ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม
เราต้องการ นายกรัฐมนตรี ที่มี ภาวะการนำที่เข้มแข็ง ชัดเจน
เพราะประเทศไทยกำลังต่อสู้กับภัยร้าย
จาก
ขบวนการ /โจรก่อการร้าย เพื่อ / แบ่งแยก 3จชต ยะลา ปัตตานี นราธิวาส บางส่วนของ สงขลา ออกเป็นประเทศเอกราช
ที่จะปกครองภายใต้ ระบบสุลต่านและกฎหมายชารีอะห์
ขบวนการ หมายถึง ไม่ได้ทำคนเดียว แต่มี ผังการบริหาร
BRN มี ผู้นำจิตวิญญาณ ที่ปัจจุบัน BRN ยังอำพรางไว้
คาดว่า เพื่อให้สอดคล้องกับ ระบบสุลต่าน ที่ยกขึ้นมาปลุกปั่นกระแส รัฐปาตานี
ผู้นำคนนี้คงจะมี เชื้อสายเจ้าเมืองดั้งเดิม
และไม่น่าจะพำนักในประเทศไทย คงใช้ชีวิต ใต้ชายคาชนชั้นสูง ของเพื่อนบ้าน
สถานะ คือ จะถูกเชิดชูเป็นสัญลักษณ์การประกาศเอกราช
BRN มี ผู้นำทางการเมือง
ปัจจุบัน มีหลายระดับ ทั้ง ท้องถิ่นและระดับชาติ
มีหน้าที่ ขับเคลื่อนสอดประสานนโยบาย การแยกเอกราชรัฐปาตานี แยก 3 จชต ออกจาก ราชอาณาจักรไทย
มีการ คิด พูด ทำ เขียน ปลุกระดม กันมาต่อเนื่อง
เรียกว่า จัดตั้งมวลชน
BRN มี ผู้นำทางการทหาร
ระดับกองร้อย ( แต่อัตรา น่าจะไม่ครบจำนวน ตามนิยาม กองร้อย ทบ ไทย )
แต่ละ กองร้อย RKK มี พื้นที่ปฎิบัติ 1-2 อำเภอ
กระจายเป็นชุดขนาดเล็ก 4-6 คน ตั้งฐานลอย ในป่า บนภูเขาและพื้นที่ ป่าพรุ
จุดเด่น คือ คล่องตัวสูงมาก สามารถ สนธิกำลังจากหลายอำเภอ ที่เรียกว่า รวมดาว ได้มากถึง
40-60 คนเพื่อเข้าตี จากนั้น สลายตัวเป็นทีมย่อยๆ กระจายออกไป
กำลังรบหลัก คือ RKK ใช้ ยุทธวิธี " มีอยู่ทุกที่ แต่ไม่ปรากฎทุกแห่ง "
ใช้ มวลชนจัดตั้งของฝ่ายการเมือง เป็น เครื่องมือ เกาะฐาน สืบความลับ จนท อำพรางและให้ที่หลบซ่อน RKK
สอดประสานกัน
RKK สามารถ ทำการก่อการร้ายทั้งใน เขตเมืองและป่าเขา ทั้งกลางวันและกลางคืน
RKK นั้น ดูเหมือน ปิดลับ ล่องหนหาตัวยาก
จนท แกะรอย ยากลำบากที่สุด
แต่สังเกตว่า
ทุกครั้งที่เกิดการ ปะทะ ไม่ว่า RKK ตาย / จับเป็น
จะมี ญาติพี่น้อง มาเกาะติด มารอรับศพ ไปแห่ปลุกระดม ทันที
ญาติ รู้ได้อย่างไร ว่า
จนท ปะทะ กับ RKK คนใด
ทั้งๆที่ พื้นที่ปะทะ ไม่ใช่ ภูมิลำเนาของ RKK
เพราะ BRN จะ สลับ ภูมิลำเนา กับ พื้นที่ปฎิบัติของ RKK เป็นยุทธวิธีของเขา
RKK มีหน้าที่ บริหารความหวาดกลัว ใช้การก่อการร้าย รักษาและควบคุมมวลชนจัดตั้ง
สังหาร ผู้นำชุมชนและ ผู้นำศาสนา ที่ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายการเมือง
สังหาร พลเรือนมุสลิม ที่ให้การข่าว แก่ จนท
ก่อการร้ายทำลาย โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ขับไล่นักลงทุน เพื่อทำให้ ความยากจนดำรงอยู่
ปัจจุบัน
หลังการเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมือง ด้วยภาวะผู้นำที่อาจจะไม่มากพอ
BRN ที่เคย ซวนเซ ในสมัย พลเอกประยุทธ์
เริ่มกลับมาตั้งหลักได้
ฝ่ายการเมืองของ BRN ขับเคลื่อนเชิงรุก มานานหลายเดือน
มีการจัดกิจกรรม คาบลูกคาบดอก เรื่องประกาศเอกราชรัฐปาตานี
ผ่ายการทหาร RKK ทำการก่อการร้าย รุนแรงมากขึ้น
อย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้
สถานการณ์ตอนนี้ 50/50
ขอเสนอแนะ ให้ นายกรัฐมนตรี รีบลงไป ภาค 4 ส่วนหน้าโดยด่วนที่สุด
เรียกร้องให้มีการ
1. เปิดยุทธการ ใช้กำลังทางทหารเชิงรุกต่อ RKK กวาดล้าง ในเขตเมือง / รอยต่อเทศบาล / ป่าเขา
2. เปิด ยุทธการทางลับ ต่อ ฝ่ายการเมือง โดยใช้ กลไก กฎหมายการฟอกเงิน ค้ามนุษย์ เพื่อสกัดเงินทุนในการ จัดตั้งมวลชน
3.เปลี่ยน รมต กลาโหม เป็น สายทหารที่เข้มแข็ง ต้องใช้คนให้ถูกกับงาน ( คนเดิม ไม่บกพร่องใดๆ แต่ ต้องใช้คนให้ถูกสถานการณ์ )
ขอขอบคุณ
การต่อสู้กับ โจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน BRN เราต้องการผู้นำ ที่เข็มแข็ง รักษาคำพูด มีภาวะผู้นำ มาเป็นผู้นำ.
เราต้องการ นายกรัฐมนตรี ที่มี ภาวะการนำที่เข้มแข็ง ชัดเจน
เพราะประเทศไทยกำลังต่อสู้กับภัยร้าย
จาก
ขบวนการ /โจรก่อการร้าย เพื่อ / แบ่งแยก 3จชต ยะลา ปัตตานี นราธิวาส บางส่วนของ สงขลา ออกเป็นประเทศเอกราช
ที่จะปกครองภายใต้ ระบบสุลต่านและกฎหมายชารีอะห์
ขบวนการ หมายถึง ไม่ได้ทำคนเดียว แต่มี ผังการบริหาร
BRN มี ผู้นำจิตวิญญาณ ที่ปัจจุบัน BRN ยังอำพรางไว้
คาดว่า เพื่อให้สอดคล้องกับ ระบบสุลต่าน ที่ยกขึ้นมาปลุกปั่นกระแส รัฐปาตานี
ผู้นำคนนี้คงจะมี เชื้อสายเจ้าเมืองดั้งเดิม
และไม่น่าจะพำนักในประเทศไทย คงใช้ชีวิต ใต้ชายคาชนชั้นสูง ของเพื่อนบ้าน
สถานะ คือ จะถูกเชิดชูเป็นสัญลักษณ์การประกาศเอกราช
BRN มี ผู้นำทางการเมือง
ปัจจุบัน มีหลายระดับ ทั้ง ท้องถิ่นและระดับชาติ
มีหน้าที่ ขับเคลื่อนสอดประสานนโยบาย การแยกเอกราชรัฐปาตานี แยก 3 จชต ออกจาก ราชอาณาจักรไทย
มีการ คิด พูด ทำ เขียน ปลุกระดม กันมาต่อเนื่อง
เรียกว่า จัดตั้งมวลชน
BRN มี ผู้นำทางการทหาร
ระดับกองร้อย ( แต่อัตรา น่าจะไม่ครบจำนวน ตามนิยาม กองร้อย ทบ ไทย )
แต่ละ กองร้อย RKK มี พื้นที่ปฎิบัติ 1-2 อำเภอ
กระจายเป็นชุดขนาดเล็ก 4-6 คน ตั้งฐานลอย ในป่า บนภูเขาและพื้นที่ ป่าพรุ
จุดเด่น คือ คล่องตัวสูงมาก สามารถ สนธิกำลังจากหลายอำเภอ ที่เรียกว่า รวมดาว ได้มากถึง
40-60 คนเพื่อเข้าตี จากนั้น สลายตัวเป็นทีมย่อยๆ กระจายออกไป
กำลังรบหลัก คือ RKK ใช้ ยุทธวิธี " มีอยู่ทุกที่ แต่ไม่ปรากฎทุกแห่ง "
ใช้ มวลชนจัดตั้งของฝ่ายการเมือง เป็น เครื่องมือ เกาะฐาน สืบความลับ จนท อำพรางและให้ที่หลบซ่อน RKK
สอดประสานกัน
RKK สามารถ ทำการก่อการร้ายทั้งใน เขตเมืองและป่าเขา ทั้งกลางวันและกลางคืน
RKK นั้น ดูเหมือน ปิดลับ ล่องหนหาตัวยาก
จนท แกะรอย ยากลำบากที่สุด
แต่สังเกตว่า
ทุกครั้งที่เกิดการ ปะทะ ไม่ว่า RKK ตาย / จับเป็น
จะมี ญาติพี่น้อง มาเกาะติด มารอรับศพ ไปแห่ปลุกระดม ทันที
ญาติ รู้ได้อย่างไร ว่า
จนท ปะทะ กับ RKK คนใด
ทั้งๆที่ พื้นที่ปะทะ ไม่ใช่ ภูมิลำเนาของ RKK
เพราะ BRN จะ สลับ ภูมิลำเนา กับ พื้นที่ปฎิบัติของ RKK เป็นยุทธวิธีของเขา
RKK มีหน้าที่ บริหารความหวาดกลัว ใช้การก่อการร้าย รักษาและควบคุมมวลชนจัดตั้ง
สังหาร ผู้นำชุมชนและ ผู้นำศาสนา ที่ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายการเมือง
สังหาร พลเรือนมุสลิม ที่ให้การข่าว แก่ จนท
ก่อการร้ายทำลาย โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ขับไล่นักลงทุน เพื่อทำให้ ความยากจนดำรงอยู่
ปัจจุบัน
หลังการเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมือง ด้วยภาวะผู้นำที่อาจจะไม่มากพอ
BRN ที่เคย ซวนเซ ในสมัย พลเอกประยุทธ์
เริ่มกลับมาตั้งหลักได้
ฝ่ายการเมืองของ BRN ขับเคลื่อนเชิงรุก มานานหลายเดือน
มีการจัดกิจกรรม คาบลูกคาบดอก เรื่องประกาศเอกราชรัฐปาตานี
ผ่ายการทหาร RKK ทำการก่อการร้าย รุนแรงมากขึ้น
อย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้
สถานการณ์ตอนนี้ 50/50
ขอเสนอแนะ ให้ นายกรัฐมนตรี รีบลงไป ภาค 4 ส่วนหน้าโดยด่วนที่สุด
เรียกร้องให้มีการ
1. เปิดยุทธการ ใช้กำลังทางทหารเชิงรุกต่อ RKK กวาดล้าง ในเขตเมือง / รอยต่อเทศบาล / ป่าเขา
2. เปิด ยุทธการทางลับ ต่อ ฝ่ายการเมือง โดยใช้ กลไก กฎหมายการฟอกเงิน ค้ามนุษย์ เพื่อสกัดเงินทุนในการ จัดตั้งมวลชน
3.เปลี่ยน รมต กลาโหม เป็น สายทหารที่เข้มแข็ง ต้องใช้คนให้ถูกกับงาน ( คนเดิม ไม่บกพร่องใดๆ แต่ ต้องใช้คนให้ถูกสถานการณ์ )
ขอขอบคุณ