สวัสดีค่ะ จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในตอนนี้ ปีนี้เป็นปีแรกที่เราหันมาสนใจและติดตาม ในกรณีการแข่งขันแบดมินตันชายเดี่ยวที่ผ่านมาและกีฬาอื่นๆ เรารู้สึกว่าได้อะไรจากตรงนี้เยอะมากๆเลย
-อย่างแรกเลยนะคะที่ ฉี ยู่ฉี นักแบดมือวางอันดับ 1 ของจีน แพ้ให้กับ วิว กุลวุฒิ เรานำมาเชื่มโยงกับชีวิตตัวเอง เกริ่นก่อนนิดนึงนะคะคือเราค่อนข้างที่จะได้คะแนน สอบและเกรดโอเคมากๆในด้านการเรียน แน่นอนว่าเรากดดันมาก กดดันตัวเองกลัวทำได้น้อยกว่าที่เคย กดดันจากสายตาคนอื่น กดดันจากคนรอบตัว จะสอบแต่ละครั้งเราเครียดมากๆ เครียดจนคิดว่าถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีต่อสุขภาพจิตแน่ แต่มันก็ยังเลิกกดดันและเครียดไม่ได้ จนเราได้ดูการแข่งขันนี้ เรารู้สึกได้เลยว่าคนเรามันต้องมีผิดพลาดกันบ้าง มีวันที่อยู่จุดที่สูงและต่ำลงมาสลับกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอๆ เรามองว่ามันก็คือประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือจะแย่ก็จะทำให้เราเติบโตได้ทั้งนั้น ทำให้เต็มที่ในทุกๆครั้ง ผลจะออกมาเป็นยังไง ก็คือเราได้ลงมือทำเต็มที่ที่สุดแล้ว (ภายใต้คำว่ากล่าวของชาวจีนที่มีต่อฉี ยู่ฉี เขารับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรกันนะ ??)
-เรารู้สึกว่าการแข่งแบดมินตัน หรือการแข่งขันอื่นๆ นั้นย่อมมีความกดดันสูงมากๆ ยิ่งในกีฬาโอลิมปิกที่ 4 ปีมี 1 ครั้ง ยิ่งกดดันมากๆ เพราะมีแต่คนเก่งทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครจะพลาด จากตรงนี้สิ่งที่เราได้คือ ใครมีสติ ก้าวข้ามความกดดัน ตั้งใจเล่นและเอนจอยกับโมเมนต์ตรงหน้าได้มากกว่า ก็มีโอกาสชนะมากกว่า เหมือนตอนที่เราสอบ เราต่างตั้งใจอ่านหนังสือกันมาทั้งนั้น อ่านซ้ำมาตั้งหลายรอบ ฝึกทำมาตั้งหลายครั้ง สิ่งที่เป็นจุดที่ทำให้คะแนนของเราต่างกัน เราคิดว่าคือสติและการจัดการอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งใครมีสติมากกว่ากันก็มีโอกาสที่จะได้แนนสูง
(ภายใต้ความกดดันที่สูงขนาดนี้ ทำไมนักกีฬาถึงยังสามารถทำมันออกมาได้ดีอยู่เสมอๆ ??)
สุดท้ายคือ เราได้กำลังใจ ได้แรงจูงใจ ทำให้มีไฟในการเรียน(ในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่)ต่อไป เราเห็นนักกีฬาที่ทุ่มแรงและเวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อฝึกซ้อมและแข่งขัน (ในตอนนั้นคงมีนักกีฬาน้อยคนที่จะรู้และแน่ใจว่าตัวเองนั้นจะประสบความสำเร็จในทางด้านนี้ได้จริงๆ เพราะฉะนั้นก่อนที่เขาจะได้มายืนจุดนี้เขาทุ่มแรงและเวลาตั้งมากมายทำสิ่งๆหนึ่งที่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะสิ่งที่ทำอยู่นี้จะส่งผลต่อชีวิตเขาอย่างไร) โดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำยู่นั้นผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร บางคนสมหวัง บางคนผิดหวังเป็นธรรมดา แต่พวกเขาก็พยายามทำตรงนั้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้แล้ว(และจะไม่เสียดายที่ไม่ได้ทำ) ถ้าไม่สมหวังก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ขอให้ตั้งใจและเต็มที่กับมัน !
*แล้วทุกคนได้อะไรจากการดูกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 นี้คะ แลกเปลี่ยนความคิดมุมมองกันได้นะคะ เราเองก็อยากอ่านและมองโลกในมุมต่างออกไปมากขึ้นด้วยค่ะ 🫶🏻
ทุกคนได้อะไรจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024บ้างคะ
-อย่างแรกเลยนะคะที่ ฉี ยู่ฉี นักแบดมือวางอันดับ 1 ของจีน แพ้ให้กับ วิว กุลวุฒิ เรานำมาเชื่มโยงกับชีวิตตัวเอง เกริ่นก่อนนิดนึงนะคะคือเราค่อนข้างที่จะได้คะแนน สอบและเกรดโอเคมากๆในด้านการเรียน แน่นอนว่าเรากดดันมาก กดดันตัวเองกลัวทำได้น้อยกว่าที่เคย กดดันจากสายตาคนอื่น กดดันจากคนรอบตัว จะสอบแต่ละครั้งเราเครียดมากๆ เครียดจนคิดว่าถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีต่อสุขภาพจิตแน่ แต่มันก็ยังเลิกกดดันและเครียดไม่ได้ จนเราได้ดูการแข่งขันนี้ เรารู้สึกได้เลยว่าคนเรามันต้องมีผิดพลาดกันบ้าง มีวันที่อยู่จุดที่สูงและต่ำลงมาสลับกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอๆ เรามองว่ามันก็คือประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือจะแย่ก็จะทำให้เราเติบโตได้ทั้งนั้น ทำให้เต็มที่ในทุกๆครั้ง ผลจะออกมาเป็นยังไง ก็คือเราได้ลงมือทำเต็มที่ที่สุดแล้ว (ภายใต้คำว่ากล่าวของชาวจีนที่มีต่อฉี ยู่ฉี เขารับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรกันนะ ??)
-เรารู้สึกว่าการแข่งแบดมินตัน หรือการแข่งขันอื่นๆ นั้นย่อมมีความกดดันสูงมากๆ ยิ่งในกีฬาโอลิมปิกที่ 4 ปีมี 1 ครั้ง ยิ่งกดดันมากๆ เพราะมีแต่คนเก่งทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครจะพลาด จากตรงนี้สิ่งที่เราได้คือ ใครมีสติ ก้าวข้ามความกดดัน ตั้งใจเล่นและเอนจอยกับโมเมนต์ตรงหน้าได้มากกว่า ก็มีโอกาสชนะมากกว่า เหมือนตอนที่เราสอบ เราต่างตั้งใจอ่านหนังสือกันมาทั้งนั้น อ่านซ้ำมาตั้งหลายรอบ ฝึกทำมาตั้งหลายครั้ง สิ่งที่เป็นจุดที่ทำให้คะแนนของเราต่างกัน เราคิดว่าคือสติและการจัดการอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งใครมีสติมากกว่ากันก็มีโอกาสที่จะได้แนนสูง
(ภายใต้ความกดดันที่สูงขนาดนี้ ทำไมนักกีฬาถึงยังสามารถทำมันออกมาได้ดีอยู่เสมอๆ ??)
สุดท้ายคือ เราได้กำลังใจ ได้แรงจูงใจ ทำให้มีไฟในการเรียน(ในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่)ต่อไป เราเห็นนักกีฬาที่ทุ่มแรงและเวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อฝึกซ้อมและแข่งขัน (ในตอนนั้นคงมีนักกีฬาน้อยคนที่จะรู้และแน่ใจว่าตัวเองนั้นจะประสบความสำเร็จในทางด้านนี้ได้จริงๆ เพราะฉะนั้นก่อนที่เขาจะได้มายืนจุดนี้เขาทุ่มแรงและเวลาตั้งมากมายทำสิ่งๆหนึ่งที่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะสิ่งที่ทำอยู่นี้จะส่งผลต่อชีวิตเขาอย่างไร) โดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำยู่นั้นผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร บางคนสมหวัง บางคนผิดหวังเป็นธรรมดา แต่พวกเขาก็พยายามทำตรงนั้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้แล้ว(และจะไม่เสียดายที่ไม่ได้ทำ) ถ้าไม่สมหวังก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ขอให้ตั้งใจและเต็มที่กับมัน !
*แล้วทุกคนได้อะไรจากการดูกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 นี้คะ แลกเปลี่ยนความคิดมุมมองกันได้นะคะ เราเองก็อยากอ่านและมองโลกในมุมต่างออกไปมากขึ้นด้วยค่ะ 🫶🏻