พี่สาว กับสามีอยู่ด้วยกับมา 10 ปี แล้วพึงจดทะเบียนสมรสเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
ตลอดระยะเวลาที่คบกันสามีพี่สาวผมไม่เคยช่วยหาเงินเข้าบ้านเลยสักบาท ค่าใช้จ่ายทุกอย่างพี่สาวผมเป็นคนจ่ายทั้งหมด เวลาที่สามีพี่สาวมีงานทำมีเงินเดือนไม่เคยให้พี่สาวใช้หรือเอามาผ่อนบ้านและช่วยค่าใช้จ่ายภายในบ้านเลย เอาเงินไปใช้ส่วนตัวอย่างเดียวงานขอสามีพี่สาวส่วนใหญ่ก็ทำได้ไม่ถึงปีก็โดนไล่ออกมาตลอด พี่สาวผมก็พยายามหางานให้ทำ ในตอนแรกมีธุรกิจเปิดให้เช่าคอนโดเป็นรายวัน airbnb ครอบครัวผมเป็นคนช่วยทำความสะอาดให้ตลอดระยะเวลา1ปี ต้องมีการทำทุกวันสุดท้ายก็ไปไม่รอดเนื่องจากผิดกฎหมายเลยต้องเลิกปล่อยเช่าคอนโดต่อ แล้วต่อมาเปิดร้านขายไก่ทอดเกาหลี ก็เจ้งไป5แสน ธุรกิจต่อมาก็ เป็นการลงทุนซื้อบ้านมารีโนเวทปล่อยเช่ารวมไปถึงรับออกแบบบิวอิน ซึ่งต้องไปกู้แบงค์เพื่อลงทุนก็เป็นเครดิตของพี่สาวผมทั้งสิน(เงินเดือนพี่สาวผมสามแสนห้าหมื่นบาท) เนื่องจากสามีพี่สาวไม่มีเครดิตในการขอสินเชื่อ และพี่สาวผมเป็นคนริเริ่มธุรกิจนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะให้สามีมีงานทำจึงได้สนับสนุนให้สามีไปเรียนการใช้โปรแกรมวาดแบบบ้าน Sketup และเรียนการทำบิวอิน โดนเงินที่ใช้ไปเรียนหรือค่าเดินทางก็มาจากพี่สาวผมทั้งสิ้น
ตลอดเวลาที่ทำธุรกิจรีโนเวทบ้านนั้น พี่สาวผมก็ต้องคอยคุมอยู่ตลอดให้สามีทำงานทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่การออกแบบ การคุยกับผู้รับเหมา การไปดูหน้างาน การซื้อเฟอร์นิเจอร์ การแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่พี่สาวก็มีงานประจำที่หนักอยู่แล้ว อีกทั้งทางครอบครัวสามีไม่เคยมาช่วยหรือเกี่ยวข้องกับการช่วยในธุรกิจนี้เลยแม่แต่นิดเดียว มีแต่ครอบครัวผม ทั้งซ้อมแซมบ้าน ไปดูหน้างาน บำรุงรักษาบ้าน แก้ปัญหาต่างๆอยู่ตลอดเวลาที่ประกอบธุรกิจนี้
ปัญหาที่ทำให้เลิกกันเนื่องจากสามีไปเที่ยวผู้หญิง เสพยามาตลอดระยะเวลาที่คบกันแต่พี่สาวผมก็ให้อภัยมาโดยตลอดจนตอนหลังแม่ผมจับได้ แต่ก็ให้โอกาศสามีพี่สาวในการปรับตัวแต่สุดท้ายสามีพี่สาว ก็บอกว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้วและเลือกที่จะเดินออกจากชีวิตพี่สาวผมไปด้วยตัวเอง
ทรัพย์สินที่มีก่อนจดทะเบียนสมรส
1.บ้านทาวโฮม มีการกู้ก่อนจดทะเบียน 1 ปี ชื่อพี่สาวคนเดียว ยอดหนี้คงเหลือ 6 ล้านบาท (ถ้าขายมูลค่าบ้าน14ล้าน) ผ่อนมาแล้ว4ปี
ทรัพย์สินที่มีหลังจดทะเบียนสมรส
1.คอนโดใช้ ชื่อสามี กู้ร่วมกับพี่สาว ยอดหนี้คงเหลือ 20 ล้าน(ถ้าขายมูลค่า20ล้าน แต่มีหักเงินค่าโอนกรรมสิทธ์และเอเจน 2ล้าน) ผ่อน3ปี
2.บ้านเดียว ชื่อพี่สาว กู้คนเดียว ยอดหนี้คงเหลือ 14ล้าน(ถ้าขายมูลค่า20ล้าน)ผ่อน3ปี
3.กู้ยืมจากญาติมา ยอดหนี้คงเหลือ 5.4 ล้าน
4.บ้านที่ตั้งใจซื้อเพื่ออยู่กันทั้งสองครอบครัว ยอดหนี้คงเหลือ 20ล้าน แต่เป็นการ กู้รวมกับผมและพี่สาวสองคน (ผ่อนชำระมาแค่1ปี)
**ขอเสนอของพี่สาวผมคือให้บ้านทาวโฮมหลังแรก แต่สามีต้องเอาเงินมาปิดไฟแนนเอง 6 ล้านบาท และให้ช่วยรับผิดชอบหนี้ของคอนโดคนละครั้งคือ 1 ล้านบาท ส่วนหนี้สินอื่นๆรวม60ล้านพี่สาวผมจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด
**ขอเสนอของสามีพี่สาวคือ จะเอาบ้านทาวโฮมหลังก่อนจดทะเบียนไปอย่างเดียวและจะเอาเงินสดอีก2ล้านบ้าน แต่ไม่เอาหนี้สินไปแม้แต่บาทเดียว
มูลค่าคอนโดไม่แน่นอนเนื่องจากมีการโพสขายมา3ปีพึงจะมีคนติดต่อขอซื้อในช่วงที่มีปัญหากันพอดี ถ้ายื้อไปอาจจะขายได้ต่ำกว่า20ล้าน
มีทรงว่าสามีพี่สาวจะไม่เอาขอเสนอของพี่สาวเนื่องด้วยเค้าบอกว่าเค้าลงแรงมาเยอะ โดนไม่พูดถึงหนี้สินและความผิดที่เค้าก่อขึ้นมาเลยแม่แต่น้อย ยังคงโทษพี่สาวผมอยู่ว่าไม่เห็นค่าในตัวเค้าเลย
แบบนี้ถ้าสู้กันต้องไปในทิศทางไหนดีครับ
พี่สาวกำลังฟ้องหย่าสามีแต่ติดปัญหาตรงแบ่งทรัพย์สินช่วยแนะนำหน่อยครับ
ตลอดระยะเวลาที่คบกันสามีพี่สาวผมไม่เคยช่วยหาเงินเข้าบ้านเลยสักบาท ค่าใช้จ่ายทุกอย่างพี่สาวผมเป็นคนจ่ายทั้งหมด เวลาที่สามีพี่สาวมีงานทำมีเงินเดือนไม่เคยให้พี่สาวใช้หรือเอามาผ่อนบ้านและช่วยค่าใช้จ่ายภายในบ้านเลย เอาเงินไปใช้ส่วนตัวอย่างเดียวงานขอสามีพี่สาวส่วนใหญ่ก็ทำได้ไม่ถึงปีก็โดนไล่ออกมาตลอด พี่สาวผมก็พยายามหางานให้ทำ ในตอนแรกมีธุรกิจเปิดให้เช่าคอนโดเป็นรายวัน airbnb ครอบครัวผมเป็นคนช่วยทำความสะอาดให้ตลอดระยะเวลา1ปี ต้องมีการทำทุกวันสุดท้ายก็ไปไม่รอดเนื่องจากผิดกฎหมายเลยต้องเลิกปล่อยเช่าคอนโดต่อ แล้วต่อมาเปิดร้านขายไก่ทอดเกาหลี ก็เจ้งไป5แสน ธุรกิจต่อมาก็ เป็นการลงทุนซื้อบ้านมารีโนเวทปล่อยเช่ารวมไปถึงรับออกแบบบิวอิน ซึ่งต้องไปกู้แบงค์เพื่อลงทุนก็เป็นเครดิตของพี่สาวผมทั้งสิน(เงินเดือนพี่สาวผมสามแสนห้าหมื่นบาท) เนื่องจากสามีพี่สาวไม่มีเครดิตในการขอสินเชื่อ และพี่สาวผมเป็นคนริเริ่มธุรกิจนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะให้สามีมีงานทำจึงได้สนับสนุนให้สามีไปเรียนการใช้โปรแกรมวาดแบบบ้าน Sketup และเรียนการทำบิวอิน โดนเงินที่ใช้ไปเรียนหรือค่าเดินทางก็มาจากพี่สาวผมทั้งสิ้น
ตลอดเวลาที่ทำธุรกิจรีโนเวทบ้านนั้น พี่สาวผมก็ต้องคอยคุมอยู่ตลอดให้สามีทำงานทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่การออกแบบ การคุยกับผู้รับเหมา การไปดูหน้างาน การซื้อเฟอร์นิเจอร์ การแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่พี่สาวก็มีงานประจำที่หนักอยู่แล้ว อีกทั้งทางครอบครัวสามีไม่เคยมาช่วยหรือเกี่ยวข้องกับการช่วยในธุรกิจนี้เลยแม่แต่นิดเดียว มีแต่ครอบครัวผม ทั้งซ้อมแซมบ้าน ไปดูหน้างาน บำรุงรักษาบ้าน แก้ปัญหาต่างๆอยู่ตลอดเวลาที่ประกอบธุรกิจนี้
ปัญหาที่ทำให้เลิกกันเนื่องจากสามีไปเที่ยวผู้หญิง เสพยามาตลอดระยะเวลาที่คบกันแต่พี่สาวผมก็ให้อภัยมาโดยตลอดจนตอนหลังแม่ผมจับได้ แต่ก็ให้โอกาศสามีพี่สาวในการปรับตัวแต่สุดท้ายสามีพี่สาว ก็บอกว่าทนต่อไปไม่ไหวแล้วและเลือกที่จะเดินออกจากชีวิตพี่สาวผมไปด้วยตัวเอง
ทรัพย์สินที่มีก่อนจดทะเบียนสมรส
1.บ้านทาวโฮม มีการกู้ก่อนจดทะเบียน 1 ปี ชื่อพี่สาวคนเดียว ยอดหนี้คงเหลือ 6 ล้านบาท (ถ้าขายมูลค่าบ้าน14ล้าน) ผ่อนมาแล้ว4ปี
ทรัพย์สินที่มีหลังจดทะเบียนสมรส
1.คอนโดใช้ ชื่อสามี กู้ร่วมกับพี่สาว ยอดหนี้คงเหลือ 20 ล้าน(ถ้าขายมูลค่า20ล้าน แต่มีหักเงินค่าโอนกรรมสิทธ์และเอเจน 2ล้าน) ผ่อน3ปี
2.บ้านเดียว ชื่อพี่สาว กู้คนเดียว ยอดหนี้คงเหลือ 14ล้าน(ถ้าขายมูลค่า20ล้าน)ผ่อน3ปี
3.กู้ยืมจากญาติมา ยอดหนี้คงเหลือ 5.4 ล้าน
4.บ้านที่ตั้งใจซื้อเพื่ออยู่กันทั้งสองครอบครัว ยอดหนี้คงเหลือ 20ล้าน แต่เป็นการ กู้รวมกับผมและพี่สาวสองคน (ผ่อนชำระมาแค่1ปี)
**ขอเสนอของพี่สาวผมคือให้บ้านทาวโฮมหลังแรก แต่สามีต้องเอาเงินมาปิดไฟแนนเอง 6 ล้านบาท และให้ช่วยรับผิดชอบหนี้ของคอนโดคนละครั้งคือ 1 ล้านบาท ส่วนหนี้สินอื่นๆรวม60ล้านพี่สาวผมจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด
**ขอเสนอของสามีพี่สาวคือ จะเอาบ้านทาวโฮมหลังก่อนจดทะเบียนไปอย่างเดียวและจะเอาเงินสดอีก2ล้านบ้าน แต่ไม่เอาหนี้สินไปแม้แต่บาทเดียว
มูลค่าคอนโดไม่แน่นอนเนื่องจากมีการโพสขายมา3ปีพึงจะมีคนติดต่อขอซื้อในช่วงที่มีปัญหากันพอดี ถ้ายื้อไปอาจจะขายได้ต่ำกว่า20ล้าน
มีทรงว่าสามีพี่สาวจะไม่เอาขอเสนอของพี่สาวเนื่องด้วยเค้าบอกว่าเค้าลงแรงมาเยอะ โดนไม่พูดถึงหนี้สินและความผิดที่เค้าก่อขึ้นมาเลยแม่แต่น้อย ยังคงโทษพี่สาวผมอยู่ว่าไม่เห็นค่าในตัวเค้าเลย
แบบนี้ถ้าสู้กันต้องไปในทิศทางไหนดีครับ