บทความจาก #กรุงเทพธุรกิจ
ขอบคุณเจ้าของบทความมากๆ ค่ะ
อันตรายที่ซ่อนอยู่ : Laser ID บนบัตรประชาชน ความเสี่ยงที่คุณอาจมองข้าม
By ธนชาติ นุ่มนนท์
16 ส.ค. 2024 เวลา 10:52 น.
วันก่อนผมเข้าไปดูแบบฟอร์มออนไลน์บางหน่วยงาน ที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ แล้วค่อนข้างแปลกใจที่ในการกรอกใบสมัครมีการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ เลขหลังบัตรประชาชน ที่เราเรียกว่า “Laser ID” อีกด้วย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ ต่อการสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าว
โดยหลักการการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เช่น วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ก็มีความเสี่ยงมากพออยู่แล้ว ยิ่งต้องเปิดเผยข้อมูลด้านหลังบัตรประชาชนอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงมากขึ้นไปอีก
ยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีค่าดั่งทองคำ การปกป้องตัวตนของเราจากมิจฉาชีพ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน เอกสารสำคัญที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการติดต่อราชการ และทำธุรกรรมทางการเงิน เราจะมีความมั่นใจได้อย่างไรว่าหน่วยงานที่เก็บข้อมูลเราไปจะมีความสามารถป้องกันไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้หลุดรั่วออกไปสู่กลุ่มมิจฉาชีพได้ดีพอ
ด้านหลังบัตรประชาชนของเรามีข้อมูลสำคัญที่เรียกว่า “Laser ID” เสมือนกุญแจดิจิทัลที่ใช้ยืนยันตัวตนในหลายๆ ระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคการเงิน เช่น สรรพากร ตำรวจ และธนาคารต่างๆ Laser ID นี้ถูกใช้ร่วมกับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ในระบบที่เรียกว่า e-KYC (Electronic - Know Your Client) ซึ่งเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Wallet)
หากข้อมูลนี้รั่วไหล อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น สวมรอยทำธุรกรรมในนามของเรา ซึ่งอันตรายไม่ต่างจากการที่เลขบัตรเครดิตหลุดไปพร้อมกับ CVV หลังบัตร
ปกติการทำธุรกรรมโดยใช้บัตรเครดิตออนไลน์มักสอบถามเลข CVV หลังบัตร ซึ่งผู้ใช้บัตรก็ไม่ควรที่จะบอกเลขดังกล่าวให้กับใคร เพราะมีความเสี่ยงมากต่อการถูกฉ้อฉลและนำไปใช้ในการชำระเงินได้ ยิ่งถ้าเป็นการกรอกข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบอีคอมเมิร์ซออนไลน์ เราเองก็จะต้องมีความมั่นใจว่าระบบดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือจริง
ขอบคุณบทความจาก
กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1140504
อันตรายที่ซ่อนอยู่ : Laser ID บนบัตรประชาชน ความเสี่ยงที่คุณอาจมองข้าม
By ธนชาติ นุ่มนนท์
16 ส.ค. 2024 เวลา 10:52 น.
วันก่อนผมเข้าไปดูแบบฟอร์มออนไลน์บางหน่วยงาน ที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ แล้วค่อนข้างแปลกใจที่ในการกรอกใบสมัครมีการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ เลขหลังบัตรประชาชน ที่เราเรียกว่า “Laser ID” อีกด้วย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ ต่อการสมัครเข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าว
โดยหลักการการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ เช่น วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ก็มีความเสี่ยงมากพออยู่แล้ว ยิ่งต้องเปิดเผยข้อมูลด้านหลังบัตรประชาชนอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงมากขึ้นไปอีก
ยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีค่าดั่งทองคำ การปกป้องตัวตนของเราจากมิจฉาชีพ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน เอกสารสำคัญที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการติดต่อราชการ และทำธุรกรรมทางการเงิน เราจะมีความมั่นใจได้อย่างไรว่าหน่วยงานที่เก็บข้อมูลเราไปจะมีความสามารถป้องกันไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้หลุดรั่วออกไปสู่กลุ่มมิจฉาชีพได้ดีพอ
ด้านหลังบัตรประชาชนของเรามีข้อมูลสำคัญที่เรียกว่า “Laser ID” เสมือนกุญแจดิจิทัลที่ใช้ยืนยันตัวตนในหลายๆ ระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคการเงิน เช่น สรรพากร ตำรวจ และธนาคารต่างๆ Laser ID นี้ถูกใช้ร่วมกับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ในระบบที่เรียกว่า e-KYC (Electronic - Know Your Client) ซึ่งเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Wallet)
หากข้อมูลนี้รั่วไหล อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น สวมรอยทำธุรกรรมในนามของเรา ซึ่งอันตรายไม่ต่างจากการที่เลขบัตรเครดิตหลุดไปพร้อมกับ CVV หลังบัตร
ปกติการทำธุรกรรมโดยใช้บัตรเครดิตออนไลน์มักสอบถามเลข CVV หลังบัตร ซึ่งผู้ใช้บัตรก็ไม่ควรที่จะบอกเลขดังกล่าวให้กับใคร เพราะมีความเสี่ยงมากต่อการถูกฉ้อฉลและนำไปใช้ในการชำระเงินได้ ยิ่งถ้าเป็นการกรอกข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบอีคอมเมิร์ซออนไลน์ เราเองก็จะต้องมีความมั่นใจว่าระบบดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือจริง
ขอบคุณบทความจาก
กรุงเทพธุรกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1140504