ตลาดหุ้นถ้าคนเทรดเทรดเป็นอาชีพก็คือการได้เงินสำหรับที่จะนำไปใช้ในกิจกรรมชีวิตหรือการยังชีพระหว่างชีวิตได้อย่างไม่ขัดสน
แต่บางคนก็คิดว่าเป็นการออมเงินและลงทุน เพื่อเป็นการสร้างพอร์ตให้เติบโต แต่ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ในการลงทุนช่วงตลาดหมี
อะไรของเอ๋ง ตลาดหุ้นมีไว้ทำไม
ก็คงต้องเพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวม ขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างเติบโต ในด้านของศักยภาพธุรกิจ
ที่ช่วยในด้านทรัพยากรในการบริการแก่คนในประเทศนั้น และการลงทุนเพื่อระดมทุนจากหลายภาคส่วน เพื่อช่วยสนับสนุน
แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาด ด้วยการขายหุ้นนำเงินเข้าบริษัทจดทะเบียนโดยการให้สิทธิผลตอบแทน
เป็นเงินปันผลแก่คนที่ซื้อหุ้นและถือหุ้นในก่อนการจ่ายปันผล
และตลาดหุ้นยังเป็นช่องทางในการลงทุนเก็งกำไรในตลาดหุ้น
แต่หุ้นจะดีถ้าเป็นช่วงตลาดกระทิง แต่ในสถาวะตลาดหมีอย่างนี้ หรือหากเป็น Black Friday อีก การลงทุนก็ยิ่งทำให้ติดลบง่าย
ก็คงจะมีคนที่เสียเปรียบในการลงทุน ต่อตลาดขาลงนี้มาก
แต่คนที่สามารถเปรมได้ในภาวะซบเซา หรือรวมถึงช่วงตลาดไซด์เวย์เพื่อไม่ให้นักลงทุนเสียเปรียบแก่ตลาดหุ้น
จากการเล่นหุ้นที่มีเพียงการลุ้นให้หุ้นราคาขึ้นเท่านั้น คือคนเทรด DW คนหัวใจมีลุ้น สามารถผายปอดได้
โดยไม่ต้องทำงานประจำเสี่ยงภัย หรือไม่จำเป็นที่คนจะต้องไปทำงานร่วมชะตากรรมกับคนระดับโมโหหิวอยากโชว์การกิน
ที่เขาไม่ได้สนิทชิดเชื้อเสมอไป แม้ใครหนักหนาจะมีเงินกินข้าวไม่มีเลย
ถ้าเปรียบสังคมการทำงานหรือการอยู่ในโลกของคนเป็นดั่งบ่อหรือ
สมัยนี้ปลาหมอคางดำยังไม่เท่าไหร่ ถ้ามีปลาดุกระบาดในบ่อปลาชุมก็ยิ่งอันตราย
หรือในสังคมไทยตามระบบทำงาน ก็ให้ค่าแก่คนที่ชีวิตพัฒนาจนมีสิทธิได้ถือเงิน ในการใช้จ่ายให้แก่บริการและการอุปโภคบริโภค
มากกว่าคนที่คิดหวังเพียง การหารายได้จากคนอื่นโดยสิทธิไม่สำคัญหรือสิทธิไม่ชอบธรรม
การลงทุนในตลาดหุ้น ก็คือการที่คนมีเงินมีค่ามีบทบาทนายทุน แม้เป็นเงินไม่ได้สูงมากแต่บทบาทการทำงานในระบบเศรษฐกิจและสังคม
ก็มีค่ามากได้ หากบางครั้งสังคมในโลกธุรกิจการทำงาน ก็ขาดแคลนลูกค้าเงินอุดหนุนต่างๆ
และเงินในสังคมหายาก ที่ช่วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น
หรือบางครั้งก็คือกลุ่มคนที่พยุงให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศอยู่รอด
ใครบ้าง ที่คิดว่า DW ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเข้าใจและรู้จังหวะของตลาดบ้างครับ
ตลาดหุ้นมีไว้ทำไม
แต่บางคนก็คิดว่าเป็นการออมเงินและลงทุน เพื่อเป็นการสร้างพอร์ตให้เติบโต แต่ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ในการลงทุนช่วงตลาดหมี
อะไรของเอ๋ง ตลาดหุ้นมีไว้ทำไม
ก็คงต้องเพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวม ขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างเติบโต ในด้านของศักยภาพธุรกิจ
ที่ช่วยในด้านทรัพยากรในการบริการแก่คนในประเทศนั้น และการลงทุนเพื่อระดมทุนจากหลายภาคส่วน เพื่อช่วยสนับสนุน
แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาด ด้วยการขายหุ้นนำเงินเข้าบริษัทจดทะเบียนโดยการให้สิทธิผลตอบแทน
เป็นเงินปันผลแก่คนที่ซื้อหุ้นและถือหุ้นในก่อนการจ่ายปันผล
และตลาดหุ้นยังเป็นช่องทางในการลงทุนเก็งกำไรในตลาดหุ้น
แต่หุ้นจะดีถ้าเป็นช่วงตลาดกระทิง แต่ในสถาวะตลาดหมีอย่างนี้ หรือหากเป็น Black Friday อีก การลงทุนก็ยิ่งทำให้ติดลบง่าย
ก็คงจะมีคนที่เสียเปรียบในการลงทุน ต่อตลาดขาลงนี้มาก
แต่คนที่สามารถเปรมได้ในภาวะซบเซา หรือรวมถึงช่วงตลาดไซด์เวย์เพื่อไม่ให้นักลงทุนเสียเปรียบแก่ตลาดหุ้น
จากการเล่นหุ้นที่มีเพียงการลุ้นให้หุ้นราคาขึ้นเท่านั้น คือคนเทรด DW คนหัวใจมีลุ้น สามารถผายปอดได้
โดยไม่ต้องทำงานประจำเสี่ยงภัย หรือไม่จำเป็นที่คนจะต้องไปทำงานร่วมชะตากรรมกับคนระดับโมโหหิวอยากโชว์การกิน
ที่เขาไม่ได้สนิทชิดเชื้อเสมอไป แม้ใครหนักหนาจะมีเงินกินข้าวไม่มีเลย
ถ้าเปรียบสังคมการทำงานหรือการอยู่ในโลกของคนเป็นดั่งบ่อหรือ
สมัยนี้ปลาหมอคางดำยังไม่เท่าไหร่ ถ้ามีปลาดุกระบาดในบ่อปลาชุมก็ยิ่งอันตราย
หรือในสังคมไทยตามระบบทำงาน ก็ให้ค่าแก่คนที่ชีวิตพัฒนาจนมีสิทธิได้ถือเงิน ในการใช้จ่ายให้แก่บริการและการอุปโภคบริโภค
มากกว่าคนที่คิดหวังเพียง การหารายได้จากคนอื่นโดยสิทธิไม่สำคัญหรือสิทธิไม่ชอบธรรม
การลงทุนในตลาดหุ้น ก็คือการที่คนมีเงินมีค่ามีบทบาทนายทุน แม้เป็นเงินไม่ได้สูงมากแต่บทบาทการทำงานในระบบเศรษฐกิจและสังคม
ก็มีค่ามากได้ หากบางครั้งสังคมในโลกธุรกิจการทำงาน ก็ขาดแคลนลูกค้าเงินอุดหนุนต่างๆ
และเงินในสังคมหายาก ที่ช่วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น
หรือบางครั้งก็คือกลุ่มคนที่พยุงให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศอยู่รอด
ใครบ้าง ที่คิดว่า DW ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเข้าใจและรู้จังหวะของตลาดบ้างครับ