[CR] รีวิว Alien: Romulus (2024) แบบไม่สปอยล์

กระทู้นี้จะรีวิวแบบไม่สปอยล์ อ่านได้แบบสบายใจ ใครจะแสดงความคิดเห็นก็อย่าสปอยล์นะครับ ส่วนแบบสปอยล์แหลกลาญจะอยู่ลิงค์นี้ https://pantip.com/topic/42921715

ผมชอบเอเลี่ยนทุกภาค แม้บางภาคคนอื่นจะว่าห่วยยังไงก็ตาม สำหรับผมมันมีจุดที่ทำให้รู้สึกว่าโคตรเจ๋งอยู่ แต่ละภาคเลยดูไม่ต่ำกว่า 10 รอบ แถมเก็บสะสมฟิกเกอร์กับหนังสือของกีเกอร์ (H.R. Giger) คนออกแบบเอเลี่ยนไว้เพียบ

ตัดสินใจดู IMAX เพื่อระบบเสียงและภาพที่ใหญ่สะใจ เลือกที่นั่งที่มองหน้าตรงแล้วเห็นกึ่งกลางจอพอดีเพื่อให้สัดส่วนในภาพเพี้ยนน้อยที่สุด แล้วก็พากย์ไทยเพราะทำให้เข้าใจเรื่องราวจากคำพูดต่าง ๆ ได้ดีโดยไม่ละสายตาลงไปอ่านซับ พากย์ดีมากแม้จะมีบางคำที่พูดไม่ชัดถ้อยชัดคำจนฟังไม่ค่อยออกก็เถอะ แต่ก็ยังพอจะจับใจความได้ ผมนั่งดูจนจบเอ็นเครดิต ตามด้วยรายชื่อทีมงานพากย์ไทย ไม่มีฉากหลังเอ็นเครดิต


เรื่องนี้เป็นภาคที่เจ็ด คนที่ยังไม่เคยดูภาคเก่าก็ดูรู้เรื่องเพราะหนังมีบทให้ตัวละครอธิบายสิ่งที่ควรจะรู้ไว้ แต่คุณอาจสงสัยว่าฉากบนจอก็ธรรมดาแล้วทำไมบางคนในโรงถึงร้องเฮ้ยกัน ดังนั้นคนที่เคยดูย่อมได้เปรียบ จะอินและเห็นอะไรมากกว่า แนะนำให้ดูภาคต่อไปนี้ตามลำดับปีที่หนังฉายก่อนดูโลมูลัส

1. ภาคแรก - Alien (1997) เอเลี่ยน
2. ภาคสอง - Aliens (1986) เอเลี่ยน 2 ฝูงมฤตยูนอกโลก
3. ภาคห้า - Prometheus (2012) โพรมีธีอุส
4. ภาคหก - Alien: Covenant (2017) เอเลี่ยน โคเวแนนท์

ถ้าว่างก็อาจดูต่ออีกสองภาค เพราะมีบางสิ่งที่มีกลิ่นอายคล้าย ๆ ชอบกล ไว้จะเล่าในกระทู้สปอยล์

5. ภาคสาม - Alien³ (1992) เอเลี่ยน 3 อสูรสยบจักรวาล
6. ภาคสี่ - Alien: Resurrection (1997) เอเลี่ยน 4 ฝูงมฤตยูเกิดใหม่

หนังดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรกเป๊ะ ทฤษฏีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตัวเอเลี่ยนจะอิงแนวคิดและหนังภาคที่ ริดลีย์ สก็อตต์ กำกับทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่การแสดงชื่อไตเติ้ลหนังตอนเริ่มเรื่องที่คลาสสิกสุด ๆ งานออกแบบฉาก ยานอวกาศทั้งภายนอกภายใน เครื่องมือ เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกด หน้าจอ ฟ้อนต์ตัวหนังสือ รวมทั้งสเปเชียลเอฟเฟค เสียง และเพลงประกอบล้วนอิงจากภาคแรกทั้งนั้น ชอบมาก ๆ แต่ก็มีอิงภาคสองด้วยนะ เช่น อาวุธ คำพูด ชื่ออะไรบางอย่าง เป็นต้น คนที่ไม่เคยดูก็อาจดูผ่าน ๆ ไปไม่ได้เอะใจอะไร

ผู้กำกับ เฟเด อัลบาเรซ ยังเลือกการเล่าเรื่องแบบสโลว์เบิร์น (Slow Burn) เหมือนภาคแรกที่แนะนำตัวละคร นิสัย สถานที่ สถานการณ์ต่าง ๆ ก่อน คือค่อย ๆ ลนไฟเราให้ร้อนทีละนิดจนไหม้แล้วระเบิดในที่สุด จากช่วงดราม่าแบบ Alien (1979) ตามด้วยระทึกขวัญแบบ Don't Breathe (2016) แอ็คชั่นจัดเต็มแบบ Aliens (1986) ปิดท้ายด้วยสยองขวัญแบบ Evil Dead (2013) ไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย คอยลุ้นและอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป ฉากแอ็คชั่นก็เด่นและแปลกตามาก ไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้

ถึงจะอิงของเก่า แต่หนังก็ยังให้สิ่งที่เราไม่เคยเห็น เช่น วงจรเอเลี่ยนเรารู้ว่าไข่เกิดจากไหน รู้ว่าตัวเกาะหน้าเฟซฮักเกอร์ (Facehugger) ออกมาจากไข่แล้วเปลี่ยนเป็นตัวระเบิดอกเชสเบิร์สเตอร์ (Chestburster) ได้ยังไง รู้ว่าจากนั้นมันลอกคราบ แต่ไม่ว่ารู้มันเปลี่ยนขนาดและรูปร่างไปเป็นตัวเต็มวัย (Big Chap) ด้วยวิธีไหน หนังเรื่องนี้จะบอกเรา บอกแม้กระทั่งตัวเกาะหน้ามันหาเราเจอได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่ไม่มีตา

นักแสดงวัยรุ่นทำได้ดีทุกคน ตัวละครมีนิสัยและปมที่ชัดเจน นางเอกดูดีมีออร่าขึ้นจอ น่ารักมาก เพื่อน ๆ ก็ไม่ทำอะไรโง่ ๆ น้องชายนางเอกแสดงดีมาก ดูเด่นไม่แพ้กัน จะได้เห็นงานแสดงของเขาเพิ่มขึ้นแน่นอน

งานด้านสเปเชียลเอฟเฟคถูกใจผมสุด ๆ ดูชื่อล็อกอินได้ ผมชอบงานด้านกลไก และเรื่องนี้ผู้กำกับเน้นว่าฉากไหนใช้เอฟเฟคของจริง (Practical Effect) ได้ ก็จะใช้ เช่น หุ่นกลไกแอนิเมโทรนิก (Animatronic) คนใส่ชุดเอเลี่ยน หุ่นเคลื่อนที่และเคลื่อนไหวแบบบังคับวิทยุ เพื่อให้นักแสดงเห็นโต้ตอบได้ในฉากทันที แต่บางฉากยังไงก็ต้องพึ่ง CG

คลิปเบื้องหลังการใช้ Practical Effect ต่าง ๆ


ขนาดยานอวกาศยังใช้โมเดลย่อส่วน สุดยอดมาก อยากได้


ผมให้คะแนนเต็มเพราะมองไม่เห็นข้อเสียที่จะหักเลย ถึงจะติเรื่องพากย์ไทยบางคำไม่ชัดไปก็เถอะ แต่มันไม่ใช่ส่วนดั้งเดิมของหนัง ถ้าถามว่าจะมีภาคต่อไหม ตอบได้ว่ามีแน่นอน ก็ Aliens (1986) ไง