แชร์ประสบการณ์ โดนอายัดบัญชีครั้งที่ 2 จากเคสเดิม / ถอนอายัดบัญชีเรียบร้อยแล้ว

ถูกอายัดบัญชีเป็นครั้งที่ 2 จากเคสเดิม
ความเป็นมาของคดีนี้ : คดีอาชญากรรมออนไลน์ สายด่วน AOC 1441
อายัดไว ภายใน 24 ชม. (โดยไม่ตรวจสอบ แค่ผู้เสียหายแจ้ง)

ผู้เสียหาย : น.ส. A หลงเชื่อเพื่อนที่รู้จักทางออนไลน์ ชักชวนให้มาลงทุนขายออนไลน์ จะได้รับเงินปันผล ซึ่งเพื่อนโชว์ให้ดูว่ามีเงินเข้าบัญชีเพื่อนจริงๆ ในขณะที่ น.ส.A ลงทุนไปเป็น 10 กว่าครั้ง แต่ละครั้งก็โอนเงินเข้าบัญชีผู้รับไม่ซ้ำเลย ไม่เคยได้เงินปันผล หมดไปเป็นแสนแล้ว
ปลาย พ.ค.67 เริ่มเอะใจ ถูกหลอกแน่เลย จึงแจ้งความศูนย์ AOC1441 ไล่จากรายการเดินบัญชี (Bank Statement) ช่วงเกิดเหตุ ปกติจะโอนเงินไม่เกินพัน รายการไหนที่โอนเกินจำนวนดังกล่าว แจ้งความหมด
สิ้นเดือน พ.ค.67 ดันมีรายการของเรา 1 รายการ ที่ น.ส. A โอนเข้ามา ยอด 2 พันกว่าบาท เพื่อจ่ายชำระค่าบริการธุรกรรมปกติ แต่ด้วยความลน ไม่ตรวจสอบ ผู้เสียหายแจ้งความ โทร. 1441 และแจ้งความที่สถานีตำรวจ

อายัดทุกบัญชี ครั้งที่ 1
เริ่ม 17 มิ.ย.67 มี sms เด้งมาจาก ธนาคารหลัก
"บัญชีถูกระงับทำรายการห้ามโอน ถอน ตัดเงิน"

อ.18 มิ.ย. โทรติดต่อธนาคาร แจ้งได้รับหมาย จาก สถานีตำรวจ xxxx อาจจะอายัด 5 วันทำการ และให้ติดต่อ กองบังคับการสอบสวน
ชื่อนายตำรวจยศพันตำรวจ 5 นาย+เบอร์โทร
(โทรทุกเบอร์ ติด แต่ไม่มีผู้รับสาย) ติดต่อไม่ได้ ก็รอไป

ศ.21 มิ.ย. โทรไปใหม่ ฺBank ใหม่ แจ้งโดน 2 คำสั่ง
คดีอาชญากรรมด้านเทคโนโลยี
เลขหมายคดี ตช.xxxx จาก สถานีตำรวจ xxxx
พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ชื่อ xxxx โทร xxxx
โทรตาม พนักงานสอบสวน ค้นหาข้อมูลให้ แจ้งว่า : ไม่มีชื่อเราอยู่แถว 1 ไม่รู้เรื่องคดี ไม่ได้อยู่เวรวันนั้น ให้ติดต่อผู้หมวดอีกคนแทน

จ.24 มิ.ย. ติดต่อผู้หมวดอีกคน แจ้งถ้าไม่มีมาแจ้งความซ้ำ ครบ 7 วัน อาจจะปลดล็อกเอง (ตามกฎหมายต้องปลดอายัดภายใน 72 ชม.)

อ.25 มิ.ย. ผู้หมวดอีกคน โยนเรื่องกลับ ให้ไปติดต่อพนักงานสอบสวนที่แจ้งอายัด จึงนัดเข้าพบ พนักงานสอบสวนที่ สภ.ในพรุ่งนี้
ช่วงเย็น ไป ธนาคารหลัก ขอเอกสารการอายัด ได้หลักฐานมา
หมายสำหรับอายัดบัญชี ที่ ตช.xxxxxxx ลงวันที่ 16 มิ.ย.67 เลขคดี xxxx
เป็นการอายัดบัญชี ขาออก ทั้งหมด แต่สามารถรับเงินบัญชีได้อยู่

พ.26 มิ.ย. เข้าพบพนักงานสอบสวน นำหมายแจ้งอายัดไปด้วย
ค้นเรื่องให้ ทราบตัว ผู้กล่าวหา + เบอร์โทรติดต่อ
ลองโทรไป อ้าว....รู้จัก เขาจ่ายค่าบริการธุรกรรม ปกติ
จึงตามตัว ผู้กล่าวหา ให้มาถอนแจ้งความ ที่ สภ. ทันที และแจ้งถอนอายัด 1441 ด้วย
ผู้กล่าวหา ก็รีบมาดำเนินการให้ เข้าพบพนักงานสอบสวน ชี้แจง

พฤ.27 มิ.ย. พนักงานสอบ ที่ สภ.xxxx ทำหนังสือแจ้งธนาคารหลัก ถอนอายัดบัญชี ให้ ส่งผ่านธนาคารสาขาใกล้สถานี --> สาขานั้น ส่งไปรษณีย์ --> ไปสาขาเจ้าของบัญชี--> email ไป สนญ.--> รอฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ ---> ถึงจะถอนอายัดบัญชีได้ (ตามลำดับขั้นตอนธนาคาร)
ในวันนั้น อีกธนาคารนึง ธ.ฟ้า ให้โทรคุย 3 สาย กับ ตำรวจสอบสวนกลาง CIB AOC ที่รับผิดชอบคดีนี้ ซึ่งผู้เสียหายได้โทรได้ถอนอายัดแล้ว ให้ส่งข้อมูลผ่าน Line เพื่อแจ้งบัญชีเงินฝากธนาคารทั้งหมดที่ถูกอายัด 6 ธนาคาร 8 บัญชี จะถอนอายัดให้ในวันนี้เลย บางธนาคารจะเริ่มใช้งาน

28 มิ.ย. บางธนาคาร เริ่มทำธุรกรรมออนไลน์ได้แล้ว

1 ก.ค. ทุกธนาคาร ถูกถอนอายัดบัญชีครบถ้วนแล้ว
รวม อายัดบัญชีครั้งที่ 1 = 14 วัน

7 ก.ค. ไปติดต่อธนาคาร น้ำตาล เพื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
ไม่สามารถทำได้ เพราะ ชิปบัตรประชาชน ถูกบล็อก
ระหว่างนี้ ก็ไม่มีอะไร ฝาก ถอน โอน ได้ ตามปกติ
อายัดทุกบัญชี ครั้งที่ 2 (ห่างจาก ครั้งที่แรก 1 เดือน)

17 ก.ค.67 ข้อความเด้งมาอีกแล้ว "บัญชีของท่านถูกระงับทำรายการ ให้ติดต่อ ธนาคาร Call Center XXXXX" คราวนี้ อายัดทั้งขาเข้าและออก

18 ก.ค.67
เมื่อถูกอายัดบัญชี (เร่ิ่มเป็นงานแล้ว)
ขั้นตอน
1 . โทรหาธนาคาร แจ้ง ถูกระงับทำรายการ
ขอเลขหมายอายัด AO xxxxx ใครสั่ง : ปปง. ระงับวันที่ 17 ก.ค.67
2. โทร 1441 แจ้งข้อมูลที่ได้รับจากธนาคาร เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติม
เลขที่คดี: xxxx บัญชีเงินฝากต้นเรื่อง ธนาคารหลัก เลขที่บัญชี xxx
ชื่อพนักงานสอบสวน+เบอร์โทร เจ้าของคดี
3. ติดต่อพนักงานสอบสวน ให้ส่งข้อมูลมาทาง Line พร้อมเอกสารถูกอายัดครั้งแรก พร้อมให้ติดต่อ ปปง. เพราะตำรวจไม่ได้แจ้งอายัด แต่มีชื่อเป็นเจ้าของคดี (ตำรวจก็ไม่เคยเจอเคสแบบนี้ "ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ผิด" ไม่รู้จะเดินเรื่องยังไงเหมือนกัน)
นัดพนักงานสอบสวนเข้าพบ ให้ปากคำ วันจันทร์ 22 ก.ค.67
นำ Bank Statement ธนาคารเซ็นรับรองมาด้วย / Print มาเองใช้ไม่ได้
เอกสารต่างๆ ที่จะยืนยันตัวเราเป็นผู้บริสุทธิ์
ช่วงนี้ ก็จะเป็นช่วง หาคนรับผิดชอบคดี โยนกันไปมา พนักงานสอบสวน + สอท. AOC 1441 + ปปง. 1710
โทรกระหน่ำ และติดต่อทุกช่องทางออนไลน์ที่มี

22 ก.ค. ก่อนไปให้ปากคำ ก็ใบแจ้งความไว้ก่อน ว่า โดนอายัดครั้งที่ 2 โดนที่มีการถอนอายัดครั้งที่ 1 ไปแล้ว คดีจบแล้ว แต่อายัดซ้ำ ไปศึกษา มาตรา 157 ไว้ เตรียมแจ้งความกลับทั้งผู้กล่าวหาและเจ้าหน้าที่รัฐ
นัด ผู้กล่าวหา มาให้ปากคำ พร้อมกันทีเดียว เรื่องจะได้ไวขึ้น
เตรียมเอกสาร มาให้พร้อม เกินดีกว่าขาด
1. เอกสารแสดงตัวตน (บัตรประชาชน+ทะเบียนบ้าน+ภาพกิจการร้านค้า)
2. บัญชีของเราใช้งานอย่างถูกต้อง (เขาโอนเป็นค่าอะไรมา)
3. หลักฐานการเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากทุกบัญชี (หน้าสมุดบัญชี)
4. การสื่อสารผ่านธนาคาร+ตำรวจ+ผู้กล่าวหา (ข้อความแชท)
5. ใบบันทึกคำให้การ ที่เราไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าโดนอายัดซ้ำ
ผ่านไปจะ 7 วัน แล้ว ไม่มีความคืบหน้า ระหว่างนี้ ก็ติดต่อ สอท.1441 + ปปง 1710 ตามเรื่องตลอด แต่ไม่ได้เรื่องอะไรเลย

28 ก.ค.
ตาม พนักงานสอบสวน ต่อ แจ้งว่า ได้ส่งเรื่องให้แล้ว ยกเลิกการอายัดบัญชี H-03 ผ่าน Line ของ สอท. ตั้งแต่ 23 ก.ค.แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการตอบกลับ

31 ก.ค. ไปศาลปกครอง ปรึกษาเจ้าหน้าที่ศาล ในการเขียนคำฟ้อง และคำขอให้ระงับการอายัดบัญชี ดูเหมือนเจ้าหน้าทีรัฐ จะเข้าข้อหา มาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ผู้ฟ้องได้รับความเสียหาย
พฤ. 1 ส.ค. ติดต่อ พ.ต.ท.ท่านนึง ตำรวจสอบสวนกลาง AOC CIB ที่ถอนอายัดออนไลน์ให้ในครั้งแรกทุกบัญชี สรุป ท่านแจ้งว่า ไม่ได้เป็นผู้อายัดซ้ำ เป็นคำสั่ง ปปง. ให้ติดต่อ สอท. / ตำรวจสอบสวนกลางไม่เกี่ยวแล้ว
จึงโทรไป ปปง.1710 อีก จนสุดท้าย เจ้าพนักงาน ตอบกลับด้วยน้ำเสียง แสดงว่าเบื่อหน่าย รำคาญ ว่ามีโทรมาแบบนี้เยอะมาก โยนกันไปมา ได้ให้เบอร์ สอท. 02-xxxx หน่วยงานดูแลโดยตรง ให้ติดต่อเบอร์นี้เท่านั้น เรื่องจบทุกราย ไม่มีโทรกลับมาอีก
โทรหา สอท. ตามเบอร์ที่ให้มาแจ้ง ว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งข้อมูลให้ สอท.แล้วทาง Line ของ สอท. ตั้งแต่ 23 ก.ค. ไม่มีการตอบกลับเลย
สอท. ขอ Line ของพนักงานสอบสวน เพื่อหา Line แชท อ่านเอกสารก่อน
แล้วให้ติดต่อกลับมาใหม่ ในช่วงบ่าย
ช่วงบ่าย สอท.แจ้ง พนักงานสอบสวน ส่งเอกสารมาผิดหมด เดี๋ยวจะให้ทาง
สารวัตร ที่ สอท. ติดต่อกับพนักงานสอบสวนให้ส่งเอกสารมาใหม่ สอท.จะมีการประชุมเพื่อปลดอายัด ถอนรายชื่อ ทุกวันจันทร์ ถ้าเอกสารครบถ้วนเรียบร้อย จะเร่งดำเนินการให้

ศ.2 ส.ค. โทรตาม สอท. แจ้ง พนักงานสอบสวนยังส่งเอกสารไม่ครบ
และบอกว่า คำสั่งเป็นการระงับธุรกรรมออนไลน์
เราสามารถไปถอนเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคารได้
ตกเย็น ก็ไปธนาคาร ลองของ ผลปรากฎว่า ไม่สามารถทำรายการหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารได้ บัตรประชาชน ชิปถูกบล็อก
ยกเว้น ธ.น้ำตาล ด้วยความอาวุโสของรอง ผจก. เขาเข้าใจสถานการณ์ว่า เราไม่ใช่ฝ่ายผิด อนุมัติให้หน้าเคาน์เตอร์ปิดบัญชี ให้ เพียงธนาคารเดียว

จ. 5 ส.ค. โทรตาม สอท.อีก แจ้งว่าเอกสารยังไม่ครบ ขาดใบบะหน้า แต่จะตามพนักงานสอบสวนให้เอง / เมื่อพนักงานสอบสวนทราบ ก็ทำเอกสารเพิ่มให้จนครบ สอท. รับเรื่องแล้ว เพื่อนำเสนอเข้าประชุม กับ ปปง. ในวันจันทร์ถัดไป
ขั้นตอน สอท. ส่งให้ผู้บังคับบัญชา 5 คน ลงนามก่อน มาเซ็นครบ ก็ส่งเรื่องไปธนาคารทาง email ใช้ 2-3 วันก็จะใช้บัญชีเงินฝากได้ปกติ ให้โทรมาเช็คใหม่
ส่วนบัตรประชาชนที่ถูกบล็อกชิป ไม่ต้องไปทำใหม่ เพื่อได้รับการถอนอายัดบัญชี ปลดรายชื่อออกแล้ว จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ (ยังไม่ได้ลอง)

พ. 6-7 ส.ค. โทรตาม สอท. เซ็นครบหรือยัง "อยู่ระหว่างผู้บังคับบัญชาลงนามตามลำดับขั้น" ยังเซ็นไม่ครบ

ศ. 9 ส.ค. โทรตาม สอท. แฟ้มเสนอเซ็นยังไม่ลงมา จะไปตามให้ ให้โทรมาใหม่
- 11.30 น. เซ็นครบแล้ว ส่งให้ ปปง.แล้ว ให้ลองทำธุรกรรม วันที่ 19 ส.ค.
- อะไรเนี่ย ยังไม่จบอีก โทรตาม ปปง. 1710
แจ้ง สอท. ทำเรื่องส่ง ปปง. แล้ว ปปง.ได้รับเรื่องแล้วในวันนี้ จะเข้าประชุมในวันอังคารที่ 13 ส.ค. ผ่านประชุม ก็จะส่งต่อธนาคารปลดอายัดบัญชีต่อไป ใช้เวลา ประมาณ 2-3 วัน ก็จะใช้งานได้

พ. 14 ส.ค ได้รับการถอนอายัดบัญชี บางธนาคาร

ศ. 16 ส.ค. 67 ถอนอายัดครบทุกบัญชีแล้ว
รวมระยะเวลาอายัดทุกบัญชีครั้งที่ 2 เป็นเวลา 1 เดือน

ข้อผิดพลาดที่ทำให้เกิดการอายัดบัญชีครั้งที่ 2
หน่วยงานไหนควรต้องมาดูแลรับผิดชอบ เคสแบบนี้มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โยนเรื่องกันไปมา ระหว่าง 3 หน่วยงาน กว่าจะหาที่ลงได้ หน่วยงานรัฐ ต้องชี้แจง ทำแนวทางให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริสุทธิ์ หลุดจากวงจรนี้ ได้ถอนอายัดบัญชีโดยเร็ว
ค่าเสียเวลา ค่าใช้จ่าย ค่าเสียหาย สุขภาพจิต ระหว่างนี้ เยียวยาอะไรได้บ้าง อยากได้ไปฟ้องเอา เสียเวลาอีกตามเคย

เงินของเรา แต่ใช้ไม่ได้ อายัดทุกบัญชี ระหว่างที่โดนอายัด ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่มีเงินสำรอง เค้าจะต้องใช้ชีวิตอย่างไร ช่วยพิจารณาด้วย

อายัดไว ถอนให้ไวเหมือนอายัดด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เจ้าของกระทู้ใส่รายละเอียดได้เยอะดี แต่แต่แต่...

ผมอ่าน2ย่อหน้า และพยายามอ่านไทม์ไลน์
จนต้องยอมรับว่าในเมื่อผมไม่เข้าใจต้นเรื่องแล้ว ผมก็แสดงคห.เรื่องนี้ไม่ได้
แต่ขอทักท้วงการเล่าเรื่องนะครับ

ย่อแรก

"ผู้เสียหาย: น.ส. A หลงเชื่อเพื่อนที่รู้จักทางออนไลน์
ถาม: เริ่มเรื่องก็ไม่รู้ใครเป็นใครแล้ว

ย่อสอง
"ปลาย พ.ค.67 เริ่มเอะใจ ถูกหลอกแน่เลย"
ถาม:บอกตอนปลายไม่ได้บอกว่าเรื่องเริ่มเมื่อไหร่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่