ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่แฟนคลับของพรรคใด
แต่นั่งฟัง คำกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ของคุณทักษิณ ชินวัตร ครั้งแรกในเวทีสาธารณะหลังจากจากประเทศไทยไป 17 ปี
ต้องยอมรับว่า คุณทักษิณ ได้แสดง soul ผู้นำระดับชาติ ที่ประกอบขึ้นด้วยแนวคิด และจิตวิญญาณ
ฉายเสน่ห์ ภาพลักษณ์บริหารอาวุโส ออกมาอย่างเด่นชัด โดยมีส่วนผสมระหว่าง ความอ่อนโยนและเฉลียวฉลาดเข้าด้วยกัน
มีจุดเด่น คือ การมองภาพแบบมุมกว้าง / macro-picture ร่วมกับ การยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยที่จี้ได้ตรงจุดกับสภาพปัจจุบัน
ที่ประชาชนถูกปล่อยปละละเลย นักการเมืองไม่มีเวลาทำงาน เพราะมีคดีมากมาย
หลายคนก็อาจจะกล่าวอีกว่า พูดไปจะทำได้มั้ย มีแต่โกง
เราว่าดีกว่าไม่ทำอะไร และดีกว่า ไม่ทำอะไร+ไม่โกง + ปล่อยให้ลูกน้องโกง
คุณทักษิณแสดงให้เห็นว่า เขาคือ อินทรี ที่บินอยู่เหนือ นกชนิดอื่น
และจะไม่โฟกัส ในเรื่องที่ไร้ค่า ดังนั้น ถ้าใครจะด่า แกก็คงไม่มีเวลาเจ็บ เอาเวลาไป
ศึกษาเรื่องใหม่ๆ ด้านการพัฒนาชาติจะดีกว่า
จุดเด่น คือ มองภาพกว้างได้ดี
จุดอ่อน คือ มองข้ามรายละเอียด อาจมีบ้างที่...
มุ่งความสำเร็จของงานใหญ่ จนมองข้ามความรู้สึกคนที่ยอมเหนื่อยทำงานให้
เมื่อเปลี่ยนเป้าหมาย ก็เปลี่ยนทีม จึงผิดใจกับผู้ที่เคยทำงานใกล้ชิดหลายคน
คะแนนเพื่อไทย อาจจะกระเตื้อง ถ้าจะใช้ช่วงตั้งรัฐมนตรีรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง กลับไปแก้เรื่อง ตระบัดสัตย์
และกล้าตั้งคนให้ได้ผลพัฒนาชาติจริงๆ เอาคนนอกมาบ้างก็ได้ เพื่อให้ได้ ครม. ที่ดูสง่างาม
ดึงความเชื่อมั่นกลับมาได้ นโนบายเหนือระดับ ทำได้ก็ต่อเมื่อมีทรัพยากรบุคคลมีคุณภาพ
กล้าที่จะมองตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นบุคลากรชั้นนำของประเทศ ไม่ใช่เป็นแค่คืนกำไรให้ผู้ยกมือโหวตนายก
หากที่คุณทักษิณได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ ทำไม่ได้ผล
เพื่อไทยจะเอาอะไรไปสู้กับพรรคประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
สิ่งที่พรรคประชาชนได้เปรียบ ก็คือ วัย และความสดใหม่ ของนักการเมือง
ซึ่งเข้าทาง ในยุคที่คนไทยเบื่อการเมืองแบบเดิมๆ
ผู้นำที่พอจะท้าชิงคุณทักษิณได้เรื่องการพูด และมุมมองการพัฒนาประเทศ
เท่าที่คิดได้มีเพียงพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เท่านั้น ที่บุคลิก มีเสน่ห์ทางการเมือง มัดใจคนได้
หลายคนที่เลือกก้าวไกล เขาไม่ได้จริงจังกับเรื่อง ม 112 แต่เขาเลือก เพราะอยากเห็นพิธาเป็นนายกฯ
พอได้คะแนนสูงสุดแล้ว ก้าวไกล กลับเอาจริงยึด ม 112 เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งก็เข้าทางเกมส์การเมืองที่อ้างว่า
"มี ม.112 ต้องไม่มีเรา" ---จับมือข้ามขั้วกันไป โดดเดี่ยวก้าวไกล ทั้งที่ตอนหาเสียงหลายพรรคก็อยากแก้ ม 112
ถ้าไม่นับเรื่องโกง อะไรต่างๆ ซึ่งมีคนขุดคุ้ยเยอะอยู่แล้ว
เราว่าดีกับประเทศ ที่ได้นายกที่ไปใช้ชีวิตต่างประเทศสักพัก แล้วกลับมาคิดเกี่ยวกับประเทศตัวเอง
พิธา ก็กำลังอยู่ในจุดนั้น 1. เพลี่ยงพล้ำ เรื่องหุ้น ไอทีวี 2.เพลี่ยงพล้ำ เรื่อง พรรค ที่ยึดโยงกับ ม 112
ในจุดที่มองยาก ว่า ถูกหรือผิด นั่นคือ จุดอ่อน ที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง อาจนำไปแก้เกมส์ได้
ได้เบรคจากการเมืองสักระยะ เป็นสิ่งที่ควร สำหรับผู้นำ ที่ต้องไปหาอะไรเพื่อลับสมอง ฝึกวิชา
ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ
สำหรับ วิสัยทัศน์คุณทักษิณ ครั้งนี้ พรรคประชาชน น่าจะได้มองตัวเอง ว่า สิ่งที่โฟกัส มันเล็กไปมั้ย
คือ ถ้าบอกว่า สิ่งที่คุณทักษิณพูด ทำจริงไม่ได้
แต่สิ่งที่พรรคประชาชนจะทำ จับต้องได้ยากกว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ความเท่าเทียม ค่อนข้างจะเป็นนามธรรม
เว้นแต่ พรรคประชาชน จะแสดงจุดแข็ง ของเศรษฐกิจยุค Gen YZ เพิ่มเข้ามา
เพื่อแสดงความพร้อมขับเคลื่อนประเทศที่ประกอบรวมกัน โดยเน้น
ความร่วมมือ / collaboration มากกว่า ตำแหน่งสูงต่ำ ตามระบบองค์กรแบบขนบ
และต้องสร้างความเข้าใจว่า ระบบใหม่ที่คิดขึ้นมา จะดำรงอยู่ในบริบทวัฒนธรรมไทยอย่างไร ให้ดูดีและลงตัว
แม้ประเทศไทยจะมีระบบชนชั้น แต่ต้องไม่ลืมว่า คุณหนูแบบไทย คือ คนที่เรียกคนขับรถว่า ลุง
เรียกแม่บ้านว่า พี่ บางทีก็ส่งลูกคนขับรถกับลูกของแม่บ้านให้เรียนหนังสือด้วย
ในอนาคต ประเทศไทย ก็อาจมีแค่ 2 พรรค
คือ เน้นการพัฒนาภาคประชาชน
กับ เน้นการพัฒนาภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นตัวลากดึงระบบเศรษฐกิจทั้งหมด
พูดง่ายๆ คือ พรรคประชาชน เน้นพัฒนาคนตัวเล็กให้เติบโต
และคนเหล่านั้นคือ คนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งคนจำนวนหนึ่งก็อาจพัฒนาขึ้นได้
ส่วนพรรคเพื่อไทย อยู่บนความเชื่อเรื่องมนุษย์ไม่เท่ากัน บางคนเหมาะจะเป็นผู้นำ
บางคนเหมาะจะเป็นผู้ตาม แต่ก็อยู่บนการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
ภาวะผู้นำ ไม่ได้มีกันทุกคน แต่บางคน สามารถใช้ความเป็นผู้นำ เพื่อให้ชีวิตของลูกน้อง/ลูกค้า ดีขึ้น
Speech ของคุณทักษิณที่พาราก้อน 22 สิงหา 2567
แต่นั่งฟัง คำกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ของคุณทักษิณ ชินวัตร ครั้งแรกในเวทีสาธารณะหลังจากจากประเทศไทยไป 17 ปี
ต้องยอมรับว่า คุณทักษิณ ได้แสดง soul ผู้นำระดับชาติ ที่ประกอบขึ้นด้วยแนวคิด และจิตวิญญาณ
ฉายเสน่ห์ ภาพลักษณ์บริหารอาวุโส ออกมาอย่างเด่นชัด โดยมีส่วนผสมระหว่าง ความอ่อนโยนและเฉลียวฉลาดเข้าด้วยกัน
มีจุดเด่น คือ การมองภาพแบบมุมกว้าง / macro-picture ร่วมกับ การยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยที่จี้ได้ตรงจุดกับสภาพปัจจุบัน
ที่ประชาชนถูกปล่อยปละละเลย นักการเมืองไม่มีเวลาทำงาน เพราะมีคดีมากมาย
หลายคนก็อาจจะกล่าวอีกว่า พูดไปจะทำได้มั้ย มีแต่โกง
เราว่าดีกว่าไม่ทำอะไร และดีกว่า ไม่ทำอะไร+ไม่โกง + ปล่อยให้ลูกน้องโกง
คุณทักษิณแสดงให้เห็นว่า เขาคือ อินทรี ที่บินอยู่เหนือ นกชนิดอื่น
และจะไม่โฟกัส ในเรื่องที่ไร้ค่า ดังนั้น ถ้าใครจะด่า แกก็คงไม่มีเวลาเจ็บ เอาเวลาไป
ศึกษาเรื่องใหม่ๆ ด้านการพัฒนาชาติจะดีกว่า
จุดเด่น คือ มองภาพกว้างได้ดี
จุดอ่อน คือ มองข้ามรายละเอียด อาจมีบ้างที่...
มุ่งความสำเร็จของงานใหญ่ จนมองข้ามความรู้สึกคนที่ยอมเหนื่อยทำงานให้
เมื่อเปลี่ยนเป้าหมาย ก็เปลี่ยนทีม จึงผิดใจกับผู้ที่เคยทำงานใกล้ชิดหลายคน
คะแนนเพื่อไทย อาจจะกระเตื้อง ถ้าจะใช้ช่วงตั้งรัฐมนตรีรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง กลับไปแก้เรื่อง ตระบัดสัตย์
และกล้าตั้งคนให้ได้ผลพัฒนาชาติจริงๆ เอาคนนอกมาบ้างก็ได้ เพื่อให้ได้ ครม. ที่ดูสง่างาม
ดึงความเชื่อมั่นกลับมาได้ นโนบายเหนือระดับ ทำได้ก็ต่อเมื่อมีทรัพยากรบุคคลมีคุณภาพ
กล้าที่จะมองตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นบุคลากรชั้นนำของประเทศ ไม่ใช่เป็นแค่คืนกำไรให้ผู้ยกมือโหวตนายก
หากที่คุณทักษิณได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ ทำไม่ได้ผล
เพื่อไทยจะเอาอะไรไปสู้กับพรรคประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
สิ่งที่พรรคประชาชนได้เปรียบ ก็คือ วัย และความสดใหม่ ของนักการเมือง
ซึ่งเข้าทาง ในยุคที่คนไทยเบื่อการเมืองแบบเดิมๆ
ผู้นำที่พอจะท้าชิงคุณทักษิณได้เรื่องการพูด และมุมมองการพัฒนาประเทศ
เท่าที่คิดได้มีเพียงพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เท่านั้น ที่บุคลิก มีเสน่ห์ทางการเมือง มัดใจคนได้
หลายคนที่เลือกก้าวไกล เขาไม่ได้จริงจังกับเรื่อง ม 112 แต่เขาเลือก เพราะอยากเห็นพิธาเป็นนายกฯ
พอได้คะแนนสูงสุดแล้ว ก้าวไกล กลับเอาจริงยึด ม 112 เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งก็เข้าทางเกมส์การเมืองที่อ้างว่า
"มี ม.112 ต้องไม่มีเรา" ---จับมือข้ามขั้วกันไป โดดเดี่ยวก้าวไกล ทั้งที่ตอนหาเสียงหลายพรรคก็อยากแก้ ม 112
ถ้าไม่นับเรื่องโกง อะไรต่างๆ ซึ่งมีคนขุดคุ้ยเยอะอยู่แล้ว
เราว่าดีกับประเทศ ที่ได้นายกที่ไปใช้ชีวิตต่างประเทศสักพัก แล้วกลับมาคิดเกี่ยวกับประเทศตัวเอง
พิธา ก็กำลังอยู่ในจุดนั้น 1. เพลี่ยงพล้ำ เรื่องหุ้น ไอทีวี 2.เพลี่ยงพล้ำ เรื่อง พรรค ที่ยึดโยงกับ ม 112
ในจุดที่มองยาก ว่า ถูกหรือผิด นั่นคือ จุดอ่อน ที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง อาจนำไปแก้เกมส์ได้
ได้เบรคจากการเมืองสักระยะ เป็นสิ่งที่ควร สำหรับผู้นำ ที่ต้องไปหาอะไรเพื่อลับสมอง ฝึกวิชา
ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ
สำหรับ วิสัยทัศน์คุณทักษิณ ครั้งนี้ พรรคประชาชน น่าจะได้มองตัวเอง ว่า สิ่งที่โฟกัส มันเล็กไปมั้ย
คือ ถ้าบอกว่า สิ่งที่คุณทักษิณพูด ทำจริงไม่ได้
แต่สิ่งที่พรรคประชาชนจะทำ จับต้องได้ยากกว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ความเท่าเทียม ค่อนข้างจะเป็นนามธรรม
เว้นแต่ พรรคประชาชน จะแสดงจุดแข็ง ของเศรษฐกิจยุค Gen YZ เพิ่มเข้ามา
เพื่อแสดงความพร้อมขับเคลื่อนประเทศที่ประกอบรวมกัน โดยเน้น
ความร่วมมือ / collaboration มากกว่า ตำแหน่งสูงต่ำ ตามระบบองค์กรแบบขนบ
และต้องสร้างความเข้าใจว่า ระบบใหม่ที่คิดขึ้นมา จะดำรงอยู่ในบริบทวัฒนธรรมไทยอย่างไร ให้ดูดีและลงตัว
แม้ประเทศไทยจะมีระบบชนชั้น แต่ต้องไม่ลืมว่า คุณหนูแบบไทย คือ คนที่เรียกคนขับรถว่า ลุง
เรียกแม่บ้านว่า พี่ บางทีก็ส่งลูกคนขับรถกับลูกของแม่บ้านให้เรียนหนังสือด้วย
ในอนาคต ประเทศไทย ก็อาจมีแค่ 2 พรรค
คือ เน้นการพัฒนาภาคประชาชน
กับ เน้นการพัฒนาภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นตัวลากดึงระบบเศรษฐกิจทั้งหมด
พูดง่ายๆ คือ พรรคประชาชน เน้นพัฒนาคนตัวเล็กให้เติบโต
และคนเหล่านั้นคือ คนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งคนจำนวนหนึ่งก็อาจพัฒนาขึ้นได้
ส่วนพรรคเพื่อไทย อยู่บนความเชื่อเรื่องมนุษย์ไม่เท่ากัน บางคนเหมาะจะเป็นผู้นำ
บางคนเหมาะจะเป็นผู้ตาม แต่ก็อยู่บนการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
ภาวะผู้นำ ไม่ได้มีกันทุกคน แต่บางคน สามารถใช้ความเป็นผู้นำ เพื่อให้ชีวิตของลูกน้อง/ลูกค้า ดีขึ้น