ขอคำปรึกษาขั้นตอนในการดำเนินการระหว่างซ่อมรถหลังจากการเกิดอุบัติเหตุครับ

พอดีผมประสบอุบัติเหตุจากการโดนรถจักรยานยนต์ตัดหน้าอย่างกระชัดชันชิด (ผมรถจักรยานยนต์เหมือนกัน) คู่กรณีเรียกประกันมาสอบถามเหตุการณ์และตรวจสอบความเสียหาย แต่ผมไม่มีประกันนะครับเนื่องจากรถใหม่และเพิ่งได้ทะเบียนเย็นวันก่อนเกิดเหตุ คู่กรณียอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด ประกันของคู่กรณีก็เลยออกใบบันทึกความเสียหายหรือที่เรียกว่าใบเคลมให้ หลังจากนั้นก็ไปที่ สน ลงบันทีกประจำวันและระบุว่าผมเป็นฝ่ายถูก หลังจากเซ็นเอกสารยอมรับกันเรียบร้อยแล้วพี่ตำรวจแนะนำให้ไปรักษาตัวที่โรงบาลก่อนเนื่องจากผมไม่สามารถเดินได้เพราะลงน้ำหนักที่เท้าแล้วเจ็บ ต้องกระโดดกระต่ายขาเดียว (พ่อผมลางานพาไปโรงพักและพาไปโรงบาล) ผมใช้สิทธิ์ พรบ. ในการรักษา หมอเอกซเรย์พบว่ากระดูกส้นเท้าแตกและมีโอกาสได้ผ่าตัดใส่น็อตยึดแต่ต้องนัดคิวรอหมอศัลยกรรมกระดูกวางแผนแนวทางในการรักษาก่อน 1 อาทิตย์ จากนั้นผมก็กลับบ้านรักษาตัวโดยการใส่เผือกอ่อนพร้อมกับใบรับรองแพทย์ 1 อาทิตย์ หลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ถึงวันนัดพบหมอก็เป็นไปตามที่หมอแผนกฉุกเฉินคาดการณ์ไว้ หมอศัลกรรมกระดูกบอกว่าต้องผ่าตัดเนื่องจากกระดูกแตกค่อนข้างใหญ่ 0.5 มิล และเป็นจุดที่เส้นเอ็นมีโอกาสจะดึงกระดูกให้แยกออกจากกัน จากนั้นหมอก็เรียกผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ พรบ เข้ามาคุยในห้องตรวจ ผลปรากฎว่าค่าผ่าตัดเกินวงเงิน พรบ หลักแสน และโรงบาลที่ผมไปเขายกเลิกบัตร 30 ไปแล้ว อันนี้ผมเพิ่งทราบหลังจากวันที่เจรจาเรื่องผ่าตัดเพราะคิดว่าโรงบาลยังรับบัตร 30 เพราะชื่อผมเคยขึ้นให้ใช้สิทธิ์ที่นี่ แต่หมอแนะนำอีกทางเลือกคือใส่เฝือกไปก่อนสัก 2 อาทิตย์และค่อยมาเอกซเรย์ดูว่ากระดูกจะแยกออกจากกันไหม เพราะหมอบอกว่ามันมีโอกาสที่กระดูกแยกออกจากกันเฉย ๆ แต่ถ้าวันมาถอดเฝือกและเอกซเรย์ดูแล้วกระดูกไม่มีแนวโน้มแยกออกจากกันก็จะรักษาด้วยการใส่เฝือกแข็งตามปกติ ผมก็ตกลงตามนั้นหมอเลยเรียนใบรับแรงแพทย์เป็น 1 เดือนและได้บอกผมว่าเคทแบบผมจะใช้เวลา 2-3 เดือนที่จะไม่สามารถเดินได้และต้องหยุดงาน พอหลังจากรักษาตัวผ่านมาประมาณ 13 วันหลังจากเข้าโรงบาลครั้งแรก ผมมาเห็นในใบเคลมซ่อมรถของประกันคู่กรณีเขียนระบุไว้ใบว่าโปรดติดต่อประกันหลังจากได้รับใบเคลมภายใน 15 วัน ผมเลยรีบติดต่อบริษัทไป ทางบริษัทแจ้งว่าไม่มีอู่หรือศูนย์ในเขตพื้นที่ของผมและระแวกใกล้เคียงเลย ทางประกันก็เลยแนะนำให้ผมติดต่อหาศูนย์ที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายรถ แต่ผมต้องเอารถเข้าไปประเมินค่าอะไหล่และค่าแรงและส่งให้ทางประกันได้คุมราคาก่อน ซึ่งการติดต่อกับประกันยากมาก บอกจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ผ่านไป 1 วันไม่มีใครโทรมา พอวันต่อมาผมเลยดำเนินการเองโดยดูวิธีการผ่านในเน็ตและในยูทูป เลยตัดสินใจจ้างให้ญาติมายกรถไปศูนย์ใกล้บ้านโดยที่ตัวผมไปด้วยและบอกให้ทางศูนย์ประเมินราคาค่าซ่อม พอได้ใบเสนอราคามาก็ยกรถกลับมาบ้านและรอประกันติดต่อมา พอถึงช่วงบ่ายประกันติดต่อมาบอกว่าให้ส่งใบเสนอราคาค่าซ่อมและค่าเปลี่ยนอะไรมาทุกชิ้น ชิ้นไหนที่เป็นอะไรไหล่แต่งให้ไปซื้อมาโดยการสำรองจ่ายไปก่อนและขอบิลมด้วย ตอนนี้ผมเลยอยู่ที่ขั้นตอนนี้อยู่ครับ และจากที่ดูข้อมูลในเน็ตได้มีการบอกว่าเราจะโดนต่อรองราคาจากขั้นตอนนี้ ผมเลยอยากทราบว่าถ้าหากถ้าเขาคุมราคาจากค่าซ่อมราคารวมทั้งหมด 15000 แต่เราโดนต่อรองเหลือ 8000 แบบนี้เราสามารถทำยังไงได้บ้าง รถเพิ่งออกมา 1 เดือน และเพิ่งได้ทะเบียนและพรบช่วงเย็นก่อนจะถึงวันเกิดเหตุพอดี แล้วผมควรปรึกษา คปภ. ขั้นตอนหลังจากได้ใบคุมราคาและเราไม่พอใจกับค่าซ่อมได้เลยหรือไม่ และถ้าจารจากันไม่ได้จริง ๆ เราสามารถเอาค่าส่วนต่างตรงนี้ไปเรียกกับค่าสินไหมในวันที่นัดเคลียร์กันที่ สน ได้หรือเปล่า เพราะที่ผมต้องการคืออยากให้รถสภาพให้เหมือนเดิมก่อนเกิดเหตุ ค่าเสียหายตามจริงค่าทรัพย์สินค่าขาดโอกาสและในทำงานตามจริงไม่บวกอะไรเพิ่มนอกจากที่ไม่มีอะไรยืนยันได้ เพิ่งเคยประสบอุบัติเหตุแบบนี้ครั้งแรกครับ อาจจะยาวหน่อยแต่ผมพยายามอธิบายให้ละเอียดเพื่อการง่ายต่อคนที่อาจจะเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ หรือคนใกล้ตัวเพื่อสามารถมาแนะนำได้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่