ราคาน้ำมันขยับลงราวๆ 1.4% แตะระดับต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ในวันอังคาร(30ก.ค.) นักลงทุนกังวลอุปสงค์จีนอ่อนแอ และโอเปกพลัสดูเหมือนจะยึดแผนเพิ่มกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตีทปิดผสมผสาน ตามแรงฉุดหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ ขณะที่ทองคำดีดตัวแรง นักลงทุนมองในแง่ดีบวกว่าเฟดใกล้เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กิจกรรมการผลิตในจีน ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก หดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนกรกฏาคม แม้บรรดาผู้นำจีนประกาศยกระดับสนับสนุนเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนคาดการณ์ว่ามาตรการต่างๆนานาดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างจำกัดเท่านั้น
ในวันพฤหัสบดี(1ส.ค.) บรรดารัฐมนตรีระดับสูงของโอเปกพลัส หรือโอเปกกับพันธมิตร ในนั้นรวมถึงรัสเซีย จะประชุมกันเพื่อทบทวนตลาด ซึ่งรวมถึงแผนเริ่มผ่อนคลายมาตรการลดกำลังผลิตบางส่วนเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆในปัจจุบัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันอังคาร(30ก.ค.) ถูกฉุดจากหุ้นกลุ่มชิปและบริษัทยักษ์ใหญ่ ก่อนหน้าที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งหลายจะเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 203.40 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 40,743.33 เอสแอนด์พี ลดลง 27.10 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,436.44 จุด แนสแดค ลดลง 222.78 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,147.42 จุด
ไมโครซอฟต์ ซึ่งถูกมองจากหลายฝ่ายว่าเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ ขยับลงราวๆ 0.89% เหลือ 422.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น ก่อนหน้ารายงานผลประกอบการ แต่สุดท้ายแล้วหุ้นผู้ผลิตซอฟต์แวร์แห่งนี้ ปรับลดถึง 5% ตอนปิดตลาด หลังรายงานผลประกอบการพลาดเป้าหมายสำหรับการเติบโตรายไตรมสในการบริการด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง "อาซัวร์"
เอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิป ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์รายใหญ่จากความเป็นไปได้ในการเติบโตของไอเอ และเป็นหุ้นที่มีผลงานดีที่สุดอันดับ 2 ในเอสแอนด์พี 500 ในปีนี้ ดิ่งลงถึง 7.04% สู่ระดับ 103.73 ดอลลาร์ต่อหุ้น กลายเป็นตัวฉุดรั้งหุ้นชิปรายอื่นๆ
ขณะเดียวกันหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ อาทิ แอปเปิล แอมะซอนและเมตา แพลตฟอร์มส์ ปิดผสมผสาน ขณะที่ทั้งหมดมีกำหนดเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดย แอปเปิล ขยับขึ้น 0.26%, แอมะซอน ปรับลด 0.81% และ เมตา ปิดลบ 0.54%
ส่วนราคาทองคำขยับขึ้นราวๆ 1% ในวันอังคาร(30ก.ค.) นักลงทุนยังคงมองในแง่บวกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจให้เงื่อนงำเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ณ ที่ประชุมด้านนโยบายในสัปดาห์นี้ โดย
ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 26.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,451.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)
Cr.
https://mgronline.com/around/detail/9670000064952 
น้ำมันลงอีก$1กัวงวลอุปสงค์จีน หุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสาน-ทองขึ้นแรง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กิจกรรมการผลิตในจีน ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก หดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนกรกฏาคม แม้บรรดาผู้นำจีนประกาศยกระดับสนับสนุนเศรษฐกิจ แต่นักลงทุนคาดการณ์ว่ามาตรการต่างๆนานาดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างจำกัดเท่านั้น
ในวันพฤหัสบดี(1ส.ค.) บรรดารัฐมนตรีระดับสูงของโอเปกพลัส หรือโอเปกกับพันธมิตร ในนั้นรวมถึงรัสเซีย จะประชุมกันเพื่อทบทวนตลาด ซึ่งรวมถึงแผนเริ่มผ่อนคลายมาตรการลดกำลังผลิตบางส่วนเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆในปัจจุบัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานในวันอังคาร(30ก.ค.) ถูกฉุดจากหุ้นกลุ่มชิปและบริษัทยักษ์ใหญ่ ก่อนหน้าที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งหลายจะเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 203.40 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 40,743.33 เอสแอนด์พี ลดลง 27.10 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,436.44 จุด แนสแดค ลดลง 222.78 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,147.42 จุด
ไมโครซอฟต์ ซึ่งถูกมองจากหลายฝ่ายว่าเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ ขยับลงราวๆ 0.89% เหลือ 422.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น ก่อนหน้ารายงานผลประกอบการ แต่สุดท้ายแล้วหุ้นผู้ผลิตซอฟต์แวร์แห่งนี้ ปรับลดถึง 5% ตอนปิดตลาด หลังรายงานผลประกอบการพลาดเป้าหมายสำหรับการเติบโตรายไตรมสในการบริการด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง "อาซัวร์"
เอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิป ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ได้ประโยชน์รายใหญ่จากความเป็นไปได้ในการเติบโตของไอเอ และเป็นหุ้นที่มีผลงานดีที่สุดอันดับ 2 ในเอสแอนด์พี 500 ในปีนี้ ดิ่งลงถึง 7.04% สู่ระดับ 103.73 ดอลลาร์ต่อหุ้น กลายเป็นตัวฉุดรั้งหุ้นชิปรายอื่นๆ
ขณะเดียวกันหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ อาทิ แอปเปิล แอมะซอนและเมตา แพลตฟอร์มส์ ปิดผสมผสาน ขณะที่ทั้งหมดมีกำหนดเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดย แอปเปิล ขยับขึ้น 0.26%, แอมะซอน ปรับลด 0.81% และ เมตา ปิดลบ 0.54%
ส่วนราคาทองคำขยับขึ้นราวๆ 1% ในวันอังคาร(30ก.ค.) นักลงทุนยังคงมองในแง่บวกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจให้เงื่อนงำเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ณ ที่ประชุมด้านนโยบายในสัปดาห์นี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 26.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,451.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)
Cr. https://mgronline.com/around/detail/9670000064952