วันนี้จะมาแฉ มาตีแผ่ พฤติกรรมแย่ๆ ของเพื่อนบ้านประสาทแดก ที่ทำกับบ้านเราและเพื่อนบ้านหลังอื่น อยากจะตะโกนบอกว่า มันมีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยนะ และไม่ได้เป็นคนเดียว มันเป็น
“ทั้งบ้าน!!!”
[ต้องชี้แจงว่า เวลาบ้านเราทำอะไร จะไม่บอกใคร ไม่ป่าวประกาศ เงินเรา บ้านเรา เรื่องส่วนตัวเรา เราไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ ซึ่งบ้าน 62 กับพรรคพวกอยากรู้เรื่องของบ้านเรามาก พวกนางชอบเม้าส์ ชอบนินทาเรื่องคนอื่นเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งบ้านเราเก็บเงียบไม่ปริปากให้ใครรู้อะไรเลย ไม่ว่าเราจะเรียนจบจากที่ไหน เรียนจบอะไร สาขาไหน ทำงานอะไร พ่อแม่ทำงานอะไร ไม่เคยพูดให้พวกนางรู้เลย รู้ไปก็นินทา รู้ไม่จริงก็นินทาอยู่ดี เลยไม่ให้รู้ไปเลย จะได้อยากรู้จนอกแตกตาย ฮ่าๆ]
รูปภาพประกอบ
1.รังแกเด็ก ตอนเราเรียนเวลาเลิกเรียนจะต้องเดินเข้าซอยบ้าน ซึ่งต้องเดินผ่านบ้าน 62 นางและพรรคพวกของนางประมาณ 4-5 คน จะมานั่งคอยเราเลิกเรียนที่ม้าหินบ้านนาง แล้วด่าเรา ดูถูกเราทุกวัน หาว่าพ่อแม่จน ไม่มีปัญญาส่งลูกเรียน ร.ร.เอกชน ตัวดำ หัวหยิก ขี้เหร่ ด่าทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่ด่า ด่าลับหลังพ่อแม่เราตลอด ไม่เคยกล้าด่าต่อหน้าพ่อแม่ ไม่ใช่เราที่โดนคนเดียว เด็กทั้งซอยโดนหมด ลูกนางดีอยู่บ้านเดียวแหละ
2.ขี้อิจฉา พอเราเรียนจบทำงานได้สักพัก เก็บเงินได้ ก็ไปถอยรถป้ายแดงมา แต่ตอนนั้นเพิ่งสอบใบขับขี่ผ่าน เพิ่งขับรถได้ ไปออกรถที่ศูนย์ซึ่งไกลจากบ้านมาก เลยไม่กล้าขับกลับเอง ให้เซลส์ขับมาส่งให้ ซึ่งเซลส์ก็ใจดีขับมาส่ง พอรถจอดหน้าบ้านเรา แล้วเราก้าวขาลงรถปุ๊บ คนพ่อบ้าน 62 ก็ด่าเราทันทีเลยว่า “ขับรถไม่เป็นแต่กระแดะออกรถ”
3.เล่นพรรคเล่นพวก นางกลัวบ้านเรามีพรรคพวก เวลาเห็นคนในซอยเรียกพ่อแม่เราคุย พอลับหลังพ่อแม่เรา บ้าน 62 จะรีบเดินไปหาคนนั้นแล้วไปคุยกับเขาทันที ซึ่งปกติคนในซอยที่เขาอยู่มานาน เขารู้นิสัยบ้านนี้ เขาจะไม่เรียกบ้าน 62 คุยเลย มีแต่นางไปคุยกับเขาเอง แต่พวกหน้าใหม่ที่ย้ายมาอยู่บ้านเช่า พวกนี้จะตกเป็นเหยื่อชั้นดีของบ้าน 62 ในการทำการยุยง ปลุกปั่น และเสี้ยม ให้เกลียดบ้านเรา หาว่าบ้านเรานิสัยไม่ดี ไม่มีใครคบ อย่าไปยุ่งนะ บ้านนี้มันไม่เอาใคร ถ้าถามว่ารู้ได้ไง เพราะตอนที่พวกเขาแตกคอกันเอง พรรคพวกเขานั่นแหละที่แทงข้างหลังเขา โดยการมาชวนแม่เราคุย แล้วเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง
4.ชอบเลียนแบบ? ต้องเกริ่นก่อนว่า พ่อแม่เราเป็นช่างอิเล็คทรอนิกส์ ประกอบ+ซ่อมเรดาห์เรือ วิทยุ โซนาร์ แต่ก็สามารถทำอย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง เช่นซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า พันคอยล์พัดลม เดินสายไฟ ซ่อม+เดินท่อประปา หรือจะแปลงร่างเป็นช่างก่อสร้างกัน พ่อแม่เราก็ทำได้ ส่วนใหญ่คือทำในบ้านตัวเองไม่ต้องจ้างใคร แต่งานประจำคือเป็นช่างอิเล็กฯ บ้าน 62 คนผัว เห็นพ่อเราเชื่อมเหล็ก ก็ไปเอาเครื่องเชื่อมเหล็กมาเชื่อมบ้าง เห็นพ่อเราถอดชิ้นส่วนมอไซค์ทั้งคันออกมาซ่อม ก็เอามอไซค์ตัวเองมาซ่อมบ้าง(แต่ไม่ถอดทั้งคันนะ) คนเมีย เห็นแม่เราตัดต้นไม้ ตัวเองไม่มีปัญญาทำ ก็ให้ผัวมาตัดต้นไม้ในบ้านอาเราบ้าง (ไม่ตัดฟรีนะ มาเสนอตัวตัดแล้วเก็บเงินอาเรา) เห็นพ่อแม่เราเทปูนทำพื้นหน้าบ้าน ก็ให้คนอื่นในซอยมาถามว่าบ้านเราทำอะไร
5.ชอบสอดส่อง ตอนกลางดึกคืนหนึ่ง มีของตกในบ้านเรา ซึ่งแมวที่เลี้ยงไว้มันถีบของตก เช้าวันต่อมา นางให้ป้าข้างบ้าน(บ้าน 65 คนที่อยู่คนเก่าตอนนี้ย้ายไปแล้ว)ซึ่งแกหูไม่ดี คือเรียกตรงระยะ 1 เมตรยังไม่ได้ยิน แกหูไม่ดีเอามากๆ แต่บ้าน 62 มันให้แกมาถาม ป้าแกมาถามแม่เราว่า เมื่อคืนพี่ได้ยินเสียงพ่อเราตีแม่เราเหรอ พ่อแม่เราก็งง เมื่อคืนตอนไหน กี่ทุ่ม ตอนดึกนอนกันหมดแล้ว แล้วพ่อเราก็ไม่เคยกล้าตีแม่เราด้วย แม่เราเป็นหญิงแกร่ง ลองตีดูสิ หัวพ่อได้แตกแน่ แล้วป้าแกหูไม่ดี จะมาได้ยินเสียงในบ้านเราได้ไง สรุปคืออีบ้าน 62 มันหูดีมากกกกกกกกกกก ได้ยินเสียงของตกในบ้านเรา แล้วไปเล่าให้ป้าแกฟังว่า พ่อตีแม่เรา ให้เขามาถามว่าตีกันเรื่องอะไร ว้อทททท??!!!
6.ชอบด่าปมคนอื่น เมื่อก่อนในซอยจะมีเด็กเป็นใบ้อยู่คนหนึ่ง อยู่กับแม่เขา แม่ของเด็กใบก็โดนเสี้ยมไปให้เกลียดบ้านเราเหมือนกัน แต่เด็กอ่ะ ทุกคนอยากมีเพื่อนเล่น เด็กใบ้ก็มาเล่นกับพวกเด็กคนอื่นในซอย จนมาถึงหน้าบ้าน 62 อีคนแม่ด่าเด็กใบ้ว่า อีใบ้ เป็นใบ้แล้วไม่รู้จักเจียม เด็กมันฟังรู้เรื่องเพราะแค่เป็นใบ้ไม่ได้หูหนวก ก็ไปฟ้องแม่เลย แม่เด็กใบ้เลยมาด่ามันหน้าบ้านมัน แล้วก็ตามสเต็ปเดิม คือมาเรียกแม่เราไปฟ้อง ว่าบ้าน 62 มันด่าใส่ร้ายบ้านเราอย่างนู้นอย่างนี้ บ้านเราก็ อ๋อ อืม เขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ทำใจเถอะ
7.ขี้ขโมย เรื่องสมัยก่อนเหมือนกัน มีบ้านหลังหนึ่งในซอย เขาฝากเงินคนแม่บ้าน 62 มา 1,000 บาท ให้เอามาให้เด็กสองพี่น้องตึกสีส้มคนละ 500 บาท หลังจากวันนั้น เขาเจอกับเด็กสองพี่น้อง เขาเลยถามว่า ป้าฝากเงินไปให้คนละ 500 ได้หรือยัง เด็กตอบว่า ได้แค่คนละ 300 บาท คือนางอมเงินเด็กไป 400 บาท ให้เด็กแค่ 600 บาท ป้าคนที่ฝากเงินมารู้ เลยมาด่านางถึงหน้าบ้านลั่นซอยเลย แล้วเดินพูดประจานไปทั่วซอย นี่เป็นอีกสาเหตุที่คนในซอยที่อยู่มานานรู้นิสัยบ้านนี้ ทุกวันนี้พวกนางก็ขโมยเงินกันเองนั่นแหละ พ่อแม่ลูก 4 คน ใช้เงินคนละกระเป๋า แต่งกกันเอง ทวงกันเอง งงกับการใช้เงินของครอบครัวนี้เหมือนกัน นางชอบมายืนด่ากันเองตรงหน้าบ้าน เพื่อนบ้านเลยได้ยินไปด้วย
8.แย่งกิจการคนอื่น? ในซอยจะมีร้านขายของชำอยู่ 1 ร้าน (ร้านป้าคนที่ฝากเงินมาให้เด็กสองพี่น้องนี่แหละ) เขาเปิดอยู่ร้านเดียวในซอย แล้วอยู่ๆ บ้าน 62 ก็ไปรับน้ำอัดลมมาขาย มีรถโค้ก รถเป๊ปซี่มาส่งน้ำ แล้วก็เอาเบียร์มาแอบขายด้วย นางขายแข่งกับป้าร้านขายของชำ แต่ร้านนั้นเขาเปิดแบบเป็นจริงเป็นจัง มีหน้าร้านตั้งวางของขายให้เห็น แต่บ้าน 62 เป็นประเภทแอบขาย ไม่มีของตั้งโชว์ สุดท้ายขายไม่ดี เจ๊ง
9.หลอกล่อเก่ง พวกบ้านเช่าหน้าใหม่ คนมาใหม่มักเป็นเหยื่อชั้นดีของบ้าน 62 จุดอ่อนของคนคือการเอาเรื่องอะไรก็ได้ของคนอื่นไปขาย จริงเท็จไม่รู้ รู้แต่พูดให้น่าตื่นเต้นมีสตอรี่ไว้ก่อน แล้วเขาจะคลายเรื่องของเขามา พอได้เรื่องเขามาแล้ว นางก็เอาไปขายต่อให้คนอื่น พร้อมทั้งตีสนิทกับคนพวกนั้น แล้วหลอกคนพวกนั้นให้ซื้อหวยใต้ดินกับนาง(นางรับไปให้เจ้ามืออีกที) แต่เรื่องที่นางไม่คาดคิดคือ คนมาเช่าบ้าน(บางคนนะเราไม่ได้เหมารวม) พอเขามีหนี้เยอะๆ เขาก็หนีหนี้ แล้วก็หนีค่าหวยนางไปด้วย มีคนหนีค่าหวยนางไปหลายคนแล้ว ที่รู้เพราะนางเวลามีปัญหานางชอบเดินโพนทานาไปทั่วซอย ตามประสาคนดีชอบแก้ไขคน
ชอบแก้ตัว
10.แอบฉกลูกค้า คนผัวขับวิน แต่ไม่เคยไปเข้าวินเลย เพราะคนเมียคอยมาดักหาคนบ้านเช่าให้ใช้บริการวินรถผัวนาง บอกให้คนบ้านเช่าขึ้นตรงนี้เลย อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเดินออกไปนั่งวินหน้าปากซอย จนหัวหน้าวินรู้ เพราะคนในซอยที่ขับวินอยู่ก็มีอยู่หลายคน เขาเห็น เขาก็คงเอาเรื่องไปบอก หัวหน้าวินก็เข้ามาด่าพวกนางถึงหน้าบ้านว่าให้เลิกดักรับคนในซอย ให้เขาเดินออกไปหาวินนั่งเอง บ้าน 62 ก็โยนความใส่บ้านเราเลยจ้า หาว่าบ้านเราไปฟ้อง คือบ้านเรามีรถขับไปไหนมาไหนเองได้ และที่สำคัญพอรู้ว่าบ้าน 62 มันขับวินนี้ บ้านเราก็ไม่คิดจะใช้บริการเลย กลัวไปยืนเรียกหน้าปากซอยแล้วเจอนาง ไม่อยากขึ้น ไม่อยากใช้บริการ ไม่อยากนั่งรถนาง รังเกียจ
11.หวงของที่ไม่ใช่ของตัวเอง บ้าน 59 หน้าบ้านเขามีต้นมะละกออยู่หนึ่งต้น แล้วคนที่ดูแลบ้าน 59 แทนเจ้าของบ้านตัวจริง คือคนเดียวกับที่ดูแลบ้านเช่าสีส้มในซอย แล้วทีนี้คนดูแลตึกบอกให้ผู้เช่ารายหนึ่งในตึกสีส้มมาตัดต้นมะละกอทิ้ง เนื่องจากมันเกะกะ บ้าน 62 เดินมาโวยวายด่าเขาว่าจะตัดทำไม ต้นมะละกอเป็นของนาง นางจะเก็บไว้กิน ลุงแกกับนางก็ทะเลาะกันจนทุกวันนี้ลุงเขาก็ไม่คุยด้วย แต่ลุงเขาคุยกับแม่เรานะ นางก็พยายามจะคุยกับลุงเขาเพื่อจะเอาไปเป็นพรรคพวกนาง ลุงเขาก็ไม่คุยด้วย ไม่แม้แต่จะมองนางด้วยซ้ำ
12.ชอบกร่าง บ้าน 62 ชอบคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของซอย คือจะกร่างเป็นวงกลมอยู่แถวโซนบ้านนางนี่แหละ ทั้งถังขยะวางหน้าบ้าน 61 รถของคนที่เช่าบ้านนาง(มีคนเช่าแค่ห้องเดียวอีกห้องหนีนางไปแล้ว)นางก็ให้เขาเอารถมาจอดที่หน้าบ้าน 61 บ้านนางมีแต่มอไซค์ทุกเช้าคนผัวจะเอามอไซค์มาจอดเรียงที่หน้าบ้าน 59 ใช้พื้นที่เป็นพื้นที่ของตัวเองเลย
13.ฉี่เรี่ยราด คนลูกชาย ติดเกมส์จนเกือบไม่จบ ม.3 ทุกวันนี้อายุ 30 แต่ชอบพาเพื่อนมาเล่นเกมข้างถนนเสียงดังยามวิกาล พอปวดฉี่แทนที่จะเข้าไปฉี่ในบ้านตัวเอง กลับเดินข้ามมาฉี่ใส่กำแพงบ้าน 61 ซึ่งหลังกำแพงตรงนั้นก็มีศาลพระภูมิอยู่ด้วย ทั้งคนลูกทั้งเพื่อนของคนลูกเลย พอเราเอาคลิปไปแจ้งเทศบาล เรื่องใช้เสียงยามวิกาลจนเรานอนไม่ได้ นางก็เล่นเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไปฉี่ใส่กำแพงบ้าน 59 แทน
14.ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง คนลูกสาว จบ ม.6 ไปทำงานเป็นพนักงานคลังสินค้าที่โลตัส ช่วงก่อนหรือหลังโควิดไม่มั่นใจ นางไปทำงานที่เกาหลี เพิ่งกลับมาไทยเมื่อประมาณ 11/66 กลับมาได้แค่ 10 เดือนมาหาเรื่องเรากับแม่แล้วยืนด่ากราด
- ด่าเราว่าอีลูกไม่มีพ่อ ทั้งๆ ที่ลูกเขาสองคนคนละพ่อ และไม่ได้อยู่กับพ่อทั้งคู่ คนแรกผัวเลิก คนที่สองยังทำงานอยู่เกาหลี(ไปตั้งแต่ปี 62) | พ่อเราไปดูแลสวนกับเพื่อนที่โคราชจ้าไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้เลิกกับแม่ด้วยค่ะ อยู่กันมานานจะ 40 ปีแล้วจ้า
- ด่าแม่เราว่าอีดำตับเป็ด ผอมกะหร่อง ไม่มีจะกิน | ตั้งแต่จำความได้ จนโตมา บ้านเรายังไม่เคยไปขอใครกินเลยค่ะ ซื้อของกินด้วยเงินตัวเองตลอด แต่บ้านเขา คนพ่อคนเดียวกินข้าวผัดสำหรับโต๊ะจีนสำหรับ 10 คนนั่งหมด ลูกสาวและลูกชายเขา เคยเข้ามาเล่นในบ้านเรา ก็กินข้าวผลไม้ของบ้านเราหมดเกลี้ยง ลูกชายตอนเรียนประถมพอเลิกเรียนนั่งรถสองแถวกลับบ้านกับเพื่อน ซึ่งเรานั่งคันนั้นพอดี เขาก็เอาของกินของเพื่อนไปกิน เราเห็นเขาแย่งไปจากมือเพื่อนเขาเลยค่ะ ลูกสาวของลูกคนโตเข้าไปเล่นบ้านไหนก็ไปกินของเขาจนเกลี้ยง เขาคงไม่ได้ไม่มีอันจะกิน แบบนี้น่าจะเรียกว่าตะกละ?
- ลูกเกาะแดก เลี้ยงลูกไม่เป็น ลูกถึงได้เป็นโรคจิต เป็นบ้า พาไปศรีธัญญาบ้างนะ ลูกอ่ะ | เราเรียนจบ ป.ตรี พอเรียนจบได้งานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง แล้วก็ทำฟรีแลนซ์พ่วงไปด้วย จัดสรรเวลางานเอา มีเงินผ่อนรถ เติมน้ำมัน จ่ายค่าน้ำไฟของบ้าน ซื้อของใช้เข้าบ้าน จ่ายค่าเน็ตบ้าน ของตัวเอง ของพ่อแม่ จ่ายทุกอย่างรับจบในหนึ่งคน นี่คือคนเกาะแม่กินแบบที่เขาว่า?? ตรรกกะแบบไหนก่อนคะ?
- ด่าเราว่า
ไม่มีน้ำเมื_ก ได้หาผัวไม่ได้ ไม่เหมือนกู(ตัวเขา)มีเป็นตัวเป็นตน(นางมีผัว 2 คน คนที่หนึ่งเลิกหลังนางกลับไทย ที่เลิกเพราะตอนนางไปเกาหลีนางแอบไปท้องกับผัวคนที่ 2 โดยที่ผัวคนที่ 1 ยังอยู่บ้านหลังเดียวกับพ่อตาแม่ยายอยู่เลย ส่วนผัวคนที่2ก็ไปเกาหลีกับเมียเขาเมื่อปี 62 พอสิงหาปี65 นางก็คลอดลูกของผัวคนอื่น-ผัวคนที่2มีลูกกับเมียเขา2คนเด็กผู้ชาย 5-6 ขวบ) นางให้ผัวคนที่ 2 ซื้อมอไซค์ให้คันนึง แล้ววันที่มาด่าเราก็ใส่ทองเส้นนึงแล้วมาเท้าสะเอวยืนด่าเรา นางภูมิใจมากที่เราเถียงนางกลับไม่ได้ | ส่วนตัวเราคิดว่า การมีเงิน ไม่จำเป็นต้องมีผัวก็ได้อ่ะ ในเมื่อหาเลี้ยงตัวเองได้ จะมีผัวไปทำไมอ่ะ? เราเชื่อว่ามีหญิงแกร่งหลายๆ คนที่คิดแบบเรา
มหากาพย์ เพื่อนบ้านขี้อิจฉา และ ปสด!
[ต้องชี้แจงว่า เวลาบ้านเราทำอะไร จะไม่บอกใคร ไม่ป่าวประกาศ เงินเรา บ้านเรา เรื่องส่วนตัวเรา เราไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ ซึ่งบ้าน 62 กับพรรคพวกอยากรู้เรื่องของบ้านเรามาก พวกนางชอบเม้าส์ ชอบนินทาเรื่องคนอื่นเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งบ้านเราเก็บเงียบไม่ปริปากให้ใครรู้อะไรเลย ไม่ว่าเราจะเรียนจบจากที่ไหน เรียนจบอะไร สาขาไหน ทำงานอะไร พ่อแม่ทำงานอะไร ไม่เคยพูดให้พวกนางรู้เลย รู้ไปก็นินทา รู้ไม่จริงก็นินทาอยู่ดี เลยไม่ให้รู้ไปเลย จะได้อยากรู้จนอกแตกตาย ฮ่าๆ]
รูปภาพประกอบ
1.รังแกเด็ก ตอนเราเรียนเวลาเลิกเรียนจะต้องเดินเข้าซอยบ้าน ซึ่งต้องเดินผ่านบ้าน 62 นางและพรรคพวกของนางประมาณ 4-5 คน จะมานั่งคอยเราเลิกเรียนที่ม้าหินบ้านนาง แล้วด่าเรา ดูถูกเราทุกวัน หาว่าพ่อแม่จน ไม่มีปัญญาส่งลูกเรียน ร.ร.เอกชน ตัวดำ หัวหยิก ขี้เหร่ ด่าทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่ด่า ด่าลับหลังพ่อแม่เราตลอด ไม่เคยกล้าด่าต่อหน้าพ่อแม่ ไม่ใช่เราที่โดนคนเดียว เด็กทั้งซอยโดนหมด ลูกนางดีอยู่บ้านเดียวแหละ
2.ขี้อิจฉา พอเราเรียนจบทำงานได้สักพัก เก็บเงินได้ ก็ไปถอยรถป้ายแดงมา แต่ตอนนั้นเพิ่งสอบใบขับขี่ผ่าน เพิ่งขับรถได้ ไปออกรถที่ศูนย์ซึ่งไกลจากบ้านมาก เลยไม่กล้าขับกลับเอง ให้เซลส์ขับมาส่งให้ ซึ่งเซลส์ก็ใจดีขับมาส่ง พอรถจอดหน้าบ้านเรา แล้วเราก้าวขาลงรถปุ๊บ คนพ่อบ้าน 62 ก็ด่าเราทันทีเลยว่า “ขับรถไม่เป็นแต่กระแดะออกรถ”
3.เล่นพรรคเล่นพวก นางกลัวบ้านเรามีพรรคพวก เวลาเห็นคนในซอยเรียกพ่อแม่เราคุย พอลับหลังพ่อแม่เรา บ้าน 62 จะรีบเดินไปหาคนนั้นแล้วไปคุยกับเขาทันที ซึ่งปกติคนในซอยที่เขาอยู่มานาน เขารู้นิสัยบ้านนี้ เขาจะไม่เรียกบ้าน 62 คุยเลย มีแต่นางไปคุยกับเขาเอง แต่พวกหน้าใหม่ที่ย้ายมาอยู่บ้านเช่า พวกนี้จะตกเป็นเหยื่อชั้นดีของบ้าน 62 ในการทำการยุยง ปลุกปั่น และเสี้ยม ให้เกลียดบ้านเรา หาว่าบ้านเรานิสัยไม่ดี ไม่มีใครคบ อย่าไปยุ่งนะ บ้านนี้มันไม่เอาใคร ถ้าถามว่ารู้ได้ไง เพราะตอนที่พวกเขาแตกคอกันเอง พรรคพวกเขานั่นแหละที่แทงข้างหลังเขา โดยการมาชวนแม่เราคุย แล้วเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง
4.ชอบเลียนแบบ? ต้องเกริ่นก่อนว่า พ่อแม่เราเป็นช่างอิเล็คทรอนิกส์ ประกอบ+ซ่อมเรดาห์เรือ วิทยุ โซนาร์ แต่ก็สามารถทำอย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง เช่นซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า พันคอยล์พัดลม เดินสายไฟ ซ่อม+เดินท่อประปา หรือจะแปลงร่างเป็นช่างก่อสร้างกัน พ่อแม่เราก็ทำได้ ส่วนใหญ่คือทำในบ้านตัวเองไม่ต้องจ้างใคร แต่งานประจำคือเป็นช่างอิเล็กฯ บ้าน 62 คนผัว เห็นพ่อเราเชื่อมเหล็ก ก็ไปเอาเครื่องเชื่อมเหล็กมาเชื่อมบ้าง เห็นพ่อเราถอดชิ้นส่วนมอไซค์ทั้งคันออกมาซ่อม ก็เอามอไซค์ตัวเองมาซ่อมบ้าง(แต่ไม่ถอดทั้งคันนะ) คนเมีย เห็นแม่เราตัดต้นไม้ ตัวเองไม่มีปัญญาทำ ก็ให้ผัวมาตัดต้นไม้ในบ้านอาเราบ้าง (ไม่ตัดฟรีนะ มาเสนอตัวตัดแล้วเก็บเงินอาเรา) เห็นพ่อแม่เราเทปูนทำพื้นหน้าบ้าน ก็ให้คนอื่นในซอยมาถามว่าบ้านเราทำอะไร
5.ชอบสอดส่อง ตอนกลางดึกคืนหนึ่ง มีของตกในบ้านเรา ซึ่งแมวที่เลี้ยงไว้มันถีบของตก เช้าวันต่อมา นางให้ป้าข้างบ้าน(บ้าน 65 คนที่อยู่คนเก่าตอนนี้ย้ายไปแล้ว)ซึ่งแกหูไม่ดี คือเรียกตรงระยะ 1 เมตรยังไม่ได้ยิน แกหูไม่ดีเอามากๆ แต่บ้าน 62 มันให้แกมาถาม ป้าแกมาถามแม่เราว่า เมื่อคืนพี่ได้ยินเสียงพ่อเราตีแม่เราเหรอ พ่อแม่เราก็งง เมื่อคืนตอนไหน กี่ทุ่ม ตอนดึกนอนกันหมดแล้ว แล้วพ่อเราก็ไม่เคยกล้าตีแม่เราด้วย แม่เราเป็นหญิงแกร่ง ลองตีดูสิ หัวพ่อได้แตกแน่ แล้วป้าแกหูไม่ดี จะมาได้ยินเสียงในบ้านเราได้ไง สรุปคืออีบ้าน 62 มันหูดีมากกกกกกกกกกก ได้ยินเสียงของตกในบ้านเรา แล้วไปเล่าให้ป้าแกฟังว่า พ่อตีแม่เรา ให้เขามาถามว่าตีกันเรื่องอะไร ว้อทททท??!!!
6.ชอบด่าปมคนอื่น เมื่อก่อนในซอยจะมีเด็กเป็นใบ้อยู่คนหนึ่ง อยู่กับแม่เขา แม่ของเด็กใบก็โดนเสี้ยมไปให้เกลียดบ้านเราเหมือนกัน แต่เด็กอ่ะ ทุกคนอยากมีเพื่อนเล่น เด็กใบ้ก็มาเล่นกับพวกเด็กคนอื่นในซอย จนมาถึงหน้าบ้าน 62 อีคนแม่ด่าเด็กใบ้ว่า อีใบ้ เป็นใบ้แล้วไม่รู้จักเจียม เด็กมันฟังรู้เรื่องเพราะแค่เป็นใบ้ไม่ได้หูหนวก ก็ไปฟ้องแม่เลย แม่เด็กใบ้เลยมาด่ามันหน้าบ้านมัน แล้วก็ตามสเต็ปเดิม คือมาเรียกแม่เราไปฟ้อง ว่าบ้าน 62 มันด่าใส่ร้ายบ้านเราอย่างนู้นอย่างนี้ บ้านเราก็ อ๋อ อืม เขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ทำใจเถอะ
7.ขี้ขโมย เรื่องสมัยก่อนเหมือนกัน มีบ้านหลังหนึ่งในซอย เขาฝากเงินคนแม่บ้าน 62 มา 1,000 บาท ให้เอามาให้เด็กสองพี่น้องตึกสีส้มคนละ 500 บาท หลังจากวันนั้น เขาเจอกับเด็กสองพี่น้อง เขาเลยถามว่า ป้าฝากเงินไปให้คนละ 500 ได้หรือยัง เด็กตอบว่า ได้แค่คนละ 300 บาท คือนางอมเงินเด็กไป 400 บาท ให้เด็กแค่ 600 บาท ป้าคนที่ฝากเงินมารู้ เลยมาด่านางถึงหน้าบ้านลั่นซอยเลย แล้วเดินพูดประจานไปทั่วซอย นี่เป็นอีกสาเหตุที่คนในซอยที่อยู่มานานรู้นิสัยบ้านนี้ ทุกวันนี้พวกนางก็ขโมยเงินกันเองนั่นแหละ พ่อแม่ลูก 4 คน ใช้เงินคนละกระเป๋า แต่งกกันเอง ทวงกันเอง งงกับการใช้เงินของครอบครัวนี้เหมือนกัน นางชอบมายืนด่ากันเองตรงหน้าบ้าน เพื่อนบ้านเลยได้ยินไปด้วย
8.แย่งกิจการคนอื่น? ในซอยจะมีร้านขายของชำอยู่ 1 ร้าน (ร้านป้าคนที่ฝากเงินมาให้เด็กสองพี่น้องนี่แหละ) เขาเปิดอยู่ร้านเดียวในซอย แล้วอยู่ๆ บ้าน 62 ก็ไปรับน้ำอัดลมมาขาย มีรถโค้ก รถเป๊ปซี่มาส่งน้ำ แล้วก็เอาเบียร์มาแอบขายด้วย นางขายแข่งกับป้าร้านขายของชำ แต่ร้านนั้นเขาเปิดแบบเป็นจริงเป็นจัง มีหน้าร้านตั้งวางของขายให้เห็น แต่บ้าน 62 เป็นประเภทแอบขาย ไม่มีของตั้งโชว์ สุดท้ายขายไม่ดี เจ๊ง
9.หลอกล่อเก่ง พวกบ้านเช่าหน้าใหม่ คนมาใหม่มักเป็นเหยื่อชั้นดีของบ้าน 62 จุดอ่อนของคนคือการเอาเรื่องอะไรก็ได้ของคนอื่นไปขาย จริงเท็จไม่รู้ รู้แต่พูดให้น่าตื่นเต้นมีสตอรี่ไว้ก่อน แล้วเขาจะคลายเรื่องของเขามา พอได้เรื่องเขามาแล้ว นางก็เอาไปขายต่อให้คนอื่น พร้อมทั้งตีสนิทกับคนพวกนั้น แล้วหลอกคนพวกนั้นให้ซื้อหวยใต้ดินกับนาง(นางรับไปให้เจ้ามืออีกที) แต่เรื่องที่นางไม่คาดคิดคือ คนมาเช่าบ้าน(บางคนนะเราไม่ได้เหมารวม) พอเขามีหนี้เยอะๆ เขาก็หนีหนี้ แล้วก็หนีค่าหวยนางไปด้วย มีคนหนีค่าหวยนางไปหลายคนแล้ว ที่รู้เพราะนางเวลามีปัญหานางชอบเดินโพนทานาไปทั่วซอย ตามประสาคนดีชอบแก้ไขคน
10.แอบฉกลูกค้า คนผัวขับวิน แต่ไม่เคยไปเข้าวินเลย เพราะคนเมียคอยมาดักหาคนบ้านเช่าให้ใช้บริการวินรถผัวนาง บอกให้คนบ้านเช่าขึ้นตรงนี้เลย อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเดินออกไปนั่งวินหน้าปากซอย จนหัวหน้าวินรู้ เพราะคนในซอยที่ขับวินอยู่ก็มีอยู่หลายคน เขาเห็น เขาก็คงเอาเรื่องไปบอก หัวหน้าวินก็เข้ามาด่าพวกนางถึงหน้าบ้านว่าให้เลิกดักรับคนในซอย ให้เขาเดินออกไปหาวินนั่งเอง บ้าน 62 ก็โยนความใส่บ้านเราเลยจ้า หาว่าบ้านเราไปฟ้อง คือบ้านเรามีรถขับไปไหนมาไหนเองได้ และที่สำคัญพอรู้ว่าบ้าน 62 มันขับวินนี้ บ้านเราก็ไม่คิดจะใช้บริการเลย กลัวไปยืนเรียกหน้าปากซอยแล้วเจอนาง ไม่อยากขึ้น ไม่อยากใช้บริการ ไม่อยากนั่งรถนาง รังเกียจ
11.หวงของที่ไม่ใช่ของตัวเอง บ้าน 59 หน้าบ้านเขามีต้นมะละกออยู่หนึ่งต้น แล้วคนที่ดูแลบ้าน 59 แทนเจ้าของบ้านตัวจริง คือคนเดียวกับที่ดูแลบ้านเช่าสีส้มในซอย แล้วทีนี้คนดูแลตึกบอกให้ผู้เช่ารายหนึ่งในตึกสีส้มมาตัดต้นมะละกอทิ้ง เนื่องจากมันเกะกะ บ้าน 62 เดินมาโวยวายด่าเขาว่าจะตัดทำไม ต้นมะละกอเป็นของนาง นางจะเก็บไว้กิน ลุงแกกับนางก็ทะเลาะกันจนทุกวันนี้ลุงเขาก็ไม่คุยด้วย แต่ลุงเขาคุยกับแม่เรานะ นางก็พยายามจะคุยกับลุงเขาเพื่อจะเอาไปเป็นพรรคพวกนาง ลุงเขาก็ไม่คุยด้วย ไม่แม้แต่จะมองนางด้วยซ้ำ
12.ชอบกร่าง บ้าน 62 ชอบคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของซอย คือจะกร่างเป็นวงกลมอยู่แถวโซนบ้านนางนี่แหละ ทั้งถังขยะวางหน้าบ้าน 61 รถของคนที่เช่าบ้านนาง(มีคนเช่าแค่ห้องเดียวอีกห้องหนีนางไปแล้ว)นางก็ให้เขาเอารถมาจอดที่หน้าบ้าน 61 บ้านนางมีแต่มอไซค์ทุกเช้าคนผัวจะเอามอไซค์มาจอดเรียงที่หน้าบ้าน 59 ใช้พื้นที่เป็นพื้นที่ของตัวเองเลย
13.ฉี่เรี่ยราด คนลูกชาย ติดเกมส์จนเกือบไม่จบ ม.3 ทุกวันนี้อายุ 30 แต่ชอบพาเพื่อนมาเล่นเกมข้างถนนเสียงดังยามวิกาล พอปวดฉี่แทนที่จะเข้าไปฉี่ในบ้านตัวเอง กลับเดินข้ามมาฉี่ใส่กำแพงบ้าน 61 ซึ่งหลังกำแพงตรงนั้นก็มีศาลพระภูมิอยู่ด้วย ทั้งคนลูกทั้งเพื่อนของคนลูกเลย พอเราเอาคลิปไปแจ้งเทศบาล เรื่องใช้เสียงยามวิกาลจนเรานอนไม่ได้ นางก็เล่นเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไปฉี่ใส่กำแพงบ้าน 59 แทน
14.ด่าคนอื่นไม่ดูตัวเอง คนลูกสาว จบ ม.6 ไปทำงานเป็นพนักงานคลังสินค้าที่โลตัส ช่วงก่อนหรือหลังโควิดไม่มั่นใจ นางไปทำงานที่เกาหลี เพิ่งกลับมาไทยเมื่อประมาณ 11/66 กลับมาได้แค่ 10 เดือนมาหาเรื่องเรากับแม่แล้วยืนด่ากราด
- ด่าเราว่าอีลูกไม่มีพ่อ ทั้งๆ ที่ลูกเขาสองคนคนละพ่อ และไม่ได้อยู่กับพ่อทั้งคู่ คนแรกผัวเลิก คนที่สองยังทำงานอยู่เกาหลี(ไปตั้งแต่ปี 62) | พ่อเราไปดูแลสวนกับเพื่อนที่โคราชจ้าไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้เลิกกับแม่ด้วยค่ะ อยู่กันมานานจะ 40 ปีแล้วจ้า
- ด่าแม่เราว่าอีดำตับเป็ด ผอมกะหร่อง ไม่มีจะกิน | ตั้งแต่จำความได้ จนโตมา บ้านเรายังไม่เคยไปขอใครกินเลยค่ะ ซื้อของกินด้วยเงินตัวเองตลอด แต่บ้านเขา คนพ่อคนเดียวกินข้าวผัดสำหรับโต๊ะจีนสำหรับ 10 คนนั่งหมด ลูกสาวและลูกชายเขา เคยเข้ามาเล่นในบ้านเรา ก็กินข้าวผลไม้ของบ้านเราหมดเกลี้ยง ลูกชายตอนเรียนประถมพอเลิกเรียนนั่งรถสองแถวกลับบ้านกับเพื่อน ซึ่งเรานั่งคันนั้นพอดี เขาก็เอาของกินของเพื่อนไปกิน เราเห็นเขาแย่งไปจากมือเพื่อนเขาเลยค่ะ ลูกสาวของลูกคนโตเข้าไปเล่นบ้านไหนก็ไปกินของเขาจนเกลี้ยง เขาคงไม่ได้ไม่มีอันจะกิน แบบนี้น่าจะเรียกว่าตะกละ?
- ลูกเกาะแดก เลี้ยงลูกไม่เป็น ลูกถึงได้เป็นโรคจิต เป็นบ้า พาไปศรีธัญญาบ้างนะ ลูกอ่ะ | เราเรียนจบ ป.ตรี พอเรียนจบได้งานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง แล้วก็ทำฟรีแลนซ์พ่วงไปด้วย จัดสรรเวลางานเอา มีเงินผ่อนรถ เติมน้ำมัน จ่ายค่าน้ำไฟของบ้าน ซื้อของใช้เข้าบ้าน จ่ายค่าเน็ตบ้าน ของตัวเอง ของพ่อแม่ จ่ายทุกอย่างรับจบในหนึ่งคน นี่คือคนเกาะแม่กินแบบที่เขาว่า?? ตรรกกะแบบไหนก่อนคะ?
- ด่าเราว่า