ผมจัดฟันกับคุณหมอท่านนี้มา5ปีแล้วครับ
ปกติในช่วง5ปีที่ผ่านมาก็จัดฟันไปปกติไม่มีปัญหา
แต่ในระหว่าง5ปีที่จัดมา ตอนผมเข้ารับการรักษาก็จะได้ฟังคุณหมอบ่น ดุด่า ผู้ช่วยหมอคนเก่าโดยน้ำเสียงใส่อารมณ์บ้าง
เม้าท์มอยเรื่องอื่นๆบ้างระหว่างการทำหัตถกรรม
การเซอร์วิสในเรื่องของการรักษาก็ดูแย่กว่าหมอฟันจากที่อื่น
อาจจะเป็นเพราะคุณหมอท่านเป็นเจ้าของคลินิกเอง และถือดีว่าเป็นระดับอาจาร์ยหมอคนแรกๆในจังหวัดที่เก่งสุดในด้านจัดฟัน
เลยทำตัวแย่ๆแบบนี้
เช่น
การนอนบนเตียง เริ่มจากคุยเรื่องอื่นๆกับคนอื่นๆอยู่ พอบทจะทำฟันก็กดปรับเตียงลงจนผมสะดุ้งไม่มีบอกกล่าวล่วงหน้า
การให้อ้าปากค้างนานๆ แล้วใช้มือทำอย่างรวดเร็ว มีบางครั้งเครื่องมือหรือมือมันถู ถูกมุมปากบางๆจนเจ็บ
การตัดลวดเหล็ก ตัดแบบรีบๆ ตัดแบบใส่อารมณ์จากเรื่องอื่นๆ จนผมกลัว แบบว่าพอตัดลวดฟันด้านบนเสร็จ เครื่องมือที่ตัด มันมาฟาดโดนฟันด้านล่าง
หลังจากตัดลวดเสร็จ มันมีลวดยาวเกินมาทิ้มกระพุ้งแก้ม แต่ด้วยความที่เหมือนหมอเค้าตัดแบบรุนแรง และดูเหมือนมีอารมณ์กับเรื่องอื่นๆมา
ผมก็กลัวไม่กล้าเรื่องมากไปบอกให้คุณหมอไปแก้ไขใหม่ และยอมทนเจ็บไป1เดือน เพื่อรอนัดทำการรักษารอบใหม่
แล้วมาช่วง1ปีกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่ผมจ่ายเงินค่าจัดฟันครบหมดแล้ว
ในความรู้สึกส่วนตัว เหมือนหมอจะรำคาญ ดูไม่ค่อยเต็มใจรักษา เหมือนมองเราเป็นภาระ
ไม่เคยโทรตามนัด
ไปหาแล้วก็ทำรีบๆ ส่งๆ เหมือนให้เสร็จไป
ไม่เคยแจ้งความคืบหน้าการรักษา
ไปหา5ครั้ง อาจจะมีแจ้งผลการรักษาสัก1ครั้ง เช่นบอกว่าเคสเราจัดยาก ปกติต้องผ่าตัดนะ
มีครั้งนึงที่ผมหายไป5เดือน พอกลับไปทำก็ถอนหายใจใส่ ไล่ให้ไปขูดหินปูน
จุดแตกหักระว่างผมกับคุณหมอเกิดจาก เดือนก่อนหลังจัดเสร็จลวดมันเหลือเยอะ แล้วทิ่มขอบกระพุ้งแก้มผมมา1เดือน ผมอึดอัดเจ็บทรมาน
แฟนผมก็ถามว่าทำไมไม่บอกให้หมอแก้ไขก่อนออกจากคลินิก แต่เนื่องจากคุณหมอดูเหมือนใส่อารมณ์ ตัดลวดแบบแรงๆ
ผมก็ไม่กล้าเอาความปลอดภัยของตัวเองมาเสี่ยง
มาเดือนนี้ คลินิกโทรตาม นัดเวลา10.00น. ด้วยความที่ผมทำงานที่ต้องตรงต่อเวลา เพราะจะต้องมีนัดไปหาลูกค้าคนอื่นต่อ ตอน11.00น.
ผมก็ไปถึงหน้าคลินิกตอน09.59น. พอไปถึงก็มีลูกค้าติดเคสอยู่1คน และอีก1คนนั่งรอด้านนอก
พอผมนั่งรอไป20นาที คนไข้เคสแรกเสร็จ
ผมก็นึกว่าจะถึงคิวผม เพราะเวลาจัดฟันในคลินิกนี้ใช้เวลาเปลี่ยนลวด5นาทีเสร็จ
เคยเห็นเคสนัดจัดฟันมาทีหลังแต่คุณหมอบอกคนไข้คนอื่นว่าขอแทรกคิว เปลี่ยนลวด5นาทีให้ก่อนตามเวลานัด
ผมก็ดีใจนึกว่าจะได้ทำก่อน
แต่ปรากฏว่าหมอเรียกคนไข้ คนที่สองเข้าไปทำต่อ แล้วก็เม้าท์กับคนไข้คนที่สองไปเรื่อย จนเวลา10.45น. ผมรอมา45นาทีแล้วจากเวลานัด
หลังจากถึงคิวผม ผมเดินเข้าห้องรักษา นอนรอบนเตียง ตอน10.46น. แต่หมอเดินออกไปโซนด้านนอก ไม่มาทำการรักษา
แต่ไปเม้าท์กับคนไข้เมื่อสักครู่ เรื่องหาวิธีการเลี่ยงภาษีกรมสรรพกรยังไง จะไม่รับเงินโอน การเลี่ยงภาษีจากลูกค้าประกันสังคมยังไง คุยไป5นาที
ในระหว่างนั้นผมกระแอม ไอเสียดังก็ไม่มีใครสนใจ ไม่รีบมาทำการรักษา
และอีกเช่นเคย ครั้งนี้หลังตัดลวดเสร็จ ที่ตัดลวดมากระแทกฟันล่างผม ผมตะโกนเสียงดังลั่นคลินิก บอกให้คุณหมอเบาๆหน่อย ระวังผมหน่อย
และครั้งนี้ความรู้สึกดีๆ ในการรักษามันหายไปแล้วครับ
ผมตัดสินใจย้ายที่รักษา
ผมคิดผิดมาก ที่ไปหาพวกอาจาร์ยหมอที่EGO สูง ไปจัดฟันมา พอเราจ่ายเงินครบหมด เราก็เหมือนตัวภาระประจำคลินิก
ไม่มีการให้เกรียติ ทำผมเสียเวลาจากการนัดที่ไม่เป็นระบบ ไม่มีความระมัดระวังในการทำงาน
ผมมองว่าอาจจะต้องเสียเงิน จัดฟันใหม่รอบ2 ที่คลินิกอื่นอีก2หมื่นบาท และคงจะตัดสินใจทำรากเทียมที่คลินิกใหม่ เพื่อความปลอดภัยในอนาคต
สอบถามพี่ๆเพื่อนๆ หรือหมอฟันท่านอื่นๆ การย้ายเคสจัดฟันแบบนี้ มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้างไหมครับ
- ถ้าประเด็นเสียเงินเพิ่ม ค่าจัดฟันใหม่รอบ2 ผมว่าผมยอมจ่ายเงินใหม่ หาคลินิกที่ทำแล้วเบามือ มีระบบการนัดเวลาที่โอเค ประหยัดเวลาชีวิตได้
ไม่ต้องไปนั่งเครียดทุกๆเดือน
-เคสผมที่หมอแจ้งว่าเป็นเคสที่จัดยาก ปกติต้องใช้ถึงระดับอาจาร์ยหมอไหมครับ หรือว่าหมอท่านอื่นๆที่จบใหม่ก็ได้
-คลินิกใหม่ แจ้งว่าจะต้องถอดเครื่องมือเก่าออกก่อน 2สัปดาห์ แล้วค่อยมาวางแผนการรักษาใหม่ การรักษาใหม่จะมีผลเสียอะไรไหมครับ
เมื่อผมทะเลาะกับอาจาร์ยหมอฟันในคลินิก และอาจต้องเสียเงินเกือบแสนใหม่ในการรักษากับหมอท่านอื่น
ปกติในช่วง5ปีที่ผ่านมาก็จัดฟันไปปกติไม่มีปัญหา
แต่ในระหว่าง5ปีที่จัดมา ตอนผมเข้ารับการรักษาก็จะได้ฟังคุณหมอบ่น ดุด่า ผู้ช่วยหมอคนเก่าโดยน้ำเสียงใส่อารมณ์บ้าง
เม้าท์มอยเรื่องอื่นๆบ้างระหว่างการทำหัตถกรรม
การเซอร์วิสในเรื่องของการรักษาก็ดูแย่กว่าหมอฟันจากที่อื่น
อาจจะเป็นเพราะคุณหมอท่านเป็นเจ้าของคลินิกเอง และถือดีว่าเป็นระดับอาจาร์ยหมอคนแรกๆในจังหวัดที่เก่งสุดในด้านจัดฟัน
เลยทำตัวแย่ๆแบบนี้
เช่น
การนอนบนเตียง เริ่มจากคุยเรื่องอื่นๆกับคนอื่นๆอยู่ พอบทจะทำฟันก็กดปรับเตียงลงจนผมสะดุ้งไม่มีบอกกล่าวล่วงหน้า
การให้อ้าปากค้างนานๆ แล้วใช้มือทำอย่างรวดเร็ว มีบางครั้งเครื่องมือหรือมือมันถู ถูกมุมปากบางๆจนเจ็บ
การตัดลวดเหล็ก ตัดแบบรีบๆ ตัดแบบใส่อารมณ์จากเรื่องอื่นๆ จนผมกลัว แบบว่าพอตัดลวดฟันด้านบนเสร็จ เครื่องมือที่ตัด มันมาฟาดโดนฟันด้านล่าง
หลังจากตัดลวดเสร็จ มันมีลวดยาวเกินมาทิ้มกระพุ้งแก้ม แต่ด้วยความที่เหมือนหมอเค้าตัดแบบรุนแรง และดูเหมือนมีอารมณ์กับเรื่องอื่นๆมา
ผมก็กลัวไม่กล้าเรื่องมากไปบอกให้คุณหมอไปแก้ไขใหม่ และยอมทนเจ็บไป1เดือน เพื่อรอนัดทำการรักษารอบใหม่
แล้วมาช่วง1ปีกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่ผมจ่ายเงินค่าจัดฟันครบหมดแล้ว
ในความรู้สึกส่วนตัว เหมือนหมอจะรำคาญ ดูไม่ค่อยเต็มใจรักษา เหมือนมองเราเป็นภาระ
ไม่เคยโทรตามนัด
ไปหาแล้วก็ทำรีบๆ ส่งๆ เหมือนให้เสร็จไป
ไม่เคยแจ้งความคืบหน้าการรักษา
ไปหา5ครั้ง อาจจะมีแจ้งผลการรักษาสัก1ครั้ง เช่นบอกว่าเคสเราจัดยาก ปกติต้องผ่าตัดนะ
มีครั้งนึงที่ผมหายไป5เดือน พอกลับไปทำก็ถอนหายใจใส่ ไล่ให้ไปขูดหินปูน
จุดแตกหักระว่างผมกับคุณหมอเกิดจาก เดือนก่อนหลังจัดเสร็จลวดมันเหลือเยอะ แล้วทิ่มขอบกระพุ้งแก้มผมมา1เดือน ผมอึดอัดเจ็บทรมาน
แฟนผมก็ถามว่าทำไมไม่บอกให้หมอแก้ไขก่อนออกจากคลินิก แต่เนื่องจากคุณหมอดูเหมือนใส่อารมณ์ ตัดลวดแบบแรงๆ
ผมก็ไม่กล้าเอาความปลอดภัยของตัวเองมาเสี่ยง
มาเดือนนี้ คลินิกโทรตาม นัดเวลา10.00น. ด้วยความที่ผมทำงานที่ต้องตรงต่อเวลา เพราะจะต้องมีนัดไปหาลูกค้าคนอื่นต่อ ตอน11.00น.
ผมก็ไปถึงหน้าคลินิกตอน09.59น. พอไปถึงก็มีลูกค้าติดเคสอยู่1คน และอีก1คนนั่งรอด้านนอก
พอผมนั่งรอไป20นาที คนไข้เคสแรกเสร็จ
ผมก็นึกว่าจะถึงคิวผม เพราะเวลาจัดฟันในคลินิกนี้ใช้เวลาเปลี่ยนลวด5นาทีเสร็จ
เคยเห็นเคสนัดจัดฟันมาทีหลังแต่คุณหมอบอกคนไข้คนอื่นว่าขอแทรกคิว เปลี่ยนลวด5นาทีให้ก่อนตามเวลานัด
ผมก็ดีใจนึกว่าจะได้ทำก่อน
แต่ปรากฏว่าหมอเรียกคนไข้ คนที่สองเข้าไปทำต่อ แล้วก็เม้าท์กับคนไข้คนที่สองไปเรื่อย จนเวลา10.45น. ผมรอมา45นาทีแล้วจากเวลานัด
หลังจากถึงคิวผม ผมเดินเข้าห้องรักษา นอนรอบนเตียง ตอน10.46น. แต่หมอเดินออกไปโซนด้านนอก ไม่มาทำการรักษา
แต่ไปเม้าท์กับคนไข้เมื่อสักครู่ เรื่องหาวิธีการเลี่ยงภาษีกรมสรรพกรยังไง จะไม่รับเงินโอน การเลี่ยงภาษีจากลูกค้าประกันสังคมยังไง คุยไป5นาที
ในระหว่างนั้นผมกระแอม ไอเสียดังก็ไม่มีใครสนใจ ไม่รีบมาทำการรักษา
และอีกเช่นเคย ครั้งนี้หลังตัดลวดเสร็จ ที่ตัดลวดมากระแทกฟันล่างผม ผมตะโกนเสียงดังลั่นคลินิก บอกให้คุณหมอเบาๆหน่อย ระวังผมหน่อย
และครั้งนี้ความรู้สึกดีๆ ในการรักษามันหายไปแล้วครับ
ผมตัดสินใจย้ายที่รักษา
ผมคิดผิดมาก ที่ไปหาพวกอาจาร์ยหมอที่EGO สูง ไปจัดฟันมา พอเราจ่ายเงินครบหมด เราก็เหมือนตัวภาระประจำคลินิก
ไม่มีการให้เกรียติ ทำผมเสียเวลาจากการนัดที่ไม่เป็นระบบ ไม่มีความระมัดระวังในการทำงาน
ผมมองว่าอาจจะต้องเสียเงิน จัดฟันใหม่รอบ2 ที่คลินิกอื่นอีก2หมื่นบาท และคงจะตัดสินใจทำรากเทียมที่คลินิกใหม่ เพื่อความปลอดภัยในอนาคต
สอบถามพี่ๆเพื่อนๆ หรือหมอฟันท่านอื่นๆ การย้ายเคสจัดฟันแบบนี้ มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้างไหมครับ
- ถ้าประเด็นเสียเงินเพิ่ม ค่าจัดฟันใหม่รอบ2 ผมว่าผมยอมจ่ายเงินใหม่ หาคลินิกที่ทำแล้วเบามือ มีระบบการนัดเวลาที่โอเค ประหยัดเวลาชีวิตได้
ไม่ต้องไปนั่งเครียดทุกๆเดือน
-เคสผมที่หมอแจ้งว่าเป็นเคสที่จัดยาก ปกติต้องใช้ถึงระดับอาจาร์ยหมอไหมครับ หรือว่าหมอท่านอื่นๆที่จบใหม่ก็ได้
-คลินิกใหม่ แจ้งว่าจะต้องถอดเครื่องมือเก่าออกก่อน 2สัปดาห์ แล้วค่อยมาวางแผนการรักษาใหม่ การรักษาใหม่จะมีผลเสียอะไรไหมครับ