ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า เนื่องจากเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว ที่ทำงานมีกิจกรรมสังสรรค์แล้วพนักงานที่บริษัทสังสรรค์กันหนักหน่วง
เรียกว่ากินกันแบบทิ้งตัวเลยครับ จึงได้มีการเปิดที่พักรายวันให้พนักงานที่ขับรถกลับบ้านไม่ไหวให้พักผ่อนให้สดชื่น ดีกว่าขับรถกลับทันที
แต่มันก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น คือว่า วันนั้นมันมีน้องพนักงานผู้หญิงสองคนชื่อว่า น้องเอ น้องบี เดินพยุงพี่พนักงานผู้ชายที่เมาไม่ได้สติ ไปส่งที่ห้องพัก
แล้วด้วยความที่พนักงานผู้ชาย และน้องเอดื่มหนักก็ล้มลงบนเตียง แล้วน้องเอล้มไปนอนก่ายพนักงานชายคนนั้น แต่น้องบียังพอมีสติเหลืออยู่บ้างเลยเรียกน้องเอ แต่เรียกเท่าไหร่น้องเอก็ไม่ลุก น้องบีเลยต้องไปตามคนมาช่วย เพื่อให้ออกไปจากตรงนั้น เพราะมันดูไม่ดี
แต่เหตุการณ์นี้มันบังเอิญมีคนอื่นมาเห็นระหว่างที่น้องบีไปตามคนมาช่วย จนเรื่องถึงผู้ใหญ่หลายคน จึงได้มีการเรียกคุยกันโดยที่ยังไม่ได้เรียกน้องเอมารับทราบ แต่ได้เรียกผมและเพื่อนๆของน้องมาคุยและตักเตือน (ว่ากล่าวในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น) และหาตัวแทนไปตักเตือนน้องเอ โดยที่ผู้ใหญ่นั้นได้ลงความเห็นว่า ให้น้องบีเป็นคนไปพูดคุยและตักเตือนน้องเอ เพราะน้องมีความสนิทกัน
จนเรื่องผ่านมาเดือนนึงได้ ผมได้ถามไปทางน้องบีถึงความคืบหน้าและฟีดแบคจากการที่ไปพูดคุยว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องบีบอกกลับมาว่า ไม่กล้าคุย ไม่รู้จะเตือนยังไง เพราะถ้าเตือนไป เดี๋ยวน้องเอก็เตลิด ไม่พอใจ คิดมาก ออกจากกลุ่ม ออกจากงานอีก
**พื้นฐานน้องเอคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างเซนซิทีฟ แต่ก็ดื้อ บางครั้งเตือนอะไรก็ไม่ค่อยฟัง บางครั้งก็เถียงกลับมา และพาลไม่พูดด้วย เป็นน้องที่อายุน้อยสุดของบริษัท และที่ผ่านมาโดนProtect จากพี่ๆ คนอื่นๆในกลุ่มอยู่บ้าง
บางครั้งที่ประพฤติตัวให้โดนติจากผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะเรียกคนอื่นๆ ไปบอกและให้พี่ติน้องเอ โดยที่บางครั้งน้องเอก็ไม่ได้มารับรู้ความกดดันหรือคำพูดที่แรงๆ ที่ผู้ใหญ่พูดไว้ เพราะพี่ๆ ก็จะกรองคำพูดใหซอฟลงก่อนเสมอ หรือบางครั้งก็ปล่อยผ่านบ้าง ไม่บอกน้องเอบ้างครับ
อยากขอแนวทางทุกคนหน่อยครับว่า ควรดำเนินการเรื่องนี้ต่อยังไงดี หรือแนวทางการคุยกับน้องเอแบบไหนดี หรือควรจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปดีครับ
ขอวิธีพูดคุยตักเตือนพนักงานที่ทำงานครับ
เรียกว่ากินกันแบบทิ้งตัวเลยครับ จึงได้มีการเปิดที่พักรายวันให้พนักงานที่ขับรถกลับบ้านไม่ไหวให้พักผ่อนให้สดชื่น ดีกว่าขับรถกลับทันที
แต่มันก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น คือว่า วันนั้นมันมีน้องพนักงานผู้หญิงสองคนชื่อว่า น้องเอ น้องบี เดินพยุงพี่พนักงานผู้ชายที่เมาไม่ได้สติ ไปส่งที่ห้องพัก
แล้วด้วยความที่พนักงานผู้ชาย และน้องเอดื่มหนักก็ล้มลงบนเตียง แล้วน้องเอล้มไปนอนก่ายพนักงานชายคนนั้น แต่น้องบียังพอมีสติเหลืออยู่บ้างเลยเรียกน้องเอ แต่เรียกเท่าไหร่น้องเอก็ไม่ลุก น้องบีเลยต้องไปตามคนมาช่วย เพื่อให้ออกไปจากตรงนั้น เพราะมันดูไม่ดี
แต่เหตุการณ์นี้มันบังเอิญมีคนอื่นมาเห็นระหว่างที่น้องบีไปตามคนมาช่วย จนเรื่องถึงผู้ใหญ่หลายคน จึงได้มีการเรียกคุยกันโดยที่ยังไม่ได้เรียกน้องเอมารับทราบ แต่ได้เรียกผมและเพื่อนๆของน้องมาคุยและตักเตือน (ว่ากล่าวในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น) และหาตัวแทนไปตักเตือนน้องเอ โดยที่ผู้ใหญ่นั้นได้ลงความเห็นว่า ให้น้องบีเป็นคนไปพูดคุยและตักเตือนน้องเอ เพราะน้องมีความสนิทกัน
จนเรื่องผ่านมาเดือนนึงได้ ผมได้ถามไปทางน้องบีถึงความคืบหน้าและฟีดแบคจากการที่ไปพูดคุยว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องบีบอกกลับมาว่า ไม่กล้าคุย ไม่รู้จะเตือนยังไง เพราะถ้าเตือนไป เดี๋ยวน้องเอก็เตลิด ไม่พอใจ คิดมาก ออกจากกลุ่ม ออกจากงานอีก
**พื้นฐานน้องเอคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างเซนซิทีฟ แต่ก็ดื้อ บางครั้งเตือนอะไรก็ไม่ค่อยฟัง บางครั้งก็เถียงกลับมา และพาลไม่พูดด้วย เป็นน้องที่อายุน้อยสุดของบริษัท และที่ผ่านมาโดนProtect จากพี่ๆ คนอื่นๆในกลุ่มอยู่บ้าง
บางครั้งที่ประพฤติตัวให้โดนติจากผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะเรียกคนอื่นๆ ไปบอกและให้พี่ติน้องเอ โดยที่บางครั้งน้องเอก็ไม่ได้มารับรู้ความกดดันหรือคำพูดที่แรงๆ ที่ผู้ใหญ่พูดไว้ เพราะพี่ๆ ก็จะกรองคำพูดใหซอฟลงก่อนเสมอ หรือบางครั้งก็ปล่อยผ่านบ้าง ไม่บอกน้องเอบ้างครับ
อยากขอแนวทางทุกคนหน่อยครับว่า ควรดำเนินการเรื่องนี้ต่อยังไงดี หรือแนวทางการคุยกับน้องเอแบบไหนดี หรือควรจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปดีครับ