เกริ่นก่อนว่า...เราเป็นพนักงานออฟฟิศ เงินเดือน ไม่ถึง 3 หมื่น และมีร้านกาแฟเล็กๆ เดือนนึงรายได้หักคชจ.ประมาณ 5,000-10,000.-
เท่ากับรายได้เราต่อเดือน ประมาณ 30-40K+++ (บางเดือน)
รายจ่ายเดือนนึง ผ่อนรถ /ค่าห้อง /ให้แม่ / คชจ.ส่วนตัว ประมาณ 25-30 K+++มีเงินเก็บทุกเดือน
ได้รัจักกับ ผู้ชายคนนึง (สามี) ในแอพแชท ลองคุยกันดูเรื่อยๆ
เห้ย ชอบอะไรคล้ายๆกัน มีร้านกาแฟเหมือนกัน เลยมีอะไรให้คุยกันมาเรื่อยๆ
ในระหว่างคุยกัน ในช่วง 1-3 เดือนแรกที่คุยกัน คุยกันแบบทุกอย่างดีมาก ชอบออกกำลังกายเหมือนกัน
มีร้านเหมือนกัน อยากมีลูก อยากมีครอบครัวเหมือนกันรักสัตว์ นิสัยคล้ายๆกันหลายอย่าง จนครบ 3 เดือน ก็นัดกินข้าวกัน
ครั้งแรก สามี พาไปเจอที่บ้าน (เจอแม่สามี) ซึ่งวันแรกแม่เค้าดูเป็นกันเองน่ารัก
ครอบครัวสามี มีแค่แม่ และ สามี 2 คน ที่บ้านทำธุรกิจล็กๆ และโฮมฟิตเนสเล็ก และร้านขายกาแฟ
ก่อนหน้าแต่งงาน เราถามสามีตรงๆว่ามีรายได้จากอะไรบ้าง เพราะก่อนแต่งงานเราก็ต้องหาความมั่นคง
สามีบอกว่ามีรายได้จาก การเก็บค่ายิมรายวัน รายเดือนที่เปิด / และร้านกาแฟ และการซื้อมาขายไป ของอุปกรณ์ออกกำลังกาย
เพราะเราบอกสามีไปตรงๆ ว่าเรามองหาความมั่นคง ถ้าผช.หาเงินได้น้อยกว่าเรา ถ้ามีลูกกันแล้วให้เราดูแลคชจ.ในบ้าน ให้เราอุ้มท้องเลี้ยงลูกเอง
เราก็ไม่เอา เค้ายืนยันว่าเค้าดูแลเราและ ลูก (ในอนาคตได้) เดือนที่ 4 สามีขอแต่งงาน เราตอบตกลง
หลังแต่งงานไม่นานก็ตัดสินใจจดทะเบียนสมรส และไปๆมาๆ บ้านสามี เสาร์ -อาทิตย์
ทุกวันจันทร์เราจะตื่นเช้าหน่อยเพื่อขับรถเข้ามาทำงานใน กทม.
เราและสามีอยู่กันคนละจังหวัด (ระยะทาง ไปกลับ 100 กม.+++)
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาของเราคือ ค่าน้ำมัน / ค่าทางด่วนต่อเดือน ประมาณเดือนละ 3,000.-++
บางมื้อไปกินข้าวนอกบ้านเราก็จ่ายค่าอาหารให้แม่สามี
เราไปอยุ่บ้านสามี สามีก็ดูแลเรื่องการกิน เช่น สั่งอาหาร ดิลิเวอรี่ จ่ายให้
ค่าใช้จ่ายอื่นๆเราออกเอง แรกๆ ไม่มีปัญหาค่ะ เราซัพพอร์ทตัวเองได้
เสาร์-อาทิตย์ เราหารายได้พิเศษโดยการขายขนม ในแอพดิลเวอรี่ เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์
และ ลงขายเครื่องดื่มและขายหน้าร้านด้วย เพื่อหาเงินเป็นค่าน้ำมัน
ตอนที่เราอยุ่ร้านแม่สามีจะเป็นคนขาย น้ำและขนม จะแยกเงินรายรับ
ของ ขนม และ เครื่องดื่มคนละ กระเป๋า แต่พอวัตถุดิบหมด ถ้าเราอยุ่เราจะซื้อมาเติมให้
แรกๆไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเรามีรายได้พอ
ต่อมาด้วยเศรษฐกิจร้านกาแฟเราปิดตัวลง ทำให้รายได้เราเหลือแค่เดือนละ ไม่ถึง 30K
เราก็บ่นให้สามีฟังเรื่องค่าน้ำมันและค่าทางด่วนที่เพิ่มขึ้น นางโอนให้ 1,000.-
หลังๆไม่ได้โอน.......
ต่อมา ขนมที่ตั้งไว้ที่ร้าน ซึ่งเราเป็นคน ลงทุนวัตถุดิบ สามีจะให้ลูกค้าโอนเข้าบัญชีแม่สามี หรือ บัญชีตัวเอง
พอเราถาม สามีก็บอกกลายๆ ไม่ได้พูดตรงๆ เรื่องค่าไฟ ค่าน้ำ ที่เราขายขนม เราเลยรู้สึกจุกๆ ไม่คิดว่าสามีจะพูดแบบนี้
และเรามารู้ทีหลังว่า รายได้ของสามี บางครั้ง ได้ไม่ถึง 20K ที่เค้าอยู่ได้เพราะ เงินของแม่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจริงไหม
เพราะหลังแต่งงานเค้าไม่เคยบอกอะไรเราเลย เรื่องการเงินอันนี้ที่เรารู้เพราะเราถาม รายได้หลักของเขา
ตอนนี้ เรากำลังจะตกงาน เพราะกิจการที่บ.ประสบปัญหาสภาพคล่อง
ก่อนหน้าที่จะแต่งงาน แม่สามีเคยเรียกไปคุยว่าให้ออกงานมาช่วยดูธุรกิจ
จะแบ่งรายได้ให้ครึ่งนึง ซึ่ง ณ ตอนนั้นเรายังมีงานประจำทำเราเลยยังไม่อยากลาออก
แต่ตอนนี้เรากำลังจะประสบปัญหาเรื่องการเงิน กำลังจะตกงาน
คำพูดของสามีคือ เราต้องหาอะไรทำเพื่อให้มีรายได้นะ รายได้ของแม่ ไม่อยากให้ไปแตะต้อง
ซึ่งก่อนหน้านี้พูดว่า ออกมาอยู่ที่บ้านช่วยกันทำงานนี่แหละ เค้าเลี้ยงได้ (ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าจะให้เค้าเลี้ยง)
ตอนนี้เราแต่งงานได้ 8 เดือนแล้วค่ะ
พออยุ่มาเรื่อยๆ สิ่งที่เห็นคือ สามีเป็นคน เป็นคนพูดไปเรื่อย และอารมณ์รุนแรง
เช่น กรณีขับรถแล้วมีรถมาตัดหน้า เค้าจะขับเร็วขึ้นและจะปาดหน้าคืน
ตีพวงมาลัย แบบแรงๆ ซึ่งถ้าเราอยุ่ด้วยเราจะคอย ปลอบให้ใจเย็นเสมอๆ บางครั้งนางจะพูดออกมาว่า
ถ้าอยากเอาคืน แค่ปล่อยลูกแก้ว ใส่หน้ากระจกรถคู่กรณีก็ได้ ซึ่งพอเราได้ยิน เรารู้สึกอึ้งอ่ะ
เวลาที่เค้าทะเลาะกับแม่ เค้าจะระเบิดอารมณ์ ทำร้ายตัวเอง ต่อยกำแพง แต่ไม่เคยทำร้ายเรานะคะ
เรื่องอาหาร จะกินยากมาก ถ้าสามีไปบ้านเราที่ ตจว. จะซื้อ อาหารไปกินที่บ้านเราเอง แทบไม่แตะอาหารที่บ้านเรา
อยุ่บ้านสามี เสาร์อาทิตย์ ถ้าร้อนอยากเปิดแอร์ต้องถามก่อนว่า เปิดแอร์ได้ไหม?
บางวันร้อนต้องทนเปิดพัดลม ในทางกลับกันไปบ้านเราที่ ตจว. เปิดแอร์ฉ่ำๆ...
จะซักผ้าต้องรอให้แดดออกดีๆ เพราะที่บ้านติดโซลาร์เซลล์ ถ้าไม่มีแดด ให้ซักพรุ่งนี้
ตอนนี้เราเครียดมาก ไม่รู้จะพูดยังไง
หรือเราควรพูดกับเขาตรงๆให้เค้าช่วยเราบ้างดี
ใช่ค่ะ เราตัดสินใจผิดพลาด ขอความกรุณาอย่าทับถมเราเลยค่ะ เราอยากได้แนวทาง หรือกำลังใจมากค่ะในตอนนี้
จะหาทางออกในความสัมพันธ์ ยังไงดี??
เท่ากับรายได้เราต่อเดือน ประมาณ 30-40K+++ (บางเดือน)
รายจ่ายเดือนนึง ผ่อนรถ /ค่าห้อง /ให้แม่ / คชจ.ส่วนตัว ประมาณ 25-30 K+++มีเงินเก็บทุกเดือน
ได้รัจักกับ ผู้ชายคนนึง (สามี) ในแอพแชท ลองคุยกันดูเรื่อยๆ
เห้ย ชอบอะไรคล้ายๆกัน มีร้านกาแฟเหมือนกัน เลยมีอะไรให้คุยกันมาเรื่อยๆ
ในระหว่างคุยกัน ในช่วง 1-3 เดือนแรกที่คุยกัน คุยกันแบบทุกอย่างดีมาก ชอบออกกำลังกายเหมือนกัน
มีร้านเหมือนกัน อยากมีลูก อยากมีครอบครัวเหมือนกันรักสัตว์ นิสัยคล้ายๆกันหลายอย่าง จนครบ 3 เดือน ก็นัดกินข้าวกัน
ครั้งแรก สามี พาไปเจอที่บ้าน (เจอแม่สามี) ซึ่งวันแรกแม่เค้าดูเป็นกันเองน่ารัก
ครอบครัวสามี มีแค่แม่ และ สามี 2 คน ที่บ้านทำธุรกิจล็กๆ และโฮมฟิตเนสเล็ก และร้านขายกาแฟ
ก่อนหน้าแต่งงาน เราถามสามีตรงๆว่ามีรายได้จากอะไรบ้าง เพราะก่อนแต่งงานเราก็ต้องหาความมั่นคง
สามีบอกว่ามีรายได้จาก การเก็บค่ายิมรายวัน รายเดือนที่เปิด / และร้านกาแฟ และการซื้อมาขายไป ของอุปกรณ์ออกกำลังกาย
เพราะเราบอกสามีไปตรงๆ ว่าเรามองหาความมั่นคง ถ้าผช.หาเงินได้น้อยกว่าเรา ถ้ามีลูกกันแล้วให้เราดูแลคชจ.ในบ้าน ให้เราอุ้มท้องเลี้ยงลูกเอง
เราก็ไม่เอา เค้ายืนยันว่าเค้าดูแลเราและ ลูก (ในอนาคตได้) เดือนที่ 4 สามีขอแต่งงาน เราตอบตกลง
หลังแต่งงานไม่นานก็ตัดสินใจจดทะเบียนสมรส และไปๆมาๆ บ้านสามี เสาร์ -อาทิตย์
ทุกวันจันทร์เราจะตื่นเช้าหน่อยเพื่อขับรถเข้ามาทำงานใน กทม.
เราและสามีอยู่กันคนละจังหวัด (ระยะทาง ไปกลับ 100 กม.+++)
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาของเราคือ ค่าน้ำมัน / ค่าทางด่วนต่อเดือน ประมาณเดือนละ 3,000.-++
บางมื้อไปกินข้าวนอกบ้านเราก็จ่ายค่าอาหารให้แม่สามี
เราไปอยุ่บ้านสามี สามีก็ดูแลเรื่องการกิน เช่น สั่งอาหาร ดิลิเวอรี่ จ่ายให้
ค่าใช้จ่ายอื่นๆเราออกเอง แรกๆ ไม่มีปัญหาค่ะ เราซัพพอร์ทตัวเองได้
เสาร์-อาทิตย์ เราหารายได้พิเศษโดยการขายขนม ในแอพดิลเวอรี่ เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์
และ ลงขายเครื่องดื่มและขายหน้าร้านด้วย เพื่อหาเงินเป็นค่าน้ำมัน
ตอนที่เราอยุ่ร้านแม่สามีจะเป็นคนขาย น้ำและขนม จะแยกเงินรายรับ
ของ ขนม และ เครื่องดื่มคนละ กระเป๋า แต่พอวัตถุดิบหมด ถ้าเราอยุ่เราจะซื้อมาเติมให้
แรกๆไม่มีปัญหาค่ะ เพราะเรามีรายได้พอ
ต่อมาด้วยเศรษฐกิจร้านกาแฟเราปิดตัวลง ทำให้รายได้เราเหลือแค่เดือนละ ไม่ถึง 30K
เราก็บ่นให้สามีฟังเรื่องค่าน้ำมันและค่าทางด่วนที่เพิ่มขึ้น นางโอนให้ 1,000.-
หลังๆไม่ได้โอน.......
ต่อมา ขนมที่ตั้งไว้ที่ร้าน ซึ่งเราเป็นคน ลงทุนวัตถุดิบ สามีจะให้ลูกค้าโอนเข้าบัญชีแม่สามี หรือ บัญชีตัวเอง
พอเราถาม สามีก็บอกกลายๆ ไม่ได้พูดตรงๆ เรื่องค่าไฟ ค่าน้ำ ที่เราขายขนม เราเลยรู้สึกจุกๆ ไม่คิดว่าสามีจะพูดแบบนี้
และเรามารู้ทีหลังว่า รายได้ของสามี บางครั้ง ได้ไม่ถึง 20K ที่เค้าอยู่ได้เพราะ เงินของแม่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจริงไหม
เพราะหลังแต่งงานเค้าไม่เคยบอกอะไรเราเลย เรื่องการเงินอันนี้ที่เรารู้เพราะเราถาม รายได้หลักของเขา
ตอนนี้ เรากำลังจะตกงาน เพราะกิจการที่บ.ประสบปัญหาสภาพคล่อง
ก่อนหน้าที่จะแต่งงาน แม่สามีเคยเรียกไปคุยว่าให้ออกงานมาช่วยดูธุรกิจ
จะแบ่งรายได้ให้ครึ่งนึง ซึ่ง ณ ตอนนั้นเรายังมีงานประจำทำเราเลยยังไม่อยากลาออก
แต่ตอนนี้เรากำลังจะประสบปัญหาเรื่องการเงิน กำลังจะตกงาน
คำพูดของสามีคือ เราต้องหาอะไรทำเพื่อให้มีรายได้นะ รายได้ของแม่ ไม่อยากให้ไปแตะต้อง
ซึ่งก่อนหน้านี้พูดว่า ออกมาอยู่ที่บ้านช่วยกันทำงานนี่แหละ เค้าเลี้ยงได้ (ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าจะให้เค้าเลี้ยง)
ตอนนี้เราแต่งงานได้ 8 เดือนแล้วค่ะ
พออยุ่มาเรื่อยๆ สิ่งที่เห็นคือ สามีเป็นคน เป็นคนพูดไปเรื่อย และอารมณ์รุนแรง
เช่น กรณีขับรถแล้วมีรถมาตัดหน้า เค้าจะขับเร็วขึ้นและจะปาดหน้าคืน
ตีพวงมาลัย แบบแรงๆ ซึ่งถ้าเราอยุ่ด้วยเราจะคอย ปลอบให้ใจเย็นเสมอๆ บางครั้งนางจะพูดออกมาว่า
ถ้าอยากเอาคืน แค่ปล่อยลูกแก้ว ใส่หน้ากระจกรถคู่กรณีก็ได้ ซึ่งพอเราได้ยิน เรารู้สึกอึ้งอ่ะ
เวลาที่เค้าทะเลาะกับแม่ เค้าจะระเบิดอารมณ์ ทำร้ายตัวเอง ต่อยกำแพง แต่ไม่เคยทำร้ายเรานะคะ
เรื่องอาหาร จะกินยากมาก ถ้าสามีไปบ้านเราที่ ตจว. จะซื้อ อาหารไปกินที่บ้านเราเอง แทบไม่แตะอาหารที่บ้านเรา
อยุ่บ้านสามี เสาร์อาทิตย์ ถ้าร้อนอยากเปิดแอร์ต้องถามก่อนว่า เปิดแอร์ได้ไหม?
บางวันร้อนต้องทนเปิดพัดลม ในทางกลับกันไปบ้านเราที่ ตจว. เปิดแอร์ฉ่ำๆ...
จะซักผ้าต้องรอให้แดดออกดีๆ เพราะที่บ้านติดโซลาร์เซลล์ ถ้าไม่มีแดด ให้ซักพรุ่งนี้
ตอนนี้เราเครียดมาก ไม่รู้จะพูดยังไง
หรือเราควรพูดกับเขาตรงๆให้เค้าช่วยเราบ้างดี
ใช่ค่ะ เราตัดสินใจผิดพลาด ขอความกรุณาอย่าทับถมเราเลยค่ะ เราอยากได้แนวทาง หรือกำลังใจมากค่ะในตอนนี้