เมื่อหุ้นไทยพลิกกลับมาแข็งแกร่ง แต่โดนฉุดโดยต่างประเทศ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือการที่ตลาดหุ้นไทยพลิกกลับมาแข็งแกร่งกว่าตลาดประเทศอื่นๆ แม้ว่าสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกโดยเฉพาะตลาดสหรัฐปรับฐานแรง แต่ตลาดหุ้นไทยยังคงไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งต่างจากช่วงที่ผ่านมาที่ถ้าเมืองนอกลง 1 บ้านเราต้องได้รับผลกระทบคูณ 3 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ SET ลงไปทดสอบ low เก่าบริเวณ 1280 แล้วเอาอยู่สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ยังขึ้นแรงต่อมาแนวต้าน 1330
นอกจากนั้นสิ่งที่สังเกตได้คือไม่เกิดการขึ้นกระจุก หมายความว่าดัชนีที่ขึ้นไม่ได้เกิดมาจากตัวทำดัชนี เช่น DELTA เพียงแค่ตัวเดียวแล้วตัวอื่นลงหมดเหมือนในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว แต่เราเห็นหุ้นขึ้นแบบกระจาย เช่น การบิน ปิโต แบงค์ ที่ค่อยๆ สลับกันขึ้นมา
สิ่งที่เห็นชัดเจนมากๆ สัปดาห์ที่ผ่านมาคือประเด็นดอกเบี้ยที่คนกลัวมาเป็นหลักปีว่า ถ้า FED ไม่ยอมลดจะไม่ดีต่อตลาดหุ้น คำถามคือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว FED มีท่าทีในการลดแบบ surprise ทำไมตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงถึงลง และกลายเป็นไปกลัว recession แทน? แปลว่าเรากำลังใช้ FED กับดอกเบี้ยมาเป็นข้ออ้างหรือไม่? เพราะฉะนั้นนี่อาจเป็นสิ่งสะท้อนว่าเราควรให้น้ำหนักเรื่องนี้น้อยลงและไปคิดถึงปัจจัยอื่นๆ มากขึ้น
แน่นอนว่าการที่เมื่อคืนวันศุกร์ตลาดสหรัฐลงหนัก น่าจะส่งผลลบแน่นอนต่อช่วงต้นสัปดาห์ของบ้านเรา ไม่เพียงเท่านั้นหากดูจากหลายปัจจัยก็มีโอกาสที่ตลาดสหรัฐอาจจะเสีย momentum เชิงบวกได้ในระยะสั้น
ยกตัวอย่างเช่น ภาพ chart ที่ผมวาดคือ Dow Jones TF 30 MINS มีการทำรูปแบบ double top ซึ่งแปลว่าโอกาสลงต่อยังมี บวกกับข่าวอื่นๆ ที่ทำลาย sentiment นักลงทุน เช่น บริษัทของ Warren Buffet เทขายหุ้น APPL ออกมา เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากสหรัฐยังปรับฐานต่อเนื่องในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ของตลาดหุ้นไทยว่าที่พลิกกลับมาแข็งแกร่งนั้น กลับมาจริงหรือจ้อจี้ ซึ่งตัวเลขที่ไม่ควรหลุด 1290-1300 หรืออย่างแย่คือยังไงก็ห้ามมี new low ในกรณีนี้ผมยังคงยืนยันว่าก็อาจจะเป็นโอกาสมากกว่าวิกฤต
ส่วนอีกความเสี่ยงนอกจากฝั่งเมืองนอกก็คือ การเมืองบ้านเราที่ใกล้จะรู้คำตอบในเดือนสิงหานี้ เพราะฉะนั้นความเชื่อมั่นของ SET จะกลับมาหรือไม่ สิงหานี้จะเห็นภาพแน่นอน
Cr.
https://www.thansettakij.com/blogs/finance/stockmarket/603392
เมื่อหุ้นไทยพลิกกลับมาแข็งแกร่ง แต่โดนฉุดโดยต่างประเทศ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือการที่ตลาดหุ้นไทยพลิกกลับมาแข็งแกร่งกว่าตลาดประเทศอื่นๆ แม้ว่าสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกโดยเฉพาะตลาดสหรัฐปรับฐานแรง แต่ตลาดหุ้นไทยยังคงไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งต่างจากช่วงที่ผ่านมาที่ถ้าเมืองนอกลง 1 บ้านเราต้องได้รับผลกระทบคูณ 3 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ SET ลงไปทดสอบ low เก่าบริเวณ 1280 แล้วเอาอยู่สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ยังขึ้นแรงต่อมาแนวต้าน 1330
นอกจากนั้นสิ่งที่สังเกตได้คือไม่เกิดการขึ้นกระจุก หมายความว่าดัชนีที่ขึ้นไม่ได้เกิดมาจากตัวทำดัชนี เช่น DELTA เพียงแค่ตัวเดียวแล้วตัวอื่นลงหมดเหมือนในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว แต่เราเห็นหุ้นขึ้นแบบกระจาย เช่น การบิน ปิโต แบงค์ ที่ค่อยๆ สลับกันขึ้นมา
สิ่งที่เห็นชัดเจนมากๆ สัปดาห์ที่ผ่านมาคือประเด็นดอกเบี้ยที่คนกลัวมาเป็นหลักปีว่า ถ้า FED ไม่ยอมลดจะไม่ดีต่อตลาดหุ้น คำถามคือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว FED มีท่าทีในการลดแบบ surprise ทำไมตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงถึงลง และกลายเป็นไปกลัว recession แทน? แปลว่าเรากำลังใช้ FED กับดอกเบี้ยมาเป็นข้ออ้างหรือไม่? เพราะฉะนั้นนี่อาจเป็นสิ่งสะท้อนว่าเราควรให้น้ำหนักเรื่องนี้น้อยลงและไปคิดถึงปัจจัยอื่นๆ มากขึ้น
แน่นอนว่าการที่เมื่อคืนวันศุกร์ตลาดสหรัฐลงหนัก น่าจะส่งผลลบแน่นอนต่อช่วงต้นสัปดาห์ของบ้านเรา ไม่เพียงเท่านั้นหากดูจากหลายปัจจัยก็มีโอกาสที่ตลาดสหรัฐอาจจะเสีย momentum เชิงบวกได้ในระยะสั้น
ยกตัวอย่างเช่น ภาพ chart ที่ผมวาดคือ Dow Jones TF 30 MINS มีการทำรูปแบบ double top ซึ่งแปลว่าโอกาสลงต่อยังมี บวกกับข่าวอื่นๆ ที่ทำลาย sentiment นักลงทุน เช่น บริษัทของ Warren Buffet เทขายหุ้น APPL ออกมา เป็นต้น
อย่างไรก็ตามหากสหรัฐยังปรับฐานต่อเนื่องในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ของตลาดหุ้นไทยว่าที่พลิกกลับมาแข็งแกร่งนั้น กลับมาจริงหรือจ้อจี้ ซึ่งตัวเลขที่ไม่ควรหลุด 1290-1300 หรืออย่างแย่คือยังไงก็ห้ามมี new low ในกรณีนี้ผมยังคงยืนยันว่าก็อาจจะเป็นโอกาสมากกว่าวิกฤต
ส่วนอีกความเสี่ยงนอกจากฝั่งเมืองนอกก็คือ การเมืองบ้านเราที่ใกล้จะรู้คำตอบในเดือนสิงหานี้ เพราะฉะนั้นความเชื่อมั่นของ SET จะกลับมาหรือไม่ สิงหานี้จะเห็นภาพแน่นอน
Cr. https://www.thansettakij.com/blogs/finance/stockmarket/603392