สวัสดีค่ะ มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง
เรามีญาติเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมาเกือบสามสิบปี แล้วเราเห็นพฤติกรรมเค้าทั้งสองมาตลอด อุปนิสัยสามีคือ เป็นคนพูดเพราะ หน้าบาง เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่จะเป็นคนสงบไม่โวยวาย อุปนิสัยภรรยาคือ ปากไม่ดี ไม่ค่อยยอมคน หาเงินเก่ง แต่ถูกกดขี่ข่มเหงทางอารมณ์จากฝ่ายชาย ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ทางครอบครัวฝ่ายชายไม่อยากให้ฝ่ายชายแต่ง เพราะดูถูกว่าผู้หญิงเป็นคนอีสาน ท่าทางดูบ้านนอกและดูจน โดยที่ความจริงก็ไม่ใช่คนกระจอกงอกง่อย เวลาไปบ้านฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงจะถูกพี่น้องและแม่สามีค่อนแคะเสมอ แต่สามีก็ไม่เคยทำอะไรเพื่อปกป้องเมียตัวเอง อารมณ์ประมาณแบบ แม่กับพี่น้องอยากทำอะไรก็ทำไม่ใช่เรื่องของฉัน เวลามีการตัดสินใจจ่ายเงินก้อนใหญ่ในบ้าน ภรรยาไม่เคยเถียงสามีชนะ เวลามีมิจฉาชีพมาหลอกทางการเงิน ภรรยาจะดูออกรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนมาหลอกเสมอ แต่ไม่เคยสามารถที่จะใช้เหตุผลกับสามีได้ว่าถ้าจ่ายเงินนี้ออกไปมันจะเสีย ด้วยความที่สามีเป็นคนเชื่อคนง่าย แล้วไม่ฟังภรรยา คู่รักคู่นี้ ไม่เคยมีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำ ตลอดชีวิตใช้ชีวิตแบบดูเหมือนรวย แต่รวยด้วยการกู้หนี้ยืมสิน ด้วยความที่ภรรยาเป็นคนปากไม่ดีพูดไม่เพราะ ภรรยาจะไม่ค่อยพูดอะไรโดยใช้เหตุผลดีดีกับสามี แต่จะใช้การประชดประชันค่อนแคะ ขอยกตัวอย่างนึงที่เคยได้ยินจากหูตัวเอง ที่ภรรยาพูดกับสามี "กินมันลงไปขนมหวานน่ะ กินเสร็จแล้วก็รีบๆ ไปนอนหลังกินทันทีเลย โรคหัวใจจะได้ถามหา จะได้ตายเร็วๆ" ทั้งสองสามีภรรยานี้เป็นคนไม่รักการทำงานบ้าน แต่ก็ยังคงสะอาดพอที่จะถือว่าอยู่ในระดับพอไปวัดไปวาได้ สามีเป็นคนถือตัวว่าตนนั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ชาย หน้าที่ทำความสะอาดไม่ใช่ของฝ่ายชายที่จะต้องทำ แต่ถ้าฝ่ายชายได้ทำบ้านจะสะอาด เพราะผู้ชายเป็นคนมีระเบียบ ส่วนฝ่ายหญิงนั้นจะเป็นประเภท ทำเฉพาะเท่าที่จำเป็น เช่น ผ้าใช้แล้วต้องซักก็ซัก จานใช้แล้วก็ล้าง แต่เป็นคนไม่มีระเบียบ ไม่รักษาความสะอาด สิ่งที่เจ้าของกระทู้จะได้ยินได้เห็นประจำคือ ฝ่ายหญิงจะค่อนแคะก่นด่า ฝ่ายชายในเชิงประชดประชัน แต่ไม่เคยทำอะไรได้ ไม่เคยมีสิทธิในการตัดสินในบ้าน ไม่เคยมีสิทธิตัดสินใจเรื่องเงิน ฝ่ายชายเป็นฝ่ายจ่ายค่าหนี้สินในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ฝ่ายชายเลยบอกกับฝ่ายหญิงว่า ไม่มีเงินแล้วนะ ฝ่ายหญิงเลยเป็นคนหาเงินเข้าบ้าน จ่ายทุกอย่างในบ้าน และจ่ายค่าเลี้ยงลูกทั้งหมด ฝ่ายหญิงเป็นคนเอามาเล่าให้เจ้าของกระทู้ฟังว่า ตั้งแต่แต่งงานกันมา ฝ่ายชายถ้าสบโอกาส มักจะไปหานอนกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิง หรือพวกเด็กสาวจากร้านอาหารที่มาทำตาเล็กตาน้อยใส่ฝ่ายชายเสมอ จนช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมา คู่แต่งงานนี้หย่ากัน เพราะฝ่ายชายไปหลงผู้หญิงคนนึงที่คารมณ์ดี ทำงานบ้านเก่งเป็นระเบียบ ดูเหมือนจะเป็นแม่บ้านที่ดี ถึงแม้จะอายุรุ่นเดียวกับฝ่ายหญิงก็ตาม ไม่ได้อ่อนกว่าหรือเป็นเด็กสาว ฝ่ายชายมายกยอปอปั้นผู้หญิงใหม่คนนี้ให้เจ้าของกระทู้ฟังว่าผู้หญิงคนนี้นั้นดีเลิศยังไง มันทำให้เจ้าของกระทู้เห็นว่า ฝ่ายหญิงด้อยกว่าผู้หญิงคนใหม่คนนี้ยังไงบ้าง มันทำให้เจ้าของกระทู้เห็นว่า ฝ่ายหญิงนั้นเป็นคนเหมือนไม่ค่อยมีวิจารณญาณที่ดี เหมือนคนถูกสอนมาไม่ดี ทำให้เลือกทำสิ่งต่างๆในชีวิตได้ไม่ดี อีกทั้งฝ่ายหญิง ยังขาดความเข้าใจในการเลี้ยงลูกของตน แล้วตลอดชีวิตของฝ่ายหญิงถึงแม้จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยการกู้หนี้ยืมสิน แต่ตัวเองก็ดูแลตนเองให้ดูเหมือนคนรวยอยู่เสมอ ต่างกับลูกตัวเอง ที่ลักษณะภายนอกเหมือนลูกคนจน คืออารมณ์เหมือนแบบ เงินในบ้านไหลไปหาใครบ้างไม่รู้ แต่ดูจากภายนอกแล้ว แม่เหมือนคุณนาย ลูกเหมือนคนใช้ แล้วก็ไม่เคยมีหลักคิดแนวคิดต่างๆที่จะมาสอนลูก คนที่สอนลูกให้แนวคิดที่ดีกับลูกจะเป็นตายาย หรือพ่อแทนที่จะมาคนคอยบอกคอยสอน เจ้าของกระทู้เคยถามทำไมไม่พูดทำความเข้าใจอะไรกับลูกบ้าง ฝ่ายหญิงบอก สอนคนไม่เป็น ในสถานการณ์นี้น่ะ ฝ่ายหญิงเป็นคนจ่ายเงินในบ้านทุกอย่าง และไม่เคยคิดมีชู้ ต่างจากฝ่ายชาย ที่หาเศษหาเลยมาตลอด แต่เจ้าของกระทู้คิดว่าความคิดอ่านต่างๆของฝ่ายชายนั้นดีกว่า เหมือนคนมีการศึกษามากกว่า มีวิจารณญาณที่ดีกว่า เป็นคุณคุณว่าสองคนนี้ใครถูกใครผิด หรือก็แย่ทั้งคู่
เจ้าของกระทู้นั่งมองการใช้ชีวิตของคู่รักคู่นี้แล้วมันทำให้เจ้าของกระทู้คิดได้ตั้งนานมาแล้วว่า สองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วก็นำพากันไปสู่ความเสื่อม เพราะทั้งสองไม่เคยมีแนวคิดที่จะพัฒนาตนเอง หรือเก็บออมเพื่อให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เคยวางแผนว่าพอเกษียณทำงานไม่ได้แล้วจะอยู่ยังไงใช้ชีวิตยังไง พวกคุณว่ามันดีกว่าไหมที่สองคนนี้หย่ากันหรือมันจะดีกว่าที่สองคนอยู่ด้วยกันต่อไป
ถ้าจะตัดสินคุณคิดว่าใครถูกใครผิดคะ
เรามีญาติเป็นคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมาเกือบสามสิบปี แล้วเราเห็นพฤติกรรมเค้าทั้งสองมาตลอด อุปนิสัยสามีคือ เป็นคนพูดเพราะ หน้าบาง เจ้ายศเจ้าอย่าง แต่จะเป็นคนสงบไม่โวยวาย อุปนิสัยภรรยาคือ ปากไม่ดี ไม่ค่อยยอมคน หาเงินเก่ง แต่ถูกกดขี่ข่มเหงทางอารมณ์จากฝ่ายชาย ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ทางครอบครัวฝ่ายชายไม่อยากให้ฝ่ายชายแต่ง เพราะดูถูกว่าผู้หญิงเป็นคนอีสาน ท่าทางดูบ้านนอกและดูจน โดยที่ความจริงก็ไม่ใช่คนกระจอกงอกง่อย เวลาไปบ้านฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงจะถูกพี่น้องและแม่สามีค่อนแคะเสมอ แต่สามีก็ไม่เคยทำอะไรเพื่อปกป้องเมียตัวเอง อารมณ์ประมาณแบบ แม่กับพี่น้องอยากทำอะไรก็ทำไม่ใช่เรื่องของฉัน เวลามีการตัดสินใจจ่ายเงินก้อนใหญ่ในบ้าน ภรรยาไม่เคยเถียงสามีชนะ เวลามีมิจฉาชีพมาหลอกทางการเงิน ภรรยาจะดูออกรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนมาหลอกเสมอ แต่ไม่เคยสามารถที่จะใช้เหตุผลกับสามีได้ว่าถ้าจ่ายเงินนี้ออกไปมันจะเสีย ด้วยความที่สามีเป็นคนเชื่อคนง่าย แล้วไม่ฟังภรรยา คู่รักคู่นี้ ไม่เคยมีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำ ตลอดชีวิตใช้ชีวิตแบบดูเหมือนรวย แต่รวยด้วยการกู้หนี้ยืมสิน ด้วยความที่ภรรยาเป็นคนปากไม่ดีพูดไม่เพราะ ภรรยาจะไม่ค่อยพูดอะไรโดยใช้เหตุผลดีดีกับสามี แต่จะใช้การประชดประชันค่อนแคะ ขอยกตัวอย่างนึงที่เคยได้ยินจากหูตัวเอง ที่ภรรยาพูดกับสามี "กินมันลงไปขนมหวานน่ะ กินเสร็จแล้วก็รีบๆ ไปนอนหลังกินทันทีเลย โรคหัวใจจะได้ถามหา จะได้ตายเร็วๆ" ทั้งสองสามีภรรยานี้เป็นคนไม่รักการทำงานบ้าน แต่ก็ยังคงสะอาดพอที่จะถือว่าอยู่ในระดับพอไปวัดไปวาได้ สามีเป็นคนถือตัวว่าตนนั้นเป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ชาย หน้าที่ทำความสะอาดไม่ใช่ของฝ่ายชายที่จะต้องทำ แต่ถ้าฝ่ายชายได้ทำบ้านจะสะอาด เพราะผู้ชายเป็นคนมีระเบียบ ส่วนฝ่ายหญิงนั้นจะเป็นประเภท ทำเฉพาะเท่าที่จำเป็น เช่น ผ้าใช้แล้วต้องซักก็ซัก จานใช้แล้วก็ล้าง แต่เป็นคนไม่มีระเบียบ ไม่รักษาความสะอาด สิ่งที่เจ้าของกระทู้จะได้ยินได้เห็นประจำคือ ฝ่ายหญิงจะค่อนแคะก่นด่า ฝ่ายชายในเชิงประชดประชัน แต่ไม่เคยทำอะไรได้ ไม่เคยมีสิทธิในการตัดสินในบ้าน ไม่เคยมีสิทธิตัดสินใจเรื่องเงิน ฝ่ายชายเป็นฝ่ายจ่ายค่าหนี้สินในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ฝ่ายชายเลยบอกกับฝ่ายหญิงว่า ไม่มีเงินแล้วนะ ฝ่ายหญิงเลยเป็นคนหาเงินเข้าบ้าน จ่ายทุกอย่างในบ้าน และจ่ายค่าเลี้ยงลูกทั้งหมด ฝ่ายหญิงเป็นคนเอามาเล่าให้เจ้าของกระทู้ฟังว่า ตั้งแต่แต่งงานกันมา ฝ่ายชายถ้าสบโอกาส มักจะไปหานอนกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิง หรือพวกเด็กสาวจากร้านอาหารที่มาทำตาเล็กตาน้อยใส่ฝ่ายชายเสมอ จนช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมา คู่แต่งงานนี้หย่ากัน เพราะฝ่ายชายไปหลงผู้หญิงคนนึงที่คารมณ์ดี ทำงานบ้านเก่งเป็นระเบียบ ดูเหมือนจะเป็นแม่บ้านที่ดี ถึงแม้จะอายุรุ่นเดียวกับฝ่ายหญิงก็ตาม ไม่ได้อ่อนกว่าหรือเป็นเด็กสาว ฝ่ายชายมายกยอปอปั้นผู้หญิงใหม่คนนี้ให้เจ้าของกระทู้ฟังว่าผู้หญิงคนนี้นั้นดีเลิศยังไง มันทำให้เจ้าของกระทู้เห็นว่า ฝ่ายหญิงด้อยกว่าผู้หญิงคนใหม่คนนี้ยังไงบ้าง มันทำให้เจ้าของกระทู้เห็นว่า ฝ่ายหญิงนั้นเป็นคนเหมือนไม่ค่อยมีวิจารณญาณที่ดี เหมือนคนถูกสอนมาไม่ดี ทำให้เลือกทำสิ่งต่างๆในชีวิตได้ไม่ดี อีกทั้งฝ่ายหญิง ยังขาดความเข้าใจในการเลี้ยงลูกของตน แล้วตลอดชีวิตของฝ่ายหญิงถึงแม้จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยการกู้หนี้ยืมสิน แต่ตัวเองก็ดูแลตนเองให้ดูเหมือนคนรวยอยู่เสมอ ต่างกับลูกตัวเอง ที่ลักษณะภายนอกเหมือนลูกคนจน คืออารมณ์เหมือนแบบ เงินในบ้านไหลไปหาใครบ้างไม่รู้ แต่ดูจากภายนอกแล้ว แม่เหมือนคุณนาย ลูกเหมือนคนใช้ แล้วก็ไม่เคยมีหลักคิดแนวคิดต่างๆที่จะมาสอนลูก คนที่สอนลูกให้แนวคิดที่ดีกับลูกจะเป็นตายาย หรือพ่อแทนที่จะมาคนคอยบอกคอยสอน เจ้าของกระทู้เคยถามทำไมไม่พูดทำความเข้าใจอะไรกับลูกบ้าง ฝ่ายหญิงบอก สอนคนไม่เป็น ในสถานการณ์นี้น่ะ ฝ่ายหญิงเป็นคนจ่ายเงินในบ้านทุกอย่าง และไม่เคยคิดมีชู้ ต่างจากฝ่ายชาย ที่หาเศษหาเลยมาตลอด แต่เจ้าของกระทู้คิดว่าความคิดอ่านต่างๆของฝ่ายชายนั้นดีกว่า เหมือนคนมีการศึกษามากกว่า มีวิจารณญาณที่ดีกว่า เป็นคุณคุณว่าสองคนนี้ใครถูกใครผิด หรือก็แย่ทั้งคู่
เจ้าของกระทู้นั่งมองการใช้ชีวิตของคู่รักคู่นี้แล้วมันทำให้เจ้าของกระทู้คิดได้ตั้งนานมาแล้วว่า สองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วก็นำพากันไปสู่ความเสื่อม เพราะทั้งสองไม่เคยมีแนวคิดที่จะพัฒนาตนเอง หรือเก็บออมเพื่อให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เคยวางแผนว่าพอเกษียณทำงานไม่ได้แล้วจะอยู่ยังไงใช้ชีวิตยังไง พวกคุณว่ามันดีกว่าไหมที่สองคนนี้หย่ากันหรือมันจะดีกว่าที่สองคนอยู่ด้วยกันต่อไป