วันนี้ ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีอัยการสูงสุด สั่งฟ้อง ‘ทักษิณ’ ม.112
https://www.matichon.co.th/politics/news_4742820
วันนี้ ศาลนัด ตรวจพยานหลักฐาน คดีอัยการสูงสุด สั่งฟ้อง ทักษิณ ม.112
เวลา 09.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีที่อัยการสูงสุด สั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตรา 112 หลังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างชาติ เมื่อปี 2558 มีบางช่วงกล่าวพาดพิงสถาบัน ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก โดยก่อนหน้านี้ ศาลให้ประกันตัววงเงิน 500,000 บาท
ซึ่งในวันนี้ นายทักษิณ มาศาลด้วยตนเอง
ผู้ค้าร้านอาหารวอนรัฐบาลอิ๊ง ช่วยด่วน 3 ข้อ แจกปชช. 2 พัน-ซื้ออาหารกิน.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4742786
ผู้ค้าร้านอาหารวอนรัฐบาลอิ๊ง ช่วยด่วน 3 ข้อ แจกปชช. 2 พัน-ซื้ออาหารกิน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นาย
สรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยว่า ทางชมรมผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารอยากฝากขอให้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เร่งสานต่อคือการรับข้อเสนอ 3 ข้อเรียกร้องในจดหมายเปิดผนึกเร่งด่วน เคยส่งถึง นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อมิถุนายน 2567 ประเด็นให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนธุรกิจร้านอาหารจะปิดตัวลงมากกว่านี้ 3 ประเด็นหลักอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งสานต่อ มีดังนี้
1.แก้ไขกฎหมายล้าหลังห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในช่วงเวลา 14.00 น. – 17.00 น. ใช้มาตั้งแต่ปี 2515 โดยคําสั่งคณะปฏิวัติ ขัดแย้งกับยุคสมัยในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามาก รวมถึงเราเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลัก
2.ลดภาษีโรงเรือนให้ธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากเป็นธุรกิจที่โดนภาษีมาก ยังมาโดนภาษีโรงเรือนเปลี่ยนมาใช้อัตราก้าวหน้าอีก ทําให้เป็นภาระใหญ่กับผู้ประกอบการมาก 3.เร่งออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย แบ่งเป็น 2 ส่วน
3.1 มาตรการกระตุ้นให้กับร้านอาหารอย่างกลุ่มเอสเอ็มอี เช่น บุคคลธรรมดาสามารถเก็บใบกํากับภาษี เพื่อนําไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนของบริษัท ห้างร้าน นิติ บุคคลสามารถนําบิลไปลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น
3.2 ออกมาตรการเงินสดลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนทั่วไปคนละ 2,000 บาท 3 เดือน ให้เป็นเงินเติมในแอพพ์เป๋าตัง เพื่อให้ประชาชนนําไปใช้จ่ายซื้ออาหารได้อย่างเดียว ตั้งแต่ร้านข้างทางไปจนถึงร้านเอสเอ็มอีด้วย
นาย
สรเทพ กล่าวว่า หลังจากส่งจดหมายเปิดผนึกเร่งด่วนไปแล้ว ทางรัฐบาลนายเศรษฐายังไม่ได้รับข้อเสนอและปฏิบัติใน 3 ข้อที่เรียกร้องไป ดังนั้น จึงอยากฝากให้รัฐบาลชุดใหม่ของน.ส.แพทองธาร รับพิจารณาและนำไปสานต่อด้วย
นาย
สรเทพ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่ พร้อมปักธงเป็นตัวหลักขับเคลื่อน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทย ค่อนข้างแย่ที่สุดในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว บางประเทศ เช่น มาเลเซีย เศรษฐกิจโตไปแล้ว 5% แต่ของไทยยังคงที่ 2% ดังนั้นอยากให้น.ส.แพทองธาร หาบุคลากรที่เก่งจริงๆ เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจ รวมถึงฝากถึงน.ส. แพทองธาร ให้เป็นนายกฯที่เข้าใจหัวอกของผู้ประกอบการ และเร่งเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
“
อยากให้น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจผู้ประกอบการ และลงมือทำอย่างจริงจัง อยากให้เร่งแก้ไข บริหารบ้านเมืองและเศรษฐกิจ อย่ามัวแต่บริหารการเมือง” นาย
สรเทพ กล่าว
นาย
สรเทพ กล่าวว่า ถ้าสิ้นปีแล้ว ทางหน่วยงานรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงยังไม่สานต่อรับ 3 ประเด็นที่เสนอไปนั้น ตนบอกได้เลยร้านอาหารต้องปิดกิจการไปกว่า 50% เนื่องจากทุกวันนี้ กำลังซื้อหาย การบริโภคจับจ่ายน้อยลง ยกตัวอย่าง จำนวนความถี่ของคนออกมารับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จากอาทิตย์ละ 3 วัน กลายเป็นเดือนละ 1 ครั้ง
อสังหาฯ หวัง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดึงมือเศรษฐกิจร่วม ‘ครม.‘ เร่งกู้วิกฤตปากท้องประชาชน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4742622
อสังหาฯ หวัง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดึงมือเศรษฐกิจร่วม ‘ครม.‘ เร่งกู้วิกฤตปากท้องประชาชน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นาย
พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้ผู้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว สิ่งที่ภาคเอกชนเฝ้ารอดูต่อจากนี้ คือ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ ไม่ว่ากระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม อยากให้มีการพิจารณานำผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ เข้ามาทำงานมากกว่าผู้ที่มาจากฝ่ายการเมือง เนื่องจากเวลานี้ไม่ใช่เวลาของนักการเมือง ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังมีปัจจัยรุมเร้ารออยู่ข้างหน้า ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชนซึ่งยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซึมต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด จะทำอย่างไรให้เขามีรายได้เพิ่ม เมื่อคนมีรายได้เพิ่มจะทำให้กำลังซื้อดีขึ้น เพราะคนมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารจะมีความมั่นใจในการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอี
นาย
พรนริศ กล่าวว่า ส่วนนโยบายกระตุ้นนั้นก็ต้องเร่งดำเนินการ เช่น โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ตามรูปแบบเดิม ก็ต้องหาอะไรมาทดแทนหรือปรับรายละเอียดของโครงการให้ไปต่อได้ เช่น แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เป็นต้น ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากยังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ภาวะสงครามที่จะกระทบต่อการท่องเที่ยว การส่งออก ขณะเดียวกันยังต้องรอดูนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะออกมา ว่าจะเหมือนเดิมหรือเป็นนโยบายใหม่
“
ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่าในปี 2567 นี้ยังไม่ฟื้นตัว เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังซึม ติดหล่มปัญหาแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่ยังแก้ไม่ออก และอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรีเจ็กต์เรตที่ยังอยู่ระดับสูง ถ้าหากรัฐแก้เศรษฐกิจออกจะทำให้แบงก์มีความรู้สึกผ่อนคลาย กล้าปล่อยกู้มากขึ้น ตอนนี้ ปัญหาของตลาดอสังหาฯ คือ คนอยากซื้อ แต่แบงก์ไม่ปล่อยกู้ โดยเฉพาะกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มีปัญหามาก ดังนั้นการแก้ปัญหาคือเศรษฐกิจต้องฟื้น อสังหาฯถึงจะฟื้นได้” นาย
พรนริศกล่าว
JJNY : ศาลนัด สั่งฟ้อง‘ทักษิณ’ ม.112│ผู้ค้าร้านอาหารวอน ช่วยด่วน 3ข้อ│อสังหาฯ หวังเร่งกู้วิกฤตปากท้อง│UNเตือนเกาหลีเหนือ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4742820
วันนี้ ศาลนัด ตรวจพยานหลักฐาน คดีอัยการสูงสุด สั่งฟ้อง ทักษิณ ม.112
เวลา 09.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีที่อัยการสูงสุด สั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตรา 112 หลังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างชาติ เมื่อปี 2558 มีบางช่วงกล่าวพาดพิงสถาบัน ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก โดยก่อนหน้านี้ ศาลให้ประกันตัววงเงิน 500,000 บาท
ซึ่งในวันนี้ นายทักษิณ มาศาลด้วยตนเอง
ผู้ค้าร้านอาหารวอนรัฐบาลอิ๊ง ช่วยด่วน 3 ข้อ แจกปชช. 2 พัน-ซื้ออาหารกิน.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4742786
ผู้ค้าร้านอาหารวอนรัฐบาลอิ๊ง ช่วยด่วน 3 ข้อ แจกปชช. 2 พัน-ซื้ออาหารกิน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เปิดเผยว่า ทางชมรมผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารอยากฝากขอให้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เร่งสานต่อคือการรับข้อเสนอ 3 ข้อเรียกร้องในจดหมายเปิดผนึกเร่งด่วน เคยส่งถึง นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อมิถุนายน 2567 ประเด็นให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนธุรกิจร้านอาหารจะปิดตัวลงมากกว่านี้ 3 ประเด็นหลักอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งสานต่อ มีดังนี้
1.แก้ไขกฎหมายล้าหลังห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในช่วงเวลา 14.00 น. – 17.00 น. ใช้มาตั้งแต่ปี 2515 โดยคําสั่งคณะปฏิวัติ ขัดแย้งกับยุคสมัยในปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามาก รวมถึงเราเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลัก
2.ลดภาษีโรงเรือนให้ธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากเป็นธุรกิจที่โดนภาษีมาก ยังมาโดนภาษีโรงเรือนเปลี่ยนมาใช้อัตราก้าวหน้าอีก ทําให้เป็นภาระใหญ่กับผู้ประกอบการมาก 3.เร่งออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย แบ่งเป็น 2 ส่วน
3.1 มาตรการกระตุ้นให้กับร้านอาหารอย่างกลุ่มเอสเอ็มอี เช่น บุคคลธรรมดาสามารถเก็บใบกํากับภาษี เพื่อนําไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนของบริษัท ห้างร้าน นิติ บุคคลสามารถนําบิลไปลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น
3.2 ออกมาตรการเงินสดลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนทั่วไปคนละ 2,000 บาท 3 เดือน ให้เป็นเงินเติมในแอพพ์เป๋าตัง เพื่อให้ประชาชนนําไปใช้จ่ายซื้ออาหารได้อย่างเดียว ตั้งแต่ร้านข้างทางไปจนถึงร้านเอสเอ็มอีด้วย
นายสรเทพ กล่าวว่า หลังจากส่งจดหมายเปิดผนึกเร่งด่วนไปแล้ว ทางรัฐบาลนายเศรษฐายังไม่ได้รับข้อเสนอและปฏิบัติใน 3 ข้อที่เรียกร้องไป ดังนั้น จึงอยากฝากให้รัฐบาลชุดใหม่ของน.ส.แพทองธาร รับพิจารณาและนำไปสานต่อด้วย
นายสรเทพ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่ พร้อมปักธงเป็นตัวหลักขับเคลื่อน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทย ค่อนข้างแย่ที่สุดในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว บางประเทศ เช่น มาเลเซีย เศรษฐกิจโตไปแล้ว 5% แต่ของไทยยังคงที่ 2% ดังนั้นอยากให้น.ส.แพทองธาร หาบุคลากรที่เก่งจริงๆ เข้าร่วมทีมเศรษฐกิจ รวมถึงฝากถึงน.ส. แพทองธาร ให้เป็นนายกฯที่เข้าใจหัวอกของผู้ประกอบการ และเร่งเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
“อยากให้น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจผู้ประกอบการ และลงมือทำอย่างจริงจัง อยากให้เร่งแก้ไข บริหารบ้านเมืองและเศรษฐกิจ อย่ามัวแต่บริหารการเมือง” นายสรเทพ กล่าว
นายสรเทพ กล่าวว่า ถ้าสิ้นปีแล้ว ทางหน่วยงานรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงยังไม่สานต่อรับ 3 ประเด็นที่เสนอไปนั้น ตนบอกได้เลยร้านอาหารต้องปิดกิจการไปกว่า 50% เนื่องจากทุกวันนี้ กำลังซื้อหาย การบริโภคจับจ่ายน้อยลง ยกตัวอย่าง จำนวนความถี่ของคนออกมารับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จากอาทิตย์ละ 3 วัน กลายเป็นเดือนละ 1 ครั้ง
อสังหาฯ หวัง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดึงมือเศรษฐกิจร่วม ‘ครม.‘ เร่งกู้วิกฤตปากท้องประชาชน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4742622
อสังหาฯ หวัง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ดึงมือเศรษฐกิจร่วม ‘ครม.‘ เร่งกู้วิกฤตปากท้องประชาชน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้ผู้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว สิ่งที่ภาคเอกชนเฝ้ารอดูต่อจากนี้ คือ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ ไม่ว่ากระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม อยากให้มีการพิจารณานำผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ เข้ามาทำงานมากกว่าผู้ที่มาจากฝ่ายการเมือง เนื่องจากเวลานี้ไม่ใช่เวลาของนักการเมือง ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังมีปัจจัยรุมเร้ารออยู่ข้างหน้า ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชนซึ่งยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซึมต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด จะทำอย่างไรให้เขามีรายได้เพิ่ม เมื่อคนมีรายได้เพิ่มจะทำให้กำลังซื้อดีขึ้น เพราะคนมั่นใจในการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารจะมีความมั่นใจในการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอี
นายพรนริศ กล่าวว่า ส่วนนโยบายกระตุ้นนั้นก็ต้องเร่งดำเนินการ เช่น โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ตามรูปแบบเดิม ก็ต้องหาอะไรมาทดแทนหรือปรับรายละเอียดของโครงการให้ไปต่อได้ เช่น แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เป็นต้น ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากยังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ภาวะสงครามที่จะกระทบต่อการท่องเที่ยว การส่งออก ขณะเดียวกันยังต้องรอดูนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะออกมา ว่าจะเหมือนเดิมหรือเป็นนโยบายใหม่
“ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่าในปี 2567 นี้ยังไม่ฟื้นตัว เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังซึม ติดหล่มปัญหาแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่ยังแก้ไม่ออก และอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรีเจ็กต์เรตที่ยังอยู่ระดับสูง ถ้าหากรัฐแก้เศรษฐกิจออกจะทำให้แบงก์มีความรู้สึกผ่อนคลาย กล้าปล่อยกู้มากขึ้น ตอนนี้ ปัญหาของตลาดอสังหาฯ คือ คนอยากซื้อ แต่แบงก์ไม่ปล่อยกู้ โดยเฉพาะกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มีปัญหามาก ดังนั้นการแก้ปัญหาคือเศรษฐกิจต้องฟื้น อสังหาฯถึงจะฟื้นได้” นายพรนริศกล่าว