

:: "ไว้เจอกันนะ" เพลงของ BNK48 รุ่น 1 คนสุดท้าย ที่ซัทจังมีโอกาสได้เลือกเซ็มบัตสึด้วยตัวเอง ::
จากไลฟ์ของ "ซัทจัง" ได้พูดถึงเรื่องราวเบื้องหลังเพลง Mata Aeru Hi Made – ไว้เจอกันนะ ได้อย่างน่าสนใจ
และครอบคลุมทุกประเด็นที่แฟนคลับหลายคนอยากรู้ ว่าแต่ละอย่างมีที่มาที่ไปยังไง ไล่ไปตั้งแต่การเลือกเพลง
การแปลเนื้อเพลง การเลือกเซ็มบัตสึ รวมไปถึงชุดเซ็ม และการจัดบล็อกกิ้งที่เกิดขึ้นในงาน Neko Wars
โพสต์นี้จะมารวบรวมทุกประเด็นที่ “ซัทจัง” พูดถึงเพื่อน ๆ เมมเบอร์แต่ละคนไว้ในไลฟ์ ว่าเซ็มบัตสึที่ติดเพลงรอง ประจำซิง 17 ในครั้งนี้
มีที่มาที่ไปยังไง ถึงถูกเลือกให้ติดในเพลงแกรด ของรุ่น 1 คนสุดท้ายเพลงนี้
(1/8) :: ที่มาของเพลง และการแปลเนื้อเพลง ::
ซัทจังเล่าว่า จริง ๆ เพลงแกรดของตัวเอง น้องคิดเอาไว้หลายเพลง มีลิสต์เป็นของตัวเองด้วยว่าอยากใช้เพลงอะไร จนกระทั่งวันนึง "พี่เฌอ" ส่งเพลงนี้มาให้ แล้วบอกว่า ใช้เป็นเพลงนี้นะ ก็ตอบตกลงเลย เพราะว่าตัวเองก็ชอบมากเหมือนกัน
หลังจากรู้แล้วว่าได้เพลงนี้ ก็เริ่มต้นทำการบ้านด้วยการ ฟังเพลงภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับ หาความหมายของเพลง จนเพลงนี้มีเนื้อภาษาไทยออกมา แล้วคุณครูส่งมาให้เช็คก่อน น้องบอกว่าตรงกระบวนการทำงานนี้ ตัวเองแก้ไปเยอะมาก เรียกว่ามีส่วนร่วมแบบ 80% ของเพลงเลยก็ว่าได้
สำหรับคนแปลเพลง รอบแรกจะเป็น "ครูแมน" พอครูแปลให้แล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของ ซัทจัง ที่ต้องมาแปลให้เป็นภาษาของตัวเองอีกที อันไหนที่ไม่ตรงความหมาย ก็จะเอามาตีความใหม่ให้ตรง ระหว่างรอให้ทางญีปุ่นอนุมัติ น้องบอกว่า ถึงจะยังมีบางอย่างที่อยากแก้ แต่ก็ถือว่าเนื้อเพลงเวอร์ชันนี้ "โอเคทีสุดแล้ว" เพราะถ้าเอาเนื้อเก่าที่ตัวเองแปลแบบ 100% อาจจะมีบางจุดที่ฟังแล้วแปลก ๆ จริง ๆ เพลงนี้อัดเสียงก่อนที่จะได้รับอนุมัติด้วย เพราะกลัวว่าเวลาจะไม่ทัน แต่พออัดไปแล้ว ทางนั้นก็อนุมัติมาพอดี ว่าไม่ต้องเปลี่ยนอะไร ก็เลยโชคดีที่ไม่ต้องอัดเสียงใหม่
(2/8) :: จุดเริ่มต้นการเลือกเซ็มบัตสึ ::
ประเด็นนี้ น้องเล่าว่า เป็นส่วนที่เลือกยากมาก และลำบากใจมาก เพราะพี่เฌอบอกให้ซัทจังเป็นคนเลือก น้องบอกว่าคิดดูว่าเลือกยากขนาดไหน ยากขนาดที่ส่งรายชื่อไปวัน Deadline ที่พี่เฌอให้ไว้ด้วยซ้ำ เพราะว่าเครียดมาก จริง ๆ จำนวนเซ็มบัตสึ ซัทจัง มีสิทธิ์เลือกไม่เกิน 12 คน แต่น้องบอกว่า ที่กลายเป็น 11 คน เพราะส่วนตัวรู้สึกว่า อยากให้เป็นเลขคี่มากกว่า จริง ๆ ตอนแรก รายชื่อที่ส่งไปมีแค่ 10 คน ด้วยซ้ำ แต่มาบวกเพิ่มอีก 1 คน เป็น 11 คน ในภายหลัง
(3/8) :: ทำไมถึงเลือก "แนล" ::
คำถามนี้ น้องเริ่มต้นเล่าไปถึงจุดเริ่มต้นว่า 2 รายชื่อแรก ที่อยู่ในเซ็มบัตสึเพลงนี้ คือ ซัทจัง กับ แนล จริง ๆ ตอนนั้นที่เลือก แนล ซัทจังบอกว่า หนูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รุ่น 5 จะได้เดบิวต์หรือยัง ไม่รู้ว่ารุ่น 5 มีเพลงเดบิวต์อีกอย่าง แนล เป็นเป็นพี่โตของ รุ่น 5 คอนเซปต์ของเพลงนี้ คือ การเอาพี่โตของแต่ละรุ่นมา รุ่น 4 คือ "พี่เนเน่" รุ่น 3 คือ "พี่ป๊อปเป้อ"
น้องเสริมว่า ตอนที่เลือกแนลมา ก็คิดไว้เหมือนกันว่า จะเอารุ่น 5 มาเพิ่มดีมั้ย แต่คิดยังไม่ตก ก็เลยไปถามแนลว่า อยากมีเพื่อนมาด้วยมั้ย แนล บอกว่า แล้วแต่เจ้เลย หนูได้หมด สุดท้ายก็เลยสรุปที่ ซัทจัง เลือกให้แนลเป็นตัวแทนของ รุ่น 5 มาส่งตัวเองแทนน้อง ๆ คนอื่นที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน
(4/8) :: รุ่น 4 ทำไมถึงเลือก "เนเน่" "ปาล์มมี่" และ "เอ็มมี่" ::
สำหรับ รุ่น 4 ซัทจัง บอกว่า นี่คือกลุ่มที่น้องเคาะครบเป็นกลุ่มแรกเลย โดย 3 คน ที่มีรายชื่อ คือ "เนเน่" "ปาล์มมี่" และ "เอ็มมี่" ส่วนวิธีการเลือก จริง ๆ ยากมาก ไม่ง่ายเลย แต่อาศัยเลือกจากคนที่ตัวเองรู้สึกว่า ถ้าไม่เลือกจะเสียใจ
1.NeneBNK48
น้องบอกว่า พี่เนเน่ คือ เมมเบอร์ รุ่น 4 คนแรกที่คุยด้วยแล้วรู้สึกถูกคอ ถึงจะไม่ได้คุยกันเยอะ แต่ทุกครั้งที่คุยจะได้ Deep Talk กันเบา ๆ บวกกับ เนเน่ เป็นเพื่อนกับรุ่นพี่ของตัวเองอีกที เลยคุยภาษาเดียวกันง่าย และแน่นอนว่าอีกหนึ่งเหตุผล คือ เนเน่ เป็นพี่คนโตของ รุ่น 4
2.PalmmyBNK48
สำหรับน้องคนนี้ ซัทจัง เล่าว่า ได้มาสนิทกันตอนงานมัตสึริ และสนิทเพิ่มขึ้นตองเพลง Kurumi to Dialogue เพราะจริง ๆ แล้วเราอายุเท่ากัน
3.EmmyBNK48
สำหรับ ซัทจัง เอ็มมี่เป็นน้องที่น่ารักกับตัวเองมาเสมอ น้องบอกว่าตัวเองเห็นในความสามารถของน้องมานานมากแล้ว เลยตัดสินใจเลือกเอ็มมี่ให้ติดเพลงนี้ มาตั้งแต่ก่อนที่จะมีโปรเจค 365วันกับเครื่องบินกระกาษ (2024 Ver.) หรือก็คือ ก่อนที่น้องจะไปแข่งญี่ปุ่น พอได้เพลงนี้มา เลยปักไว้เลยว่าเพลงของฉันต้องมี "เอ็มมี่“
(5/8) :: รุ่น 3 ทำไมถึงต้องเป็น 6 คนนี้? ::
1.PopperBNK48
สำหรับพี่ป๊อป ซัทจัง เลือกมาเป็นคนแรก เพราะถือว่าเป็นพี่คนโดประจำ รุ่น 3 ตอนที่ชวนพี่ป๊อปจริง ๆ ก็เกรงใจเหมือนกัน เพราะพี่เขามีงานเยอะมากมีวง QRRA ด้วย แต่พี่เขาก็โอเค
2.YayeeBNK48
ถ้าทุกคนบอกว่า ซัทจัง คือ ตัวซัพของวง พี่ยาหยี คือ ตัวซัพของ ซัทจัง อีกที ไม่ว่าจะงาน Road Show ไหนก็ตาม ถ้าซัทจังติดงานแล้วทักไปขอให้พี่ยาหยีไปแทน พี่เขาไม่เคยปฏิเสธเลย แต่เราก็จะได้วนไปเจอกันที่งาน Road Show บ่อย ๆ เพราะพี่ยาหยี ถูกขอให้มาแทนอีกคนเหมือนกัน ชอบลายเต้นของพี่ยาหยีมาก รู้สึกประทับใจในตัวเขาหลาย ๆ เรื่อง พี่หยีเก่งมาก ชื่นชมเขามาตลอดเลย
3.YoghurtBNK48
สำหรับ โยเกิร์ต ถือว่าเป็นอีกคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ น้องเป็นคนที่เคยคุยแบบ Deep Talk ครั้งนึง แล้วรู้สึกว่าเราเหมือนกันเยอะมาก เคยบอกน้องว่า ถ้าไม่ชอบอะไรให้บอก โยเกิร์ต เป็นคนที่คอยฟีดแบคตัวเราเองให้ฟังเสมอ อย่างตอนซ้อมเวลาที่เผลอขมวดคิ้ว น้องจะสะกิดหนูบอกว่า "พี่ซัทจังขมวดคิ้ว" น้องจะคอยเตือนเรา คงเพราะด้วยความที่เราป็นคนพูดตรง โยเองก็พูดตรง เราเลยอยู่ด้วยกันได้
4.PancakeBNK48
สำหรับ แพนเค้ก ถือว่าเป็นน้อง รุ่น 3 คนแรก ๆ ที่ซัทจัง ได้มีโอกาสดูแลตอนเข้ามาในวง น้องรู้สึกว่าคนนี้ต้องมีอยู่ในเพลง รู้สึกว่าถ้าไมมี ตัวของซัทจังเองจะเสียใจ และอีกอย่างก็กลัวน้องจะเสียใจถ้าไม่มีชื่อน้องในเพลงนี้ จริง ๆ ตอนประกาศรายชื่อ ซัทจัง บอกว่า ตัวเองเดินไปถามหลายคนมาก ว่าโอเคใช่มั้ย ตอนประกาศชื่อแล้ว น้องหลายคนก็บอกว่าไม่เป็นไร
5.MeanBNK48
ส่วนน้องมีน ซัทจังบอกว่า หนูขอสารภาพเลยว่า หนูชอบน้องมีนมาก น้องมีนน่ารักมาก ๆ หนูเอ็นดูน้องมาก ในเพลง Kurumi to Dialogue จะมีอยู่ 2 มีน หนูจะเรียกมีน กับ น้องมีน ยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นมัมหมีน้องมีน ตอนที่ชวนน้องมา หนูถามน้องว่า เห็นภารกิจแล้ว น้องมีงานเยอะเลย มาได้ใช่มั้ย น้องมีนบอกว่า ได้เลย
6.EarthBNK48
สำหรับ "เอิร์ธ" ที่มาที่ไป คือ มีปีนึงที่ได้ไปเอาท์ติ้งกัน เขาให้จับคู่คุยกับคนที่เราไม่ค่อยสนิท หนูได้คุยกับเอิร์ธ แล้วรู้สึกว่าชีวิตของเขาผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันกับเรา เอิร์ธเป็นอีกคนที่เราเห็นถึงศักยภาพด้านการร้องมาตลอด ตอนที่อยู่ eRAA รู้สึกเลยว่า นี่แหละถูกต้อง เอิร์ธ ต้องได้โชว์พลังเสียง นี่คือเมนโวคอลในดวงใจประจำรุ่น 3 ของซัทจัง และเอิร์ธ นี่แหละ คือ เมมเบอร์คนที่ 11 ที่ถูกเลือกเข้ามารวมกับ 10 คน ก่อนหน้าที่ถูกส่งชื่อไปแล้ว จริง ๆ ตัวเลข 10 คน มันก็สมบูรณ์แล้ว แต่รู้สึกยังไม่คอมพลีท เลยทักไปขอพี่เฌอเพิ่มอีก 1 คน พี่เฌอบอกว่าไม่ติดอะไร และทางผู้ใหญ่เองก็ไม่ตัดใครออกไปเลย
(6/8) :: การออกแบบชุดเซ็มบัตสึ ::
สำหรับชุดเซ็มบัตสึ หลังจากเลือกคน เลือกเพลงแล้ว พี่เฌอก็มาบอกว่า ใครเป็นสไตล์ลิสต์ให้ เลยได้ไปคุยคอนเซปต์ พี่เฌอบอกว่า ชุดจะเป็นสีขาว ซึ่งก็ตรงกับที่ซัทจังต้องการพอดี น้องเล่าว่า สำหรับสไตล์ของชุด หนูรีเควสไปว่า ขอแบบหน้าสั้น หลังยาว เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก จริง ๆ ตอนแรกชุดที่ใส่จะไม่มีเครื่องประดับ แต่พอใส่แล้ว รู้สึกว่ามันโล่งไป เลยขอพี่เขาให้เพิ่มเครื่องประดับให้หน่อย
ปล.ชุดนี้น้องบอกว่าเห็นครั้งแรกวันที่ 27 กรกฎาคม
(7/8) :: ความแตกต่างระหว่างเพลงที่โชว์ในงานกับเพลงที่จะปล่อยบน Streaming ::
ประเด็นนี้ ซัทจังบอกว่า การแสดงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ทุกคนเห็น กับเพลงที่จะปล่อยในสตรีมมิ่งจะไม่เหมือนกัน ทั้งเพลง Mata Aeru Hi Made และ เพลง 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ (2024 Ver.)ยกตัวอย่าง "ฮุคสอง" ที่มีการร้องประสานเสียง ท่อนนี้ถ้าในสตรีมจะไม่มีช่วงที่เป็น "แคนอน" เข้ามา จะเป็นการร้องไปเลย แต่ที่มีในวันแสดงเพราะอยากให้เป็นการโชว์แบบ Special จริง ๆ ตอนแรกที่ออกแบบไว้ ซัทจัง เล่าว่า จะเป็นตัวเองร้องเพลง แล้วให้เมมเบอร์ทุกคนร้องแคนอน แต่เอิร์ธ เสนอว่า ให้ทุกคนร้องก่อน แล้วซัทจังค่อยร้องเป็นแคนอนของเพลง
ผลคือการแสดงมันออกมาดีมาก เลยรู้สึกว่า คิดถูกมากจริง ๆ ที่เพลงนี้มี เอิร์ธ พอวันซ้อมทุกอย่างออกมาดี ก็เลยดีใจ
(8/8) :: การวางบล็อกกิ้ง ::
ในส่วนสุดท้ายนี้ ซัทจัง เล่าว่า ตอนที่ทีมครูเต้นออกแบบมาให้ คุณครูจะคิดมาใหม่ให้หมดเลย ว่าบล็อกกิ้งจะเป็นยังไง ครูจะใส่หมายเลขแทนตัวเมมเบอร์ 1 – 11 ให้เราดูก่อน ว่าโอเคมั้ย แต่พอซัทจังถามครูว่า แล้วใครคือหมายเลข 2 – 11 ครูบอกน้องว่า ตำแหน่งพวกนี้ให้ ซัทจัง เป็นคนเลือกเองเลย ว่าใครจะอยู่บล็อกกิ้งไหน
น้องบอกว่า อันนี้ก็เครียดมากอีกรอบ ตอนแรกใช้วิธีสุ่มวงล้อ แต่มันก็ออกมาแปลก ๆ คิดไม่ตกว่าจะวางใครไว้ตรงไหนดี แต่สุดท้ายก็จัดออกมาได้ โดยเริ่มต้นจากวางตำแหน่งคนที่จะอยู่ข้างตัวเองในตอนเริ่ม กับ ตอนจบไว้ก่อน แล้วค่อยไล่ไปเรื่อย ๆ วิธีการ คือ นั่งดูชื่อเมม กับ บล็อกกิ้งเทียบกันไป ความยาก คือ ก่อนซ้อมบล็อกกิ้งเราแทบไม่มีโอกาสได้เจอแบบครบทั้ง 10 คนเลย จะให้เขาเลือกกันเองแต่ก็ไม่ได้ เพราะเจอกันยากมาก
มีส่วนนึงที่ปรับใหม่ คือ ตอนที่ให้เมมเบอร์เดินสวนกัน ตอนแรกบล็อกกิ้งออกแบบให้เดินตัดข้างหลังหลัง แต่ ซัทจัง เป็นคนออกแบบให้น้อง ๆ เดินตัดหน้าตัวเองแทน ภาพที่ออกมา เลยม่ีจังหวะการมองหน้ากัน ก่อนจะไปร้องเพลงท่อนต่อไป
:: บทส่งท้าย ::
สุดท้ายนี้ ตลอดเวลา 8 ปี ที่อยู่กับวง น้องบอกว่า ที่นี่เป็นเหมือนกับเซฟโซนที่ปลอดภัย ได้เข้าร่วมงานแน่นอน มีงานการันตีให้ ทุกคนรู้จักเราว่าเรามีความสามารถยังไง เราเริ่มต้นมาจากไหน การตัดสินใจประกาศจบการศึกษาถึงใจนึงจะกลัว แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องก้าวต่อไป ก้าวไปสู่โลกแห่งความจริง ที่บอกว่าเราต้องพยายามมากขึ้น พิสูจน์ตัวเองกับคนภายนอก ทำตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ว่าอยากทำ
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้ทำตัวให้ทุกคนรู้เลยว่าจะแกรด เพราะอยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีความสุขไว้ให้มากที่สุด ยังไงก็ยังมีเวลาอยู่กับทุกคนไปจนถึงเดือนธันวาคม ยังไม่ได้ไปตอนนี้ มีอีกหลายอย่างที่ยังบอกไม่ได้ และอีกหลายอย่างที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรบ้าง ฝากทุกคนติดตามกันต่อไปครับ

=============================
Cr. บทความจากเพจ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02mPUynt5U3WhQMzyZKhmDwSQvDgjkdEUBhq8SzNYx5XgUhuap6PexjhKKVnXF8tkZl&id=100046815978153
:: "ไว้เจอกันนะ" เพลงของ BNK48 รุ่น 1 คนสุดท้าย ที่ซัทจังมีโอกาสได้เลือกเซ็มบัตสึด้วยตัวเอง ::
:: "ไว้เจอกันนะ" เพลงของ BNK48 รุ่น 1 คนสุดท้าย ที่ซัทจังมีโอกาสได้เลือกเซ็มบัตสึด้วยตัวเอง ::
จากไลฟ์ของ "ซัทจัง" ได้พูดถึงเรื่องราวเบื้องหลังเพลง Mata Aeru Hi Made – ไว้เจอกันนะ ได้อย่างน่าสนใจ
และครอบคลุมทุกประเด็นที่แฟนคลับหลายคนอยากรู้ ว่าแต่ละอย่างมีที่มาที่ไปยังไง ไล่ไปตั้งแต่การเลือกเพลง
การแปลเนื้อเพลง การเลือกเซ็มบัตสึ รวมไปถึงชุดเซ็ม และการจัดบล็อกกิ้งที่เกิดขึ้นในงาน Neko Wars
โพสต์นี้จะมารวบรวมทุกประเด็นที่ “ซัทจัง” พูดถึงเพื่อน ๆ เมมเบอร์แต่ละคนไว้ในไลฟ์ ว่าเซ็มบัตสึที่ติดเพลงรอง ประจำซิง 17 ในครั้งนี้
มีที่มาที่ไปยังไง ถึงถูกเลือกให้ติดในเพลงแกรด ของรุ่น 1 คนสุดท้ายเพลงนี้
(1/8) :: ที่มาของเพลง และการแปลเนื้อเพลง ::
ซัทจังเล่าว่า จริง ๆ เพลงแกรดของตัวเอง น้องคิดเอาไว้หลายเพลง มีลิสต์เป็นของตัวเองด้วยว่าอยากใช้เพลงอะไร จนกระทั่งวันนึง "พี่เฌอ" ส่งเพลงนี้มาให้ แล้วบอกว่า ใช้เป็นเพลงนี้นะ ก็ตอบตกลงเลย เพราะว่าตัวเองก็ชอบมากเหมือนกัน
หลังจากรู้แล้วว่าได้เพลงนี้ ก็เริ่มต้นทำการบ้านด้วยการ ฟังเพลงภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับ หาความหมายของเพลง จนเพลงนี้มีเนื้อภาษาไทยออกมา แล้วคุณครูส่งมาให้เช็คก่อน น้องบอกว่าตรงกระบวนการทำงานนี้ ตัวเองแก้ไปเยอะมาก เรียกว่ามีส่วนร่วมแบบ 80% ของเพลงเลยก็ว่าได้
สำหรับคนแปลเพลง รอบแรกจะเป็น "ครูแมน" พอครูแปลให้แล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของ ซัทจัง ที่ต้องมาแปลให้เป็นภาษาของตัวเองอีกที อันไหนที่ไม่ตรงความหมาย ก็จะเอามาตีความใหม่ให้ตรง ระหว่างรอให้ทางญีปุ่นอนุมัติ น้องบอกว่า ถึงจะยังมีบางอย่างที่อยากแก้ แต่ก็ถือว่าเนื้อเพลงเวอร์ชันนี้ "โอเคทีสุดแล้ว" เพราะถ้าเอาเนื้อเก่าที่ตัวเองแปลแบบ 100% อาจจะมีบางจุดที่ฟังแล้วแปลก ๆ จริง ๆ เพลงนี้อัดเสียงก่อนที่จะได้รับอนุมัติด้วย เพราะกลัวว่าเวลาจะไม่ทัน แต่พออัดไปแล้ว ทางนั้นก็อนุมัติมาพอดี ว่าไม่ต้องเปลี่ยนอะไร ก็เลยโชคดีที่ไม่ต้องอัดเสียงใหม่
(2/8) :: จุดเริ่มต้นการเลือกเซ็มบัตสึ ::
ประเด็นนี้ น้องเล่าว่า เป็นส่วนที่เลือกยากมาก และลำบากใจมาก เพราะพี่เฌอบอกให้ซัทจังเป็นคนเลือก น้องบอกว่าคิดดูว่าเลือกยากขนาดไหน ยากขนาดที่ส่งรายชื่อไปวัน Deadline ที่พี่เฌอให้ไว้ด้วยซ้ำ เพราะว่าเครียดมาก จริง ๆ จำนวนเซ็มบัตสึ ซัทจัง มีสิทธิ์เลือกไม่เกิน 12 คน แต่น้องบอกว่า ที่กลายเป็น 11 คน เพราะส่วนตัวรู้สึกว่า อยากให้เป็นเลขคี่มากกว่า จริง ๆ ตอนแรก รายชื่อที่ส่งไปมีแค่ 10 คน ด้วยซ้ำ แต่มาบวกเพิ่มอีก 1 คน เป็น 11 คน ในภายหลัง
(3/8) :: ทำไมถึงเลือก "แนล" ::
คำถามนี้ น้องเริ่มต้นเล่าไปถึงจุดเริ่มต้นว่า 2 รายชื่อแรก ที่อยู่ในเซ็มบัตสึเพลงนี้ คือ ซัทจัง กับ แนล จริง ๆ ตอนนั้นที่เลือก แนล ซัทจังบอกว่า หนูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รุ่น 5 จะได้เดบิวต์หรือยัง ไม่รู้ว่ารุ่น 5 มีเพลงเดบิวต์อีกอย่าง แนล เป็นเป็นพี่โตของ รุ่น 5 คอนเซปต์ของเพลงนี้ คือ การเอาพี่โตของแต่ละรุ่นมา รุ่น 4 คือ "พี่เนเน่" รุ่น 3 คือ "พี่ป๊อปเป้อ"
น้องเสริมว่า ตอนที่เลือกแนลมา ก็คิดไว้เหมือนกันว่า จะเอารุ่น 5 มาเพิ่มดีมั้ย แต่คิดยังไม่ตก ก็เลยไปถามแนลว่า อยากมีเพื่อนมาด้วยมั้ย แนล บอกว่า แล้วแต่เจ้เลย หนูได้หมด สุดท้ายก็เลยสรุปที่ ซัทจัง เลือกให้แนลเป็นตัวแทนของ รุ่น 5 มาส่งตัวเองแทนน้อง ๆ คนอื่นที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน
(4/8) :: รุ่น 4 ทำไมถึงเลือก "เนเน่" "ปาล์มมี่" และ "เอ็มมี่" ::
สำหรับ รุ่น 4 ซัทจัง บอกว่า นี่คือกลุ่มที่น้องเคาะครบเป็นกลุ่มแรกเลย โดย 3 คน ที่มีรายชื่อ คือ "เนเน่" "ปาล์มมี่" และ "เอ็มมี่" ส่วนวิธีการเลือก จริง ๆ ยากมาก ไม่ง่ายเลย แต่อาศัยเลือกจากคนที่ตัวเองรู้สึกว่า ถ้าไม่เลือกจะเสียใจ
1.NeneBNK48
น้องบอกว่า พี่เนเน่ คือ เมมเบอร์ รุ่น 4 คนแรกที่คุยด้วยแล้วรู้สึกถูกคอ ถึงจะไม่ได้คุยกันเยอะ แต่ทุกครั้งที่คุยจะได้ Deep Talk กันเบา ๆ บวกกับ เนเน่ เป็นเพื่อนกับรุ่นพี่ของตัวเองอีกที เลยคุยภาษาเดียวกันง่าย และแน่นอนว่าอีกหนึ่งเหตุผล คือ เนเน่ เป็นพี่คนโตของ รุ่น 4
2.PalmmyBNK48
สำหรับน้องคนนี้ ซัทจัง เล่าว่า ได้มาสนิทกันตอนงานมัตสึริ และสนิทเพิ่มขึ้นตองเพลง Kurumi to Dialogue เพราะจริง ๆ แล้วเราอายุเท่ากัน
3.EmmyBNK48
สำหรับ ซัทจัง เอ็มมี่เป็นน้องที่น่ารักกับตัวเองมาเสมอ น้องบอกว่าตัวเองเห็นในความสามารถของน้องมานานมากแล้ว เลยตัดสินใจเลือกเอ็มมี่ให้ติดเพลงนี้ มาตั้งแต่ก่อนที่จะมีโปรเจค 365วันกับเครื่องบินกระกาษ (2024 Ver.) หรือก็คือ ก่อนที่น้องจะไปแข่งญี่ปุ่น พอได้เพลงนี้มา เลยปักไว้เลยว่าเพลงของฉันต้องมี "เอ็มมี่“
(5/8) :: รุ่น 3 ทำไมถึงต้องเป็น 6 คนนี้? ::
1.PopperBNK48
สำหรับพี่ป๊อป ซัทจัง เลือกมาเป็นคนแรก เพราะถือว่าเป็นพี่คนโดประจำ รุ่น 3 ตอนที่ชวนพี่ป๊อปจริง ๆ ก็เกรงใจเหมือนกัน เพราะพี่เขามีงานเยอะมากมีวง QRRA ด้วย แต่พี่เขาก็โอเค
2.YayeeBNK48
ถ้าทุกคนบอกว่า ซัทจัง คือ ตัวซัพของวง พี่ยาหยี คือ ตัวซัพของ ซัทจัง อีกที ไม่ว่าจะงาน Road Show ไหนก็ตาม ถ้าซัทจังติดงานแล้วทักไปขอให้พี่ยาหยีไปแทน พี่เขาไม่เคยปฏิเสธเลย แต่เราก็จะได้วนไปเจอกันที่งาน Road Show บ่อย ๆ เพราะพี่ยาหยี ถูกขอให้มาแทนอีกคนเหมือนกัน ชอบลายเต้นของพี่ยาหยีมาก รู้สึกประทับใจในตัวเขาหลาย ๆ เรื่อง พี่หยีเก่งมาก ชื่นชมเขามาตลอดเลย
3.YoghurtBNK48
สำหรับ โยเกิร์ต ถือว่าเป็นอีกคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ น้องเป็นคนที่เคยคุยแบบ Deep Talk ครั้งนึง แล้วรู้สึกว่าเราเหมือนกันเยอะมาก เคยบอกน้องว่า ถ้าไม่ชอบอะไรให้บอก โยเกิร์ต เป็นคนที่คอยฟีดแบคตัวเราเองให้ฟังเสมอ อย่างตอนซ้อมเวลาที่เผลอขมวดคิ้ว น้องจะสะกิดหนูบอกว่า "พี่ซัทจังขมวดคิ้ว" น้องจะคอยเตือนเรา คงเพราะด้วยความที่เราป็นคนพูดตรง โยเองก็พูดตรง เราเลยอยู่ด้วยกันได้
4.PancakeBNK48
สำหรับ แพนเค้ก ถือว่าเป็นน้อง รุ่น 3 คนแรก ๆ ที่ซัทจัง ได้มีโอกาสดูแลตอนเข้ามาในวง น้องรู้สึกว่าคนนี้ต้องมีอยู่ในเพลง รู้สึกว่าถ้าไมมี ตัวของซัทจังเองจะเสียใจ และอีกอย่างก็กลัวน้องจะเสียใจถ้าไม่มีชื่อน้องในเพลงนี้ จริง ๆ ตอนประกาศรายชื่อ ซัทจัง บอกว่า ตัวเองเดินไปถามหลายคนมาก ว่าโอเคใช่มั้ย ตอนประกาศชื่อแล้ว น้องหลายคนก็บอกว่าไม่เป็นไร
5.MeanBNK48
ส่วนน้องมีน ซัทจังบอกว่า หนูขอสารภาพเลยว่า หนูชอบน้องมีนมาก น้องมีนน่ารักมาก ๆ หนูเอ็นดูน้องมาก ในเพลง Kurumi to Dialogue จะมีอยู่ 2 มีน หนูจะเรียกมีน กับ น้องมีน ยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นมัมหมีน้องมีน ตอนที่ชวนน้องมา หนูถามน้องว่า เห็นภารกิจแล้ว น้องมีงานเยอะเลย มาได้ใช่มั้ย น้องมีนบอกว่า ได้เลย
6.EarthBNK48
สำหรับ "เอิร์ธ" ที่มาที่ไป คือ มีปีนึงที่ได้ไปเอาท์ติ้งกัน เขาให้จับคู่คุยกับคนที่เราไม่ค่อยสนิท หนูได้คุยกับเอิร์ธ แล้วรู้สึกว่าชีวิตของเขาผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันกับเรา เอิร์ธเป็นอีกคนที่เราเห็นถึงศักยภาพด้านการร้องมาตลอด ตอนที่อยู่ eRAA รู้สึกเลยว่า นี่แหละถูกต้อง เอิร์ธ ต้องได้โชว์พลังเสียง นี่คือเมนโวคอลในดวงใจประจำรุ่น 3 ของซัทจัง และเอิร์ธ นี่แหละ คือ เมมเบอร์คนที่ 11 ที่ถูกเลือกเข้ามารวมกับ 10 คน ก่อนหน้าที่ถูกส่งชื่อไปแล้ว จริง ๆ ตัวเลข 10 คน มันก็สมบูรณ์แล้ว แต่รู้สึกยังไม่คอมพลีท เลยทักไปขอพี่เฌอเพิ่มอีก 1 คน พี่เฌอบอกว่าไม่ติดอะไร และทางผู้ใหญ่เองก็ไม่ตัดใครออกไปเลย
(6/8) :: การออกแบบชุดเซ็มบัตสึ ::
สำหรับชุดเซ็มบัตสึ หลังจากเลือกคน เลือกเพลงแล้ว พี่เฌอก็มาบอกว่า ใครเป็นสไตล์ลิสต์ให้ เลยได้ไปคุยคอนเซปต์ พี่เฌอบอกว่า ชุดจะเป็นสีขาว ซึ่งก็ตรงกับที่ซัทจังต้องการพอดี น้องเล่าว่า สำหรับสไตล์ของชุด หนูรีเควสไปว่า ขอแบบหน้าสั้น หลังยาว เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก จริง ๆ ตอนแรกชุดที่ใส่จะไม่มีเครื่องประดับ แต่พอใส่แล้ว รู้สึกว่ามันโล่งไป เลยขอพี่เขาให้เพิ่มเครื่องประดับให้หน่อย
ปล.ชุดนี้น้องบอกว่าเห็นครั้งแรกวันที่ 27 กรกฎาคม
(7/8) :: ความแตกต่างระหว่างเพลงที่โชว์ในงานกับเพลงที่จะปล่อยบน Streaming ::
ประเด็นนี้ ซัทจังบอกว่า การแสดงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ทุกคนเห็น กับเพลงที่จะปล่อยในสตรีมมิ่งจะไม่เหมือนกัน ทั้งเพลง Mata Aeru Hi Made และ เพลง 365 วันกับเครื่องบินกระดาษ (2024 Ver.)ยกตัวอย่าง "ฮุคสอง" ที่มีการร้องประสานเสียง ท่อนนี้ถ้าในสตรีมจะไม่มีช่วงที่เป็น "แคนอน" เข้ามา จะเป็นการร้องไปเลย แต่ที่มีในวันแสดงเพราะอยากให้เป็นการโชว์แบบ Special จริง ๆ ตอนแรกที่ออกแบบไว้ ซัทจัง เล่าว่า จะเป็นตัวเองร้องเพลง แล้วให้เมมเบอร์ทุกคนร้องแคนอน แต่เอิร์ธ เสนอว่า ให้ทุกคนร้องก่อน แล้วซัทจังค่อยร้องเป็นแคนอนของเพลง
ผลคือการแสดงมันออกมาดีมาก เลยรู้สึกว่า คิดถูกมากจริง ๆ ที่เพลงนี้มี เอิร์ธ พอวันซ้อมทุกอย่างออกมาดี ก็เลยดีใจ
(8/8) :: การวางบล็อกกิ้ง ::
ในส่วนสุดท้ายนี้ ซัทจัง เล่าว่า ตอนที่ทีมครูเต้นออกแบบมาให้ คุณครูจะคิดมาใหม่ให้หมดเลย ว่าบล็อกกิ้งจะเป็นยังไง ครูจะใส่หมายเลขแทนตัวเมมเบอร์ 1 – 11 ให้เราดูก่อน ว่าโอเคมั้ย แต่พอซัทจังถามครูว่า แล้วใครคือหมายเลข 2 – 11 ครูบอกน้องว่า ตำแหน่งพวกนี้ให้ ซัทจัง เป็นคนเลือกเองเลย ว่าใครจะอยู่บล็อกกิ้งไหน
น้องบอกว่า อันนี้ก็เครียดมากอีกรอบ ตอนแรกใช้วิธีสุ่มวงล้อ แต่มันก็ออกมาแปลก ๆ คิดไม่ตกว่าจะวางใครไว้ตรงไหนดี แต่สุดท้ายก็จัดออกมาได้ โดยเริ่มต้นจากวางตำแหน่งคนที่จะอยู่ข้างตัวเองในตอนเริ่ม กับ ตอนจบไว้ก่อน แล้วค่อยไล่ไปเรื่อย ๆ วิธีการ คือ นั่งดูชื่อเมม กับ บล็อกกิ้งเทียบกันไป ความยาก คือ ก่อนซ้อมบล็อกกิ้งเราแทบไม่มีโอกาสได้เจอแบบครบทั้ง 10 คนเลย จะให้เขาเลือกกันเองแต่ก็ไม่ได้ เพราะเจอกันยากมาก
มีส่วนนึงที่ปรับใหม่ คือ ตอนที่ให้เมมเบอร์เดินสวนกัน ตอนแรกบล็อกกิ้งออกแบบให้เดินตัดข้างหลังหลัง แต่ ซัทจัง เป็นคนออกแบบให้น้อง ๆ เดินตัดหน้าตัวเองแทน ภาพที่ออกมา เลยม่ีจังหวะการมองหน้ากัน ก่อนจะไปร้องเพลงท่อนต่อไป
:: บทส่งท้าย ::
สุดท้ายนี้ ตลอดเวลา 8 ปี ที่อยู่กับวง น้องบอกว่า ที่นี่เป็นเหมือนกับเซฟโซนที่ปลอดภัย ได้เข้าร่วมงานแน่นอน มีงานการันตีให้ ทุกคนรู้จักเราว่าเรามีความสามารถยังไง เราเริ่มต้นมาจากไหน การตัดสินใจประกาศจบการศึกษาถึงใจนึงจะกลัว แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองต้องก้าวต่อไป ก้าวไปสู่โลกแห่งความจริง ที่บอกว่าเราต้องพยายามมากขึ้น พิสูจน์ตัวเองกับคนภายนอก ทำตามเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ว่าอยากทำ
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้ทำตัวให้ทุกคนรู้เลยว่าจะแกรด เพราะอยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีความสุขไว้ให้มากที่สุด ยังไงก็ยังมีเวลาอยู่กับทุกคนไปจนถึงเดือนธันวาคม ยังไม่ได้ไปตอนนี้ มีอีกหลายอย่างที่ยังบอกไม่ได้ และอีกหลายอย่างที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรบ้าง ฝากทุกคนติดตามกันต่อไปครับ
=============================
Cr. บทความจากเพจ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02mPUynt5U3WhQMzyZKhmDwSQvDgjkdEUBhq8SzNYx5XgUhuap6PexjhKKVnXF8tkZl&id=100046815978153