อมรัตน์'สงสัย?│ชี้แจกเงินไม่ทำศก.โต│เตรียมตัวสะพรึง│ภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ปะทุอีก

องค์การต่อต้านการทรมานโลก หวังไทยดำเนินการเด็ดขาด เอาผิดผู้เอี่ยวเหตุสังหารหมู่ คดีตากใบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4752565

องค์การต่อต้านการทรมานโลก หวังไทยดำเนินการเด็ดขาด เอาผิดผู้เอี่ยวเหตุสังหารหมู่ คดีตากใบ

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม (ตามเวลาท้องถิ่นนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) องค์การต่อต้านการทรมานโลก (OMCT) ออกแถลงการณ์ภาษาอังกฤษและภาษาไทย กรณี “ประเทศไทยจะต้องคืนความยุติธรรมในกรณีสังหารหมู่ตากใบโดยด่วน” ความดังนี้

หน่วยงานไทยต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ตากใบเมื่อปี 2547 ก่อนที่อายุความจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2567 ความล้มเหลวในการดำเนินการอย่างเด็ดขาดในขณะนี้เป็นสัญญาณของการลอยนวลพ้นผิดในกรณีความรุนแรงโดยรัฐ ซึ่งจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อหลักนิติธรรม

ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาสมีนัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษา เพื่อตัดสินว่าคดีอาญาตากใบมีมูลและประทับรับฟ้อง หรือว่าจะพิพากษายกฟ้อง การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ 9 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อผู้ชุมนุมชาวมลายูมุสลิมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 85 ราย โดยมีผู้ชุมนุม 7 รายถูกยิงเสียชีวิต และอีก 78 รายถูกบังคับให้นอนทับกันเป็นชั้นจนเสียชีวิตในระหว่างการเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่คุมขังที่ค่ายทหารในจังหวัดปัตตานีในสภาพที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ถูกควบคุมตัวประมาณ 1,200 คนที่ถูกคุมขังเป็นเวลาหลายวันโดยไม่ได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม ทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสและผลกระทบทางจิตใจต่อเนื่องยาวนาน

ในเดือนธันวาคม 2567 คณะกรรมการค้นหาความจริงที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงใช้วิธีการที่เกินความจำเป็นและไม่เหมาะสม รวมถึงการใช้กระสุนจริงและการส่งบุคลากรที่ไม่มีประสบการณ์เข้าปฏิบัติการ แม้จะมีรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบยังไม่ได้รับการลงโทษ ทำให้ความยุติธรรมยังมาไม่ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาแล้วกว่าสองทศวรรษ

ในวันที่ 25 เมษายน 2567 ผู้เสียหายและครอบครัวได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่ออัยการสูงสุด ในข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย บังคับขู่เข็ญ และควบคุมตัวโดยมิชอบ การพิจารณาคดีเบื้องต้นที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ถูกเลื่อนออกไปในวันถัดมาและถูกเลื่อนอีกครั้งในวันที่ 19 และ 26 กรกฎาคม 2567 ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าคดีนี้จะได้รับความยุติธรรมหรือไม่ก่อนที่หมดอายุความ ความล่าช้าที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และการข่มขู่คุกคามที่ผู้ร้องเผชิญทำให้ความทุกข์ทรมานของพวกเขาทวีคูณขึ้นไปอีก และตอกย้ำถึงอุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญในการแสวงหาความยุติธรรม

การใช้กำลังเกินกว่าเหตุโดยเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายในระหว่างการชุมนุมประท้วงมักถูกเรียกว่าเป็นการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ในความเป็นจริงแล้ว การกระทำดังกล่าวอาจถือเป็นการละเมิดข้อห้ามโดยสิ้นเชิงในการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายอื่นๆ ดังที่ได้มีการกล่าวถึงในคู่มือสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในบริบทของการชุมนุมอย่างสันติที่เพิ่งเผยแพร่ไปเมื่อไม่นานมานี้ การทรมานไม่สามารถกระทำได้อย่างสิ้นเชิงในทุกสถานการณ์และไม่ควรอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของอายุความ จากเหตุการณ์นี้ การนำคนผิดมาลงโทษในฐานะคดีทรมานมีความสำคัญในด้านการแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบและคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย

เราขอเรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการอย่างเด็ดขาด เอาผิดผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สังหารหมู่ คืนความยุติธรรมและชดเชยเยียวยาให้กับผู้เสียหายและครอบครัวของพวกเขา ความคืบหน้าในการแสวงหาความยุติธรรมและความจริงในกรณีนี้จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม และหากการดำเนินการในครั้งนี้ล้มเหลว จะส่งผลให้ผู้ที่ก่ออาชญากรรมภายใต้การใช้อำนาจรัฐลอยนวลพ้นผิดต่อไป ไม่เพียงแค่ผู้เสียหายจากเหตุการณ์ตากใบเท่านั้นที่ยังคงรอที่จะเห็นความยุติธรรม แต่ความสมบูรณ์ของกรอบกฎหมายและสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยเองก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นกัน.



'อมรัตน์' สงสัย? หรือคนไทยทั้งประเทศคือหลานที่ 'ทักษิณ' ตั้งใจกลับมาเลี้ยง
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/413969

วันที่ 23 ส.ค.67 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้เกิดกระแสถึงการมีบทบาททางการเมืองที่มากขึ้นของ นายทักษิณ

ซึ่ง โพสต์ดังกล่าว เป็นไปในเชิงเหน็บแนม  โดยมีใจความว่า "หรือคนไทยทั้งประเทศจะคือหลานทักษิณที่เค้าตั้งใจจะกลับมาเลี้ยง" และหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ "คุณตาฮ่ะๆ ขอตังค์เติมเกมสักหมื่น หน่อยฮ่ะ" , "อยู่ดีๆ มีตาเพิ่มเฉย" , "ชอบมากค่ะกับคำนี้. แต่ขอโทษนะคะว่าเป็นหลานตั้งแต่รุ่นไหน"
 
ทั้งนี้ว่ากันว่าโพสต์ดังกล่าว อาจเชื่อมโยงถึงกรณีที่นายทักษิณ เคยลั่นวาจาเอาไว้ว่า จะไม่ยุ่งการเมืองไทย เพราะต้องการกลับมาเลี้ยงหลาน

https://x.com/AmaratJeab/status/1826793875740262690



‘สุดารัตน์’ ชี้ แจกเงินไม่ทำศก.โตยั่งยืน เห็นด้วยให้กลุ่มเปราะบาง แต่ใจๆหน่อยอย่าจำกัดการใช้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4751621

‘สุดารัตน์’ ชี้ แจกเงินไม่ช่วยให้ศก.ยั่งยืน เห็นด้วยให้กลุ่มเปราะบาง แต่ใจๆหน่อยอย่าจำกัดการใช้ ไหนๆประเทศก็จะเป็นหนี้แล้ว

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่รัฐสภา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ระบุในเวทีหนึ่งว่าการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะแจกให้กลุ่มเปราะบางก่อนเป็นเงินสดว่า ในส่วนของเราไม่เชื่อว่า การแจกเงินฟรีๆ เพียงหนึ่งครั้งจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน หรือแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะอย่าลืมว่าวิกฤตวันนี้ต่างจากครั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะตอนนั้นคนรวยเสียงดังเจ๊ง แต่ครั้งนี้ซึมลึกลากยาวมาตั้งแต่คนรากหญ้า เศรษฐกิจแย่มามากกว่า 5 ปีแล้ว ดังนั้นการแจกเงินจะช่วยให้การใช้จ่ายเพียงระยะสั้นๆ ดังนั้นจึงคิดว่าถ้าหากยังดึงดันที่จะแจกอยู่ ก็ต้องถือว่าผิดจากนโยบายหรือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้พยายามพูดว่านี่ไม่ใช่เรื่องการสงเคราะห์ แต่เป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ถ้าจะกลับมาแจกเป็นเงินสดก็ยังดี โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางนั้นจะไปช่วยต่อลมหายใจให้เขาได้บ้าง แต่ไม่ควรมีข้อจำกัดในการใช้เงินนั้น ให้เขาเอาไปใช้หนี้ได้ จ่ายค่าบ้าน ค่ารถได้ ไหนๆ จะเป็นหนี้แล้วก็ช่วยคนได้ก็จะดี แต่ถ้าถามว่าระหว่างการแจกเงินกับการจะสร้างให้คนมีรายได้มีอาชีพที่ยั่งยืน นั้นยังไม่สายเอาเงินก้อนแรกไปก่อน แต่ที่เหลืออยากให้ใช้อย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนและรัฐบาลด้วย”

เมื่อถามว่านายทักษิณกลับไทยมาแล้ว และได้พูดเรื่องความขัดแย้งและการทำให้เกิดความสามัคคี คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตนเห็นด้วย แต่ต้องเริ่มจากผู้มีอำนาจก่อน ตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วที่พูดกันถึงความสามัคคีนั้นก็ต้องเริ่มจากผู้มีอำนาจก่อน และการใช้กฎหมายให้เป็นธรรม รวมทั้งการรักษาจริยธรรมทางการเมืองที่ดีงามถึงจะเกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่พูดแต่ต้องเริ่มปฏิบัติด้วยถึงจะทำให้เกิดความสามัคคีในชาติได้ ดังนั้นตนเห็นด้วยถ้าจะให้เกิดความสามัคคี แต่บนความสามัคคีนั้นไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของบางกลุ่มบางพรรค แต่ต้องเกิดประโยชน์กับทุกคน.



กรมอุตุฯ อัปเดต ภาพถ่ายดาวเทียม เตรียมตัวสะพรึง เมฆฝนปกคลุม 4 ภาค เหนือยังหนัก
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9376665

กรมอุตุฯ อัปเดต ภาพถ่ายดาวเทียม เตรียมตัวสะพรึง เมฆฝนปกคลุม 4 ภาค เหนือยังหนัก ย้ำเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน

วันที่ 23 ส.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ 24 ชั่วโมง ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 23-25 ส.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนภาคเหนือ และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้ และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ส.ค. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคใต้และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่ง และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ทั้งนี้ภาพถ่ายดาวเทียม เช้าวันนี้ เมฆฝนยังปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางทางด้านตะวันตก ส่วนภาคใต้มีเมฆฝนฟ้าคะนอง ฝนเกิดขึ้นบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่