นิพพาน มีลักษณะดังนี้:

ตามหลักพระพุทธศาสนา นิพพานมีลักษณะดังนี้:

1. เป็นสภาวะที่สิ้นกิเลสและความทุกข์ทั้งปวง

2. เป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา

3. เป็นสภาวะที่พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ

4. เป็นสภาวะที่ไม่มีตัณหา ความอยาก หรือความยึดมั่นถือมั่น

5. เป็นสภาวะที่ไม่มีทุกข์ ไม่มีความเศร้าโศก

6. เป็นสภาวะที่มีแต่ความสงบสุขอย่างยิ่ง

7. เป็นสภาวะที่พ้นจากอำนาจของกรรมและวิบากกรรม

8. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย

9. เป็นสภาวะที่ไม่มีกาลเวลา ไม่มีอดีต ปัจจุบัน อนาคต

10. เป็นสภาวะที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยภาษาหรือความคิดธรรมดา

11. เป็นสภาวะที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีที่ตั้ง ไม่มีขอบเขต

12. เป็นสภาวะที่เข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติธรรมและการบรรลุธรรม

13. เป็นสภาวะที่พ้นจากกฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

14. เป็นสภาวะที่มีอิสรภาพอย่างสมบูรณ์

15. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงที่ตลอดกาล

16. เป็นสภาวะที่ไม่มีความยึดติดในสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น

17. เป็นสภาวะที่มีปัญญาบริสุทธิ์ รู้แจ้งในสัจธรรมทั้งปวง

18. เป็นสภาวะที่พ้นจากอวิชชา หรือความไม่รู้

19. เป็นสภาวะที่มีความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ปราศจากมลทินใดๆ

20. เป็นสภาวะที่เป็นอมตะ ไม่มีความตาย

21. เป็นสภาวะที่ไม่มีความหวาดกลัวใดๆ

22. เป็นสภาวะที่พ้นจากอุปาทาน หรือความยึดมั่นถือมั่น

23. เป็นสภาวะที่ไม่มีการสร้างกรรมใหม่

24. เป็นสภาวะที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม

25. เป็นสภาวะที่ไม่มีความขัดแย้งหรือความบีบคั้นใดๆ

26. เป็นสภาวะที่พ้นจากอำนาจของมาร (กิเลสมาร, ขันธมาร, อภิสังขารมาร, เทวปุตตมาร, มัจจุมาร)

27. เป็นสภาวะที่มีความเป็นหนึ่งเดียว ไม่แบ่งแยก

28. เป็นสภาวะที่ไม่มีความรู้สึกเป็นตัวตน (อนัตตา) อย่างสมบูรณ์

29. เป็นสภาวะที่พ้นจากโลกียธรรมทั้งปวง

30. เป็นสภาวะที่มีความสงบนิ่งอย่างลึกซึ้ง

31. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเปรียบเทียบหรือตัดสิน

32. เป็นสภาวะที่ไม่มีความต้องการหรือความปรารถนาใดๆ

33. เป็นสภาวะที่พ้นจากอำนาจของกาลเทศะ

34. เป็นสภาวะที่มีความเป็นกลางอย่างสมบูรณ์ ไม่เอนเอียง

35. เป็นสภาวะที่ไม่มีการสะสมหรือการละทิ้ง

36. เป็นสภาวะที่พ้นจากความคิดปรุงแต่งทั้งปวง

37. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากเหตุปัจจัยภายนอก

38. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างผู้รู้กับสิ่งที่ถูกรู้

39. เป็นสภาวะที่มีความสมดุลอย่างสมบูรณ์

40. เป็นสภาวะที่พ้นจากการปรากฏและการดับสลายของสรรพสิ่ง

41. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างสุขและทุกข์

42. เป็นสภาวะที่พ้นจากกระแสของเวลา (อกาลิโก)

43. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของสังขาร (ความปรุงแต่ง)

44. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอมตะ ไม่รู้จักความเสื่อมสลาย

45. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างภายในและภายนอก

46. เป็นสภาวะที่พ้นจากอำนาจของกรรมทั้งดีและชั่ว

47. เป็นสภาวะที่ไม่มีการสร้างภพใหม่ (ภวนิโรธ)

48. เป็นสภาวะที่มีความสงบเย็นอย่างยิ่ง (นิพพาน แปลว่า เย็น)

49. เป็นสภาวะที่ไม่มีการยึดติดในอัตตาหรืออนัตตา

50. เป็นสภาวะที่พ้นจากความเป็นคู่ (ทวิภาวะ) ทั้งปวง

51. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแสวงหาหรือการบรรลุ

52. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากกฎแห่งเหตุและผล

53. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือการหยุดนิ่ง

54. เป็นสภาวะที่พ้นจากความเป็นรูปและนาม

55. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของความคิดและอารมณ์

56. เป็นสภาวะที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติทั้งมวล

57. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างผู้รู้และสิ่งที่ถูกรู้

58. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในความว่างและความมีอยู่

59. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเปรียบเทียบหรือการวัดค่า

60. เป็นสภาวะที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ขาดและไม่เกิน

61. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

62. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในทิฏฐิหรือความคิดเห็นใดๆ

63. เป็นสภาวะที่ไม่มีการสร้างหรือทำลาย

64. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากกฎแห่งกรรมและผลของกรรม

65. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างสมมติสัจจะและปรมัตถสัจจะ

66. เป็นสภาวะที่พ้นจากอวิชชาโดยสิ้นเชิง

67. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของทุกขเวทนา สุขเวทนา หรืออุเบกขาเวทนา

68. เป็นสภาวะที่มีความสงบนิ่งอย่างลึกซึ้งที่สุด

69. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างสังสารวัฏและนิพพาน

70. เป็นสภาวะที่พ้นจากอำนาจของมายาหรือความหลงผิดทั้งปวง

71. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของสังขตธรรมใดๆ

72. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากกฎแห่งอิทัปปัจจยตา (ปฏิจจสมุปบาท)

73. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างผู้ตรัสรู้และสิ่งที่ตรัสรู้

74. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในความมีและความไม่มี

75. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของอาสวะกิเลส

76. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากการเวียนว่ายตายเกิดในภพทั้งสาม

77. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างโลกิยะและโลกุตตระ

78. เป็นสภาวะที่พ้นจากอำนาจของนิวรณ์ทั้ง 5

79. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของสังโยชน์ทั้ง 10

80. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากอุปาทานขันธ์ทั้ง 5

81. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างสมถะและวิปัสสนา

82. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในธรรมทั้งปวง รวมถึงนิพพานเอง

83. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของทิฏฐิ 62 ประการ

84. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากการปรุงแต่งทางจิตทุกรูปแบบ

85. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างความรู้และความไม่รู้

86. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในอัตตาและอนัตตา

87. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของกิเลสอณูใดๆ

88. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากการแสวงหาและการบรรลุ

89. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างความจริงสมมติและความจริงแท้

90. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในความว่างและความไม่ว่าง

91. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของความสงสัยหรือความลังเลใดๆ

92. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากการกระทำและผลของการกระทำ

93. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างความสุขและความทุกข์อีกต่อไป

94. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในความมีตัวตนและความไม่มีตัวตน

95. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของการรับรู้ผ่านอายตนะทั้ง 6

96. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากการปรากฏและการดับสลายของธรรมชาติทั้งปวง

97. เป็นสภาวะที่ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างความเป็นและความไม่เป็น

98. เป็นสภาวะที่พ้นจากการยึดติดในความคิดเชิงทวิภาวะทุกรูปแบบ

99. เป็นสภาวะที่ไม่มีการเกิดขึ้นของความรู้สึกแบ่งแยกจากสรรพสิ่ง

100. เป็นสภาวะที่มีความเป็นอิสระจากการกำหนดนิยามหรือการอธิบายใดๆ