ในยุคที่เทคโนโลยีกล้องดิจิทัลพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว กล้อง Olympus E-1 ซึ่งเปิดตัวในปี 2003 (แอบบตกใจ)
ยังคงเป็นที่จดจำของผู้ที่รักการถ่ายภาพ ด้วยความอึด ทน และคุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่งในสมัยนั้น
แม้ว่าจะผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว แต่กล้องรุ่นนี้ยังคงมีเสน่ห์และความน่าสนใจในตัวของมันเองครับ
ต้องบอกก่อนนะครับว่ากล้องตัวนี้ยืมน้องที่สะสมมาลองใช้ดูนะครับ
Olympus E-1 ถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานและใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ อันนี้ต้องยอมใจพี่โอลี่จริงๆ
ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ หนักมากกกก... แต่เวลาจับกลับรู้สึกดี มั่นคง ผมว่ามันสมดุลมากๆ ครับ
การจัดวางปุ่มและการออกแบบที่เหมาะสมกับมือทำให้การใช้งานง่ายดายและสะดวกสบาย
ผมว่าปุ่มรุ่นนี้หมุนง่ายๆ คล่องมือ ไม่แข็งหมือนยี่ห้ออื่นๆ (ส่วนตัวผมว่าฟูจิแข็งกกว่าครับ)
ผู้ใช้งานสามารถปรับค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ
ฟังชั่นส่วนใหญ่เป็นปุ่ม ตามองช่องมือก็คลำๆ กดไปพอได้ครับ อาจจะต้องจำและใช้บ่อยๆ ครับ

ปุ่มเนี้ยบมากครับ
ปุ่มฟังชั่นด้านหลังยังไม่เยอะเหมือนเดี๋ยวนี้ หน้าจอเล็ก ไม่ได้สว่างมากแต่ก็เห็นชัดอยู่นะครับ ไม่ยับไม่มืด แต่กว่าจะขึ้นภาพหลังถ่ายนานหน่อยครับ
มาดูสเป็คคร่าวๆเท่าที่หามานะครับ
Olympus E-1 มาพร้อมกับเซนเซอร์ 5 ล้านพิกเซล เป็น ccd ครับ
ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นความละเอียดที่สูงมาก เพราะช่วงนั้นกล้องจะอยู่ประมาณ 3-4 ล้านพิกเซล
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเซนเซอร์ที่มีความละเอียดสูงกว่ามาก แต่ภาพที่ได้จาก E-1 ยังคงมีความคมชัดและรายละเอียดที่น่าประทับใจคือแบบดีกว่าที่คาดไว้เยอะครับ ตอนแรกคิดว่าจะเก่าๆ เหมือนกล้องรุ่นโบราณแตกส่วนตัวถ่าย RAW มาปรับแล้วยิ้มเลยครับ

มีช่องต่อเยอะมาก แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะไม่ได้ใช้ครับ

ระบบโฟกัสก็เป็นแบบสวิตช์ผลัก

ช่องใส่การ์ด กับที่ Lock ที่ดูแน่นหนามากๆ ด้องหมุดเปิด/ปิด

อันนี้เป็นแบบเทียบครับ

ระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วกว่าที่คิดไว้มากๆๆๆๆ อาจะเป็นเพราะมีจุดโฟกัสแค่ 3 จุด
และการมองผ่านช่องมองที่เป็นแบบเดิมๆ ช่องมองภาพ: Optical pentaprism
ไม่ได้เป็น การแสดงผล EVF ทำให้ไม่หน่วงและรู้สึกสมจริงดีครับ น้องๆเด็กรุ่นใหม่อาจจะตกใจก็ได้ครับ
เซนเซอร์ขนาด : 4/3
หน้าจอ LCD: ขนาด 1.8 นิ้ว ความละเอียด 134,000 จุด
การถ่ายภาพต่อเนื่อง: สูงสุด 3 ภาพต่อวินาที
การบันทึกวิดีโอ: ไม่มีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอ
หน่วยความจำ: การ์ด CompactFlash
แบตเตอรี่ใหญ่และหนัก(555)
ไปดูภาพกันเลย


















ชอบรายละเอียดของเส้นที่ดีอยู่ครับ

ส่วนสีขาวอาจจะขาดรายละเอียดไปบ้างครับ

ทุกภาพใช้เลนส์ 14-54 mm F/2.8-3.5 ถ่ายเป็น Raw แล้วมาปรับอีกทีครับ รวมน้ำหนักกล้อง+เลนส์ ประมาณ 1.2 กก. ครับ
ชัตเตอร์นิ่มมากๆๆๆๆ ครับ แบบผู้ดีเลย
สรุปว่าจุดโฟกัส 3 จุด มันไม่แสดงว่าตอนนี้โฟกัสจุดไหนให้เห็นครับ (สมัยนั้นคงยังไม่มี 555) เลยกะๆ เอาครับแต่ที่แถบด้านล่างของช่องมองแจ้งว่าโฟกัสเข้าแล้วเท่านั้นเองครับ


ข้อด้อยสำหรับการผ่านข้ามเวลามา 20 กว่าปี
- ไม่มี Live view ต้องส่องจากช่องมองภาพเท่านั้น
- จุดโฟกัสน้อย ใช้ Lock แล้วเปลี่ยนการจัดวางเอา (บางทีลืมครับ 555)
- ถ่ายต่อเนื่องได้น้อย
- ไม่มีถ่ายวีดีโอ
- ส่งภาพผ่านมือถือไม่ได้
- หนักไปหน่อย
- โฟกัสในที่มืดช้าหน่อยครับ
- จอด้านหลังเล็ก และประมวณผลภาพที่ถ่ายช้า
- ขนาดไฟล์เล็กสำหรับปริ้นภาพขนาดใหญ่ๆ
- เลนส์ขึ้นรา (แล้วแต่วิธีการเก็บนะครับเพราะมันนานมาก)
- เลนส์หายากครับ เพราะไม่ใช่ M4/3 ที่เป็นรุ่นใหม่กว่าอันนั้นหาง่ายกว่าครับ
แม้ว่าจะผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่ Olympus E-1 ยังคงเป็นกล้องคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยม การออกแบบที่ทนทาน
และฟีเจอร์ที่หลากหลาย สมกับเป็นกล้องถ่ายภาพระดับตำนานของ Olympus ที่น่าทึ่งจริงๆครับ
[CR] รีวิวกล้อง Olympus E-1: การเดินทางผ่านกาลเวลาของกล้องระดับตำนาน
ยังคงเป็นที่จดจำของผู้ที่รักการถ่ายภาพ ด้วยความอึด ทน และคุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่งในสมัยนั้น
แม้ว่าจะผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว แต่กล้องรุ่นนี้ยังคงมีเสน่ห์และความน่าสนใจในตัวของมันเองครับ
ต้องบอกก่อนนะครับว่ากล้องตัวนี้ยืมน้องที่สะสมมาลองใช้ดูนะครับ
Olympus E-1 ถูกออกแบบมาเพื่อความทนทานและใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ อันนี้ต้องยอมใจพี่โอลี่จริงๆ
ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ หนักมากกกก... แต่เวลาจับกลับรู้สึกดี มั่นคง ผมว่ามันสมดุลมากๆ ครับ
การจัดวางปุ่มและการออกแบบที่เหมาะสมกับมือทำให้การใช้งานง่ายดายและสะดวกสบาย
ผมว่าปุ่มรุ่นนี้หมุนง่ายๆ คล่องมือ ไม่แข็งหมือนยี่ห้ออื่นๆ (ส่วนตัวผมว่าฟูจิแข็งกกว่าครับ)
ผู้ใช้งานสามารถปรับค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องละสายตาจากช่องมองภาพ
ฟังชั่นส่วนใหญ่เป็นปุ่ม ตามองช่องมือก็คลำๆ กดไปพอได้ครับ อาจจะต้องจำและใช้บ่อยๆ ครับ
ปุ่มเนี้ยบมากครับ
ปุ่มฟังชั่นด้านหลังยังไม่เยอะเหมือนเดี๋ยวนี้ หน้าจอเล็ก ไม่ได้สว่างมากแต่ก็เห็นชัดอยู่นะครับ ไม่ยับไม่มืด แต่กว่าจะขึ้นภาพหลังถ่ายนานหน่อยครับ
มาดูสเป็คคร่าวๆเท่าที่หามานะครับ
Olympus E-1 มาพร้อมกับเซนเซอร์ 5 ล้านพิกเซล เป็น ccd ครับ
ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นความละเอียดที่สูงมาก เพราะช่วงนั้นกล้องจะอยู่ประมาณ 3-4 ล้านพิกเซล
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเซนเซอร์ที่มีความละเอียดสูงกว่ามาก แต่ภาพที่ได้จาก E-1 ยังคงมีความคมชัดและรายละเอียดที่น่าประทับใจคือแบบดีกว่าที่คาดไว้เยอะครับ ตอนแรกคิดว่าจะเก่าๆ เหมือนกล้องรุ่นโบราณแตกส่วนตัวถ่าย RAW มาปรับแล้วยิ้มเลยครับ
มีช่องต่อเยอะมาก แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะไม่ได้ใช้ครับ
ระบบโฟกัสก็เป็นแบบสวิตช์ผลัก
ช่องใส่การ์ด กับที่ Lock ที่ดูแน่นหนามากๆ ด้องหมุดเปิด/ปิด
อันนี้เป็นแบบเทียบครับ
ระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วกว่าที่คิดไว้มากๆๆๆๆ อาจะเป็นเพราะมีจุดโฟกัสแค่ 3 จุด
และการมองผ่านช่องมองที่เป็นแบบเดิมๆ ช่องมองภาพ: Optical pentaprism
ไม่ได้เป็น การแสดงผล EVF ทำให้ไม่หน่วงและรู้สึกสมจริงดีครับ น้องๆเด็กรุ่นใหม่อาจจะตกใจก็ได้ครับ
เซนเซอร์ขนาด : 4/3
หน้าจอ LCD: ขนาด 1.8 นิ้ว ความละเอียด 134,000 จุด
การถ่ายภาพต่อเนื่อง: สูงสุด 3 ภาพต่อวินาที
การบันทึกวิดีโอ: ไม่มีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอ
หน่วยความจำ: การ์ด CompactFlash
แบตเตอรี่ใหญ่และหนัก(555)
ไปดูภาพกันเลย
ชอบรายละเอียดของเส้นที่ดีอยู่ครับ
ส่วนสีขาวอาจจะขาดรายละเอียดไปบ้างครับ
ทุกภาพใช้เลนส์ 14-54 mm F/2.8-3.5 ถ่ายเป็น Raw แล้วมาปรับอีกทีครับ รวมน้ำหนักกล้อง+เลนส์ ประมาณ 1.2 กก. ครับ
ชัตเตอร์นิ่มมากๆๆๆๆ ครับ แบบผู้ดีเลย
สรุปว่าจุดโฟกัส 3 จุด มันไม่แสดงว่าตอนนี้โฟกัสจุดไหนให้เห็นครับ (สมัยนั้นคงยังไม่มี 555) เลยกะๆ เอาครับแต่ที่แถบด้านล่างของช่องมองแจ้งว่าโฟกัสเข้าแล้วเท่านั้นเองครับ
ข้อด้อยสำหรับการผ่านข้ามเวลามา 20 กว่าปี
- ไม่มี Live view ต้องส่องจากช่องมองภาพเท่านั้น
- จุดโฟกัสน้อย ใช้ Lock แล้วเปลี่ยนการจัดวางเอา (บางทีลืมครับ 555)
- ถ่ายต่อเนื่องได้น้อย
- ไม่มีถ่ายวีดีโอ
- ส่งภาพผ่านมือถือไม่ได้
- หนักไปหน่อย
- โฟกัสในที่มืดช้าหน่อยครับ
- จอด้านหลังเล็ก และประมวณผลภาพที่ถ่ายช้า
- ขนาดไฟล์เล็กสำหรับปริ้นภาพขนาดใหญ่ๆ
- เลนส์ขึ้นรา (แล้วแต่วิธีการเก็บนะครับเพราะมันนานมาก)
- เลนส์หายากครับ เพราะไม่ใช่ M4/3 ที่เป็นรุ่นใหม่กว่าอันนั้นหาง่ายกว่าครับ
แม้ว่าจะผ่านมา 20 ปีแล้ว แต่ Olympus E-1 ยังคงเป็นกล้องคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยม การออกแบบที่ทนทาน
และฟีเจอร์ที่หลากหลาย สมกับเป็นกล้องถ่ายภาพระดับตำนานของ Olympus ที่น่าทึ่งจริงๆครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้