ตัวหนูเอง
-ตอนนี้อายุ 25ปี ทำงานบ.เอกชนเงินเดือน 40000 บาท -ทำงานเสริมเสารอาทิตย์ เงิน 16,000-20,000/เดือน
- รวมรายได้ทั้งหมดประมาณ 56,000-60,000/เดือน
ตอนนี้ครอบครัวส่งบ้านไม่ไหว
1.แม่ต้องการจะให้เปลี่ยนชื่อผู้กู้ โดยซื้อต่อจากคุณแม่ และให้หนูไปกู้ธนาคาร เป็นบ้านอายุ 14-15 ปีในหมู่บ้สนจัดสรร บ้านเริ่มทรุด กำแพงมีรอบร้าว เหลืออีก 3 ล้านถึงจะหมด
2.แม่มีที่ดินอยู่1ผืน เอาไปเข้าธนาคาร ได้เงินมา 5 ล้าน
เอาไปให้เพื่อนยืม 4 ล้าน ใช้เอง 1 ล้าน เพื่อนไม่คืน ส่งแต่ดอกมา7ปีแล้ว
3.แม่ให้เงินน้องสาวยืม น้องสาวไม่คืนอีกประมาณ 1 ล้านบ้าน (แม่ต้องรับผิดชอบเอง และรับผิดชอบไม่ไหว)
4.หนูกับแฟนมีแพลนจะแต่งงานปีหน้าและสร้างครอบครัว แพลนจะเก็บเงิน เพื่อสร้างบ้าน ซื้อบ้าน(อยากมีครอบครัว อนาคตของตัวเอง) เสนอให้แม่ไปว่า ขอเวลาอีกหน่อย จะขอซื้อบ้านเองแล้วเอาแม่มาอยู่ด้วย
5. แม่อยากให้หนูกู้เพื่อส่งบ้านต่อ ยังมีน้องอีกสองคน คนกลางทำงาน เงินเดือน30,000 ผ่อนคอนโดอยู่กับน้องคนเล็ก และะคอยซัพพอร์ตน้องคนเล็กที่กำลังเรียนอยู่
6. หนูควรจะทำอย่างไรกับแม่ดีคะ ถ้าเปลี่ยนชื่อแล้ว อีกกรณีแม่อยากให้ช่วยผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 ด้วย เป็นระยะเวลา 5 ปี ตอนนี้แม่ส่งอยู่เดือนละ 23000 อยากเปลี่ยนชื่อเพราะต้องการโปะต้นมากขึ้น เขาบอกว่าจะหมดหนี้บ้านใน 5-6 ปี
แพลนของหนู: หนูเปิดติวเตอร์สอนภาษาค่ะ 1 ที่ รายได้เสริมต่อเดือน 16,000-20,000 อันนี้พี่ชายเป็นคนคุมค่ะ เค้าให้ค่าสอนหนูต่อเดือน หนูมีแพลนจะหารายได้เพิ่ม คือไปเปิดอีก 1 สาขาที่ต่างจังหวัด เพราะคิดว่าผู้คนยังลงทุนกับการศึกษาอยู่ น่าจะไปต่อได้ค่ะ
ตอนนี้หาทางออกไม่เจอค่ะ หนูไม่อยากกู้ให้ใครอีก ไม่อยากช่วยใครแล้ว หาคนปรึกษาไม่ได้ เพราะคนในครอบครัว ล้มเหลวทั้งครอบครัว จึงอยากมาปรึกษาค่ะ ไม่อยากให้ตัวเองต้องไปพัวพันและล้มด้วยอีกคนค่ะ
****สิ่งที่เสียใจสุดๆ****
คือเค้ามองเราเป็นตัวช่วย ตัวซัพ ตั้งใจวางแผนให้เราเรียน ให้เราทำนั่นทำนี่ เพื่อมาใช้หนี้เป็นหลัก เราไม่มีสิทธิ์ได้เลือกเลย เค้าบังคับทุกอย่าง บังคับให้เราเลือกเรียนแพง แล้วไปกู้มาอีก หวังว่าจะได้ทำงานเงินเยอะๆ จะมาช่วยใช้หนี้
กรอกหูเราว่ามาช่วยให้หนี้ๆๆๆตั้งเเต่ม.4-ม.5 เราเอือมมาก ให้พี่น้องยืมกัน พังไม่เป็นท่าทุกคน
ไม่ใช่อ่ะค่ะ แต่พอทางที่เค้าบังคับ ทางที่เค้าเลือกมา มันไม่เวิร์ค กลับเป็นเราที่ต้องรับผิดชอบแทน
เราถามเค้าว่า ถ้าทำแบบนี้ คืออนาคตหนูก็ไม่ต้องซื้อบ้านของตัวเองอยู่แล้วใช่มั้ย หนูอยากเลือก อยากมีของตัวเอง “เค้าตอบกลับมา อืม ก็ต้องอย่างนั้นแหล่ะ”
ต้องการคำปรึกษาทางด้านการเงิน
-ตอนนี้อายุ 25ปี ทำงานบ.เอกชนเงินเดือน 40000 บาท -ทำงานเสริมเสารอาทิตย์ เงิน 16,000-20,000/เดือน
- รวมรายได้ทั้งหมดประมาณ 56,000-60,000/เดือน
ตอนนี้ครอบครัวส่งบ้านไม่ไหว
1.แม่ต้องการจะให้เปลี่ยนชื่อผู้กู้ โดยซื้อต่อจากคุณแม่ และให้หนูไปกู้ธนาคาร เป็นบ้านอายุ 14-15 ปีในหมู่บ้สนจัดสรร บ้านเริ่มทรุด กำแพงมีรอบร้าว เหลืออีก 3 ล้านถึงจะหมด
2.แม่มีที่ดินอยู่1ผืน เอาไปเข้าธนาคาร ได้เงินมา 5 ล้าน
เอาไปให้เพื่อนยืม 4 ล้าน ใช้เอง 1 ล้าน เพื่อนไม่คืน ส่งแต่ดอกมา7ปีแล้ว
3.แม่ให้เงินน้องสาวยืม น้องสาวไม่คืนอีกประมาณ 1 ล้านบ้าน (แม่ต้องรับผิดชอบเอง และรับผิดชอบไม่ไหว)
4.หนูกับแฟนมีแพลนจะแต่งงานปีหน้าและสร้างครอบครัว แพลนจะเก็บเงิน เพื่อสร้างบ้าน ซื้อบ้าน(อยากมีครอบครัว อนาคตของตัวเอง) เสนอให้แม่ไปว่า ขอเวลาอีกหน่อย จะขอซื้อบ้านเองแล้วเอาแม่มาอยู่ด้วย
5. แม่อยากให้หนูกู้เพื่อส่งบ้านต่อ ยังมีน้องอีกสองคน คนกลางทำงาน เงินเดือน30,000 ผ่อนคอนโดอยู่กับน้องคนเล็ก และะคอยซัพพอร์ตน้องคนเล็กที่กำลังเรียนอยู่
6. หนูควรจะทำอย่างไรกับแม่ดีคะ ถ้าเปลี่ยนชื่อแล้ว อีกกรณีแม่อยากให้ช่วยผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 ด้วย เป็นระยะเวลา 5 ปี ตอนนี้แม่ส่งอยู่เดือนละ 23000 อยากเปลี่ยนชื่อเพราะต้องการโปะต้นมากขึ้น เขาบอกว่าจะหมดหนี้บ้านใน 5-6 ปี
แพลนของหนู: หนูเปิดติวเตอร์สอนภาษาค่ะ 1 ที่ รายได้เสริมต่อเดือน 16,000-20,000 อันนี้พี่ชายเป็นคนคุมค่ะ เค้าให้ค่าสอนหนูต่อเดือน หนูมีแพลนจะหารายได้เพิ่ม คือไปเปิดอีก 1 สาขาที่ต่างจังหวัด เพราะคิดว่าผู้คนยังลงทุนกับการศึกษาอยู่ น่าจะไปต่อได้ค่ะ
ตอนนี้หาทางออกไม่เจอค่ะ หนูไม่อยากกู้ให้ใครอีก ไม่อยากช่วยใครแล้ว หาคนปรึกษาไม่ได้ เพราะคนในครอบครัว ล้มเหลวทั้งครอบครัว จึงอยากมาปรึกษาค่ะ ไม่อยากให้ตัวเองต้องไปพัวพันและล้มด้วยอีกคนค่ะ
****สิ่งที่เสียใจสุดๆ****
คือเค้ามองเราเป็นตัวช่วย ตัวซัพ ตั้งใจวางแผนให้เราเรียน ให้เราทำนั่นทำนี่ เพื่อมาใช้หนี้เป็นหลัก เราไม่มีสิทธิ์ได้เลือกเลย เค้าบังคับทุกอย่าง บังคับให้เราเลือกเรียนแพง แล้วไปกู้มาอีก หวังว่าจะได้ทำงานเงินเยอะๆ จะมาช่วยใช้หนี้
กรอกหูเราว่ามาช่วยให้หนี้ๆๆๆตั้งเเต่ม.4-ม.5 เราเอือมมาก ให้พี่น้องยืมกัน พังไม่เป็นท่าทุกคน
ไม่ใช่อ่ะค่ะ แต่พอทางที่เค้าบังคับ ทางที่เค้าเลือกมา มันไม่เวิร์ค กลับเป็นเราที่ต้องรับผิดชอบแทน
เราถามเค้าว่า ถ้าทำแบบนี้ คืออนาคตหนูก็ไม่ต้องซื้อบ้านของตัวเองอยู่แล้วใช่มั้ย หนูอยากเลือก อยากมีของตัวเอง “เค้าตอบกลับมา อืม ก็ต้องอย่างนั้นแหล่ะ”