รักแฟน แต่ไม่อยากรักครอบครัวแฟนได้มั้ยคะ?

กระทู้สนทนา
ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ เรากับแฟนคบกับมา16ปีแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีแววแต่งงานสักที ปัญหาหลักๆเลยก็แม่แฟนนี่แหละ ด้วยความที่แฟนเราต้องเรียนไปทำงานไปตั้งแต่อายุ15 ได้เงินเดือนมาก็ให้แม่เกือบหมด ไม่ให้ก็โดนด่า จนปัจจุบันแฟนเรามีเงินเก็บเหลือเพียงน้อยนิด ความฝันที่จะแต่งงานจึงเป็นศูนย์ค่ะ เราเลยตัดสินใจอยู่กินกับเค้าไปเลยจบๆ ข้อดีของแฟนเราคือขยัน ทำงานเก่งค่ะ และด้วยความรู้ความสามารถของเค้าทำให้ตอนนี้เงินเดือนเค้าอยู่ที่ 30k++ไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ สำหรับมนุษย์เงินเดือน ข้อเสียคือเงินเดือนแต่ละเดือนเค้าต้องหักให้แม่เค้าเดือนละ10k++ ความจริงก็ 10kแหละค่ะ แต่ที่ต้องบวกคือแม่เค้าขอเพิ่มตลอด ส่วนเราเป็นฟรีแลนซ์ค่ะ เงินเดือนไม่คงที่ บางเดือนได้เยอะบางเดือนได้น้อย แม่เค้าไม่เคยมายุ่งกับเงินเรานะคะ มีแต่ขอให้คนอื่น ไม่รู้บ้านอื่นเป็นกันมั้ย แบบเวลาเรากับไปเยี่ยมญาติที่ตจว.จะมีพวกแม่ๆหรือป้าข้างบ้านพาลูกหลานมาหาเราเพียบเลยค่ะ มาพร้อมกับประโยคที่ว่า"ไหว้น้าเค้าสิลูก เค้าจะได้ให้ตังค์"คือเราแบบ ห๊ะ!!วัฒนธรรมนี้ความเลิกได้แล้วนะ เหมือนพาลูกมาขอทานอ่ะ แม่แฟนเราก็แบบนั้นค่ะ ขี้ขอเกิ้น ขอเงินให้หลานหน่อยพันนึง ว่าซ่าน...10คนก็หมื่นงี้ดิ เราไม่ให้ค่ะ บอกว่าซื้อขนมมาให้แล้ว เงินเราเราเก็บไว้ใช้จ่ายในบ้านกับแฟน คือส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้ควรเลิกทำได้แล้ว ถ้าเราพอใจจะให้เราจะให้เองโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอ แต่กลานนางก็ไม่ได้น่ารักนะ เป็นเด็กผู้กญิง แต่ชอบเล่นแรงๆ แบบชอบปีน ชอบกระโดดใส่ ที่สำคัญดื้อมากตัวเหม็นด้วยแบบแม่แฟนเราเป็นคนเลี้ยงให้ค่ะ ร้องเป็นลูกของพี่ชายแฟนเรา โดนเลี้ยงแบบเอาแต่ใจมาก น้องเคยเล่นโทรศัพท์เรา แต่เราไม่ให้เพราะใช่คุยงาน น้องโมโหปัดโทรศัพท์เราตกพื้นหน้าจอแตกเลยค่ะ แม่แฟนเราก็เห็นนะ บอกแค่ไปทำของอาทำไม จบค่ะ! ต้องบอกก่อนว่าเรากับแม่แฟนไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันนะคะ แต่จะมีแวะมาเยี่ยมบ้างวันหยุดยาว เพราะแฟนเรารู้ค่ะ ว่าเราอยู่กับแม่แฟนเราไม่ได้แน่ๆ เลยตัดสินใจไปเช่าคอนโดอยู่กันสองคน ตอนแรกแม่แฟนเราก็วีนนะ เพราะค่าเช่าค่อนข้างแพง แบบที่ทำงานแฟนเราจะมีหอพักสำหรับพนง.ค่ะ อยู่ฟรี น้ำไฟฟรี เล่าถึงตรงนี้จะจะพอทราบกันนะคะว่าทำไมแม่แฟนถึงวีน เราขี้งกนะคะแต่พอเจอแม่แฟนเรา เรากลายเป็นสายเปย์ไปเลยค่ะ แฟนเราเคยคุยกับแม่เค้าว่าจะซื้อบ้านให้เรา เพราะเค้าเห็นว่าเราอุตส่าห์ยอมมาอยู่กับเค้าทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน สินสอดก็ไม่ได้สักบาท แม่เค้าวีนฉ่ำค่ะบอกว่าจะให้บ้ทนก็ต้องปลูกในที่ของเค้า ต้องย้ายมาอยู่ใกล้เค้า พอมีลูกเค้าจะช่วยเลี้ยง นอกจากเราจะเลิกคิดเรื่องแต่งงาน เรายังเลิกคิดเรื่องมีลูกไปเลยค่ะ เพราะเรารู้ว่าเค้าจะเลี้ยงลูกเรายังไง ต่างจากแม่เรา ตั้งแต่เราเรียนจบจนทำงาน แม่เราไม่เคยเรียกร้องอะไรเลยนะคะ นอกจากว่าจะมีปัญหาจริง ก็จะมีโทร.มาหยิบยืมบ้าง แต่ปกติเราก็ให้ค่ะ แม่เราหนิแต่เค้าก็จะตอบแทนเป็นอย่างอื่นแทน เช่นทำอาหารเลี้ยงบ้าง สางของกินมาให้ที่คอนโดบ้าง ซื้อกับข้าวมาตุนไว้ในตู้เย็นให้บ้าง ต่างจสกแม่แฟนค่ะ เจอกันทีไรคุยแต่เรื่องเงิน ไม่เยี่ยมหาช่วงวันหยุดก็จะเจอตู้เย็นว่างเปล่า คืออยากกินอะไรต้องซื้อเข้ามาทำเองค่ะ หรือถ้าจะกินข้างนอกก็ต้องซื้อเผื่อเค้าด้วย แม่แต่ผงปรุงรสยังไม่มีเลยค่ะ ออกตั้งไม่พอต้องออกแรงทำอีก จะดีหน่อยก็ตอนที่พี่สะใภ้อยู่ด้วยเพราะแกจะทำให้แทบทุกอย่าง เคืองสุดคือเรียกเราว่ากระเป๋าตังค์นี่แหละ ครอบครัวเราค่อนข้างมีฐานะค่ะ ไม่ถึงกับรวยแต่ก็ไม่ได้เดือนร้อนเรื่ิองเงิน มันก็เลยเป็นภาพจำของเค้า ที่ 1 คือเรื่องไม่ค่อยสะอาดค่ะ ทุกซอกทุกมุมของบ้านคือต้องมีขี้จิ้งจก เศษอาหาร อะไรแบบนั้น เราจำได้ว่าตอนมาแรกบ้านถูกเก็บกวาดดีมาก ถึงจะยังไม่ได้ทาสีแต่ก็ดูสะอาดค่ะ พอเรามาบ่อยเข้า จากที่เคยเป็นก็เปลี่ยนไป ทุกครั้งที่ไปบ้านแม่แฟนหมอน ผ้าห่ม แม้แต่ที่นอนเราต้องเตรียมไม่เองค่ะ เพราะเค้ามีแค่เสื่อให้คนละผืน ห้องน้ำคือไม่อยากจะพูดถึงค่ะ ไม่มีทำความสะอาดใดๆขอห่านอย่างดำ ถ้ามีงูอาศัยอยู่ก็ไม่อาจมีใครรู้ได้ ครีมอาบน้ำ สบู่ ยาสีฟัน ก็ต้องเตรียมไปเองค่ะ เข้าเรื่องเลยนะคะ เราไม่อยากมาหาแม่แฟนเราเลยค่ะ แต่ไม่รู้จะบอกแฟนเรายังไงดี เราอึดอัดมากจานชามที่นี่ก็แทบจะมีไม่พอกันกินข้าวน้ำยาล้างจานก็ถูกเจือจางจนกลายเป็นน้ำเปล่า จานชามไม่สะอาด ห้องน้ำก็ไม่อยากใช้ เราไม่อยากให้แฟนที่แสนดีของเราต้องลำบากใจค่ะ ควรพูดยังไงดีค่ะ อาจพิมพ์ผิดเยอะหน่อยนะคะ โทรศัพท์หน้าจอแตกTT
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่