แนวมวยที่นักมวยไทยใช้ ในการแข่งขันชกมวยสากลมัครเล่นไม่ว่าจะระดับไหน ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ หรือโอลิมปิค ก็ยังใช้แนวทางเดิมๆ ที่เคยเห็นในตั้งแต่ยุค สมรักษ์ใช้ในกีฬาโอลิมปิค 1996
จะร่วม 30 ปี แล้วแนวมวยก็ยังเป็นแนวเดิมๆ ไม่มีพัฒนาการอะไรเลย ระดับซีเกมส์ อาจจะมีชนะได้มาก เพราะนักกีฬา โซนเดียวกัน คนเก่งๆมีไม่เยอะ ระดับเอเชี่ยนเกมส์ ก็เริ่มชนะน้อยลงเพราะคนละโซน แล้วนักมวยที่เก่งๆก็เริ่มมีมากขึ้น
พอมาโอลิมปิค นี่ไปกันใหญ่ มันเป็นสนามใหญ่ นักกีฬามากจากทั่วโลก คนเก่งเยอะ โอกาสของนักกีฬาไทยก็น้อยลงไปอีก
การชก ก็ยังใช้แนวมวยเดิมๆ ไม่มีการพัฒนา อะไรให้เห็นเลย หมัดแย็บ ทำลายจังหวะไม่มี หมัดหนักที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้ก็ไม่มี วงในออกหมัดก็ทำไม่เป็น บางจังหวะมีแค่ หมัด 1 2 3 แล้วก็หยุด ไม่มีตาม หมัด 4 5 6 คือคู่ต่อสู้โดนชะงักไป นักมวยต้องเข้าไปตาม ปล่อยมัดชุดเยอะๆ ไม่ต้องหนักแค่ปล่อยเข้าจุดเยอะๆ เข้าตากรรมการ คะแนนก็จะมา
แต่นักมวยไทยทำไม่ได้ จะออกหมัดก็ออกช้า โดนคู่ต่อสู้ทำลายจังหวะ เข้าตรงๆ ก็เข้าไปไม่ได้ เอาแต่จะมุดก้มต่ำเข้าไป พอต่อยวงในก็ไม่สามารถหาจังหวะ ต่อยให้เข้าตากรรมการได้ ไม่มีคะแนนอีก เห็นนักมวยไทยสากลที่ต่อยวงในเข้าตากรรมการ อยู่ คนเดียว ก็คือ ผจญ มูลสัน เหรียญทองแดง 1988 ที่เหลือไม่เคยเห็นเลย คลุกวงไหนจะเสียเปรียบตลอด
ล่าสุด จุฑามาศ จิตรพงษ์ ที่แพ้ไป ยังบอกว่า ไม่น่าแพ้ เพราะต่อยได้เยอะกว่า เอาจริงๆ ไม่ต้องมาเอาใจกัน ก็แพ้จริงๆนั่นแหละ ทำได้ดีพอใช้ก็ยก 1 พอยก 2 ยก 3 แพ้เห็นๆ ที่บอกว่าต่อยได้มากกว่า เห็นก็ต่อยลมได้มากกว่า วืดไปวืดมา คู่ต่อสู้เขาฉลาดกว่า คลุกวงในก็ต่อยทำคะแนนได้ ไม่หนักแต่เข้าตากรรมการ
อีกคู่ นักกีฬาชาย ก็ติ๊ดชึ่งไปมา ออกแค่ 1-2 1-2 ไม่มีแย็บไม่มีหมัดสลับบนล่าง เข้าออกช้า ไม่รู้ว่าตกลงจะเป็นมวยสไตล์ไหน จะเป็นบ๊อกเซอร์หรือจะเป็นไฟท์เตอร์ แนวมวยเดิมๆ 20-30 ปี ไม่เคยเปลี่ยนเลย
แล้วไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเลิก ยิ้มแล้วผงกหัว เวลาโดนต่อย แบบแสดงให้คู่ต่อสู้เห็นว่า ไม่โดนๆ หรือ ก็ไม่เท่าไร ไอ้ท่าทางแบบนี้ มันอาจจะใช้ได้ในมวยไทย แต่มวยสากล กรรการให้คะแนนเขาคงไม่สน เขาคงเข้าใจว่าผงกหัว คงแปลว่า โดนหมัดเข้าจังๆ เขาก็ให้คะแนนตามนั้นไป
เปลี่ยนทัศนคติได้แล้ว ไอ้ประเภท ติดชึ่งๆ สมัยสมรักษ์ ทำ ยุคนั้นมันยังโอเคอยู่ แต่ยุคปัจจุบัน นักมวยไทยไม่ได้ว่องไวเหมือนสมรักษ์สมัยนั้น
ดูนักมวยหญิงที่ต่อยเมื่อคืน ออกท่าทางโชว์เหนือกว่า แต่ดูแล้วเซ็ง ออกท่าทางดี แต่ก็ได้แต่ออกท่าทาง แต่ไม่เข้าไปชก ติ๊ดชึ่งอยู่แต่ข้างนอก ไม่เข้าทำ พอแพ้มาก็มาบอกว่า ต่อยเยอะกว่า
กลัวว่าแนวมวยแบบนี้ โอกาสที่เราจะได้เหรียญทองอาจจะไม่มีเลย สำหรับมวยสากล ในกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 24 ที่ปารีสนี้
เมื่อไรจะเปลี่ยนวิธีการชก เมื่อไรจะเปลี่ยนทัศนคติเรื่องการชกมวยสากลสมัครเล่น
จะร่วม 30 ปี แล้วแนวมวยก็ยังเป็นแนวเดิมๆ ไม่มีพัฒนาการอะไรเลย ระดับซีเกมส์ อาจจะมีชนะได้มาก เพราะนักกีฬา โซนเดียวกัน คนเก่งๆมีไม่เยอะ ระดับเอเชี่ยนเกมส์ ก็เริ่มชนะน้อยลงเพราะคนละโซน แล้วนักมวยที่เก่งๆก็เริ่มมีมากขึ้น
พอมาโอลิมปิค นี่ไปกันใหญ่ มันเป็นสนามใหญ่ นักกีฬามากจากทั่วโลก คนเก่งเยอะ โอกาสของนักกีฬาไทยก็น้อยลงไปอีก
การชก ก็ยังใช้แนวมวยเดิมๆ ไม่มีการพัฒนา อะไรให้เห็นเลย หมัดแย็บ ทำลายจังหวะไม่มี หมัดหนักที่จะหยุดคู่ต่อสู้ได้ก็ไม่มี วงในออกหมัดก็ทำไม่เป็น บางจังหวะมีแค่ หมัด 1 2 3 แล้วก็หยุด ไม่มีตาม หมัด 4 5 6 คือคู่ต่อสู้โดนชะงักไป นักมวยต้องเข้าไปตาม ปล่อยมัดชุดเยอะๆ ไม่ต้องหนักแค่ปล่อยเข้าจุดเยอะๆ เข้าตากรรมการ คะแนนก็จะมา
แต่นักมวยไทยทำไม่ได้ จะออกหมัดก็ออกช้า โดนคู่ต่อสู้ทำลายจังหวะ เข้าตรงๆ ก็เข้าไปไม่ได้ เอาแต่จะมุดก้มต่ำเข้าไป พอต่อยวงในก็ไม่สามารถหาจังหวะ ต่อยให้เข้าตากรรมการได้ ไม่มีคะแนนอีก เห็นนักมวยไทยสากลที่ต่อยวงในเข้าตากรรมการ อยู่ คนเดียว ก็คือ ผจญ มูลสัน เหรียญทองแดง 1988 ที่เหลือไม่เคยเห็นเลย คลุกวงไหนจะเสียเปรียบตลอด
ล่าสุด จุฑามาศ จิตรพงษ์ ที่แพ้ไป ยังบอกว่า ไม่น่าแพ้ เพราะต่อยได้เยอะกว่า เอาจริงๆ ไม่ต้องมาเอาใจกัน ก็แพ้จริงๆนั่นแหละ ทำได้ดีพอใช้ก็ยก 1 พอยก 2 ยก 3 แพ้เห็นๆ ที่บอกว่าต่อยได้มากกว่า เห็นก็ต่อยลมได้มากกว่า วืดไปวืดมา คู่ต่อสู้เขาฉลาดกว่า คลุกวงในก็ต่อยทำคะแนนได้ ไม่หนักแต่เข้าตากรรมการ
อีกคู่ นักกีฬาชาย ก็ติ๊ดชึ่งไปมา ออกแค่ 1-2 1-2 ไม่มีแย็บไม่มีหมัดสลับบนล่าง เข้าออกช้า ไม่รู้ว่าตกลงจะเป็นมวยสไตล์ไหน จะเป็นบ๊อกเซอร์หรือจะเป็นไฟท์เตอร์ แนวมวยเดิมๆ 20-30 ปี ไม่เคยเปลี่ยนเลย
แล้วไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเลิก ยิ้มแล้วผงกหัว เวลาโดนต่อย แบบแสดงให้คู่ต่อสู้เห็นว่า ไม่โดนๆ หรือ ก็ไม่เท่าไร ไอ้ท่าทางแบบนี้ มันอาจจะใช้ได้ในมวยไทย แต่มวยสากล กรรการให้คะแนนเขาคงไม่สน เขาคงเข้าใจว่าผงกหัว คงแปลว่า โดนหมัดเข้าจังๆ เขาก็ให้คะแนนตามนั้นไป
เปลี่ยนทัศนคติได้แล้ว ไอ้ประเภท ติดชึ่งๆ สมัยสมรักษ์ ทำ ยุคนั้นมันยังโอเคอยู่ แต่ยุคปัจจุบัน นักมวยไทยไม่ได้ว่องไวเหมือนสมรักษ์สมัยนั้น
ดูนักมวยหญิงที่ต่อยเมื่อคืน ออกท่าทางโชว์เหนือกว่า แต่ดูแล้วเซ็ง ออกท่าทางดี แต่ก็ได้แต่ออกท่าทาง แต่ไม่เข้าไปชก ติ๊ดชึ่งอยู่แต่ข้างนอก ไม่เข้าทำ พอแพ้มาก็มาบอกว่า ต่อยเยอะกว่า
กลัวว่าแนวมวยแบบนี้ โอกาสที่เราจะได้เหรียญทองอาจจะไม่มีเลย สำหรับมวยสากล ในกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 24 ที่ปารีสนี้