Patagonia ดินแดนในฝันของนักเดินทาง (Argentina)
(Autumn season: April 2024)
ใครจะไปเชื่อว่าเรามาได้แล้วจริงๆ ขนาดตัวฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลย แล้วตอนแพลนคือไปเจอคุณมายด์ ลภัสลัล กำลังไปเที่ยวอยู่พอดี บิ้วอารมณ์มากกก เป็นทริปที่ตื่นเต้นมาก เพราะเสียหายหลักแสน นั่งเครื่องบินนานโคตรรร เริ่มเลอ!
Photo : Samsung S24 Ultra
______________________________________________________________________________
El calafate - El chalten โดยรถบัส จองที่สนามบิน ไปกลับ ราคาประมาณ ขาละ 900 บาท ส่วนขากลับเราเลือกให้มาส่งที่สนามบินเลยค่ะ เพื่อความสะดวกซึ่งก่อนหน้านี้เราไปเที่ยวที่ Ushuaia และ El calafate มาก่อน เนื่องจากแพลนเครื่องบินเปลี่ยนไปหมด เลยทำตั๋วที่จองไว้เปลี่ยนไปด้วย และใช่ค่ะดูรีวิวมาพระอาทิตย์ตกช้า 2-3 ทุ่ม แต่ฤดูที่ไปจริงคือทุ่มหน่อยๆก็ตกแล้ว ระหว่างเรานั่งบัสมาที่ el chalten เลยไม่ได้เห็นวิวภูเขาสวยๆ แต่ก็ได้เห็นนิดนึง เป็นถนนที่สวยมากๆๆ มีแวะให้เข้าห้องน้ำระหว่างทางนะคะ ใช้เวลาเดินทางราวๆ 3 ชั่วโมงค่ะ
เมื่อเราถึง bus terminal ถ้า รร อยู่ใกล้สามารถเดินได้นะคะ หากไกลก็มีหนุ่มๆ grab มายืนรอรับเราไปส่งค่ะ สำหรับการเดิน trekking เรากับเพื่อนดูแอปสภาพอากาศแล้ว ตอนแรกว่าจะพักสักวันรุ่งเช้าเดินชิวๆ ก่อนค่อยไปเดินหนักเพราะวันนี้เดินทางมาเหนื่อยแล้ว แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจเลยค่ะ มีแค่วันพรุ่งนี้เท่านั้นที่เดินได้ เราเลยรีบเข้านอนเพื่อตื่นเช้าไปเดิน Laguna de los Tres ที่เค้าว่ากันว่าหินมาก
เดินไปกลับ 10 กว่าชั่วโมง ....
ติ๊งต๊องงงง ติ๊งต่องงงง นาฬิกาปลุกดัง เราเริ่มเดินออกจากโรงแรมเวลา 07.00 น
เนื่องจากที่พักเราอยู่ไกลนิดนึงต้องใช้เวลาเดิน เราเดินเท้าจากโรงแรม หาเสบียงและน้ำก่อนออกเดินทางตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เดินไปไฟฉายส่องเท้าไปค่ะ ทางเดินเริ่มแรกจะเป็นทางพื้นสลับบันได สำหรับค่าเข้าสถานที่ที่นี่ไม่มีนะคะ อยากเดินเข้าลูกไหนเดินได้เลยค่ะ เส้นทางชัดเจน มีป้ายบอกระยะทางเรื่อยๆ คนเดินเยอะไม่ต้องกลัวหลงค่ะ
เราเริ่มเดินไปเรื่อยๆ พระอาทิตย์ก็เริ่มขึ้นค่ะ พอพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้นแหละ ยังจำความรู้สึกนั่นได้อยู่เลยค่ะ ภูเขาลูกนั้น ใบไม้เปลี่ยนสีที่แดงไปทั้งภูเขา สุดใจไปเลยยยย ตายได้เลยของจริง การเดิน trekking อย่างที่เราเคยบอกไปในทุกๆรีวิว จังหวะการเดินของคนเราไม่เท่ากัน ดังนั้นแล้ว เพื่อนร่วมทริปเดินไม่ต้องรอกัน ใช่เวลาของตัวเองเต็มที่ดื่มด่ำบรรยากาศ อากาศดีแบบ 100% วิวสวยอีก 200% เพราะสุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ดีเดียวกัน ไปเจอกันข้างบนค่ะ จะได้ไม่กดดันกันเกินไป เสพความสุขเต็มที่ เราเดินเก็บภาพไปเรื่อย เพื่อนร่วมทางถ่ายรูปให้บ้าง ถ่ายเองบ้าง สนุกดีค่ะและหลังจากเที่ยวมา เกือบ 10 วัน ใช่ค่ะ เมืองนี้คนไทยมาเยอะมากกก อยู่ตั้งหลายวันไม่เจอเลยอ่อมาอยู่ที่นี่กันหมดนี่เอง


และทุกคนจะสังเกตเหนได้ว่าเดินไปถอดเสื้อไป คือเริ่มแรกก่อนเดินคือหนาวมากก พอเดินๆไปเหงื่อออกทั้งๆที่ อุณหภูมิเลขตัวเดียว เดินไปอีกลมแรงใส่เสื้อเพิ่ม งงอากาศมากสุด แต่โชคดีที่เราไม่เจอฝน อากาศฟ้าเปิด แต่เมฆเยอะไปหน่อย พยายามถ่ายมาให้เห็นพื้นสภาพถนนที่ต้องเดิน มีทั้งเรียบและบันได ส่วนตัวคิดว่าเดินง่ายอยู่ค่ะ ช่วงระยะทาง 8 กิโลเมตรแรก ก็คือแถวๆจุดกางเตนท์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยว 2 แบบคือ เดินวันเดียวเช้าเย็นกลับ กับอีกแบบคือ น้องที่จุดกางเตนท์แล้วไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้านบน ซึ่งเราเป็นบุคคลที่ยังไม่เคยลองนอนเตนท์กลางป่ากลางเขาเลย ถึงแม้จะชอบเดิน trekking มากก็ตาม เลยตัดสินใจเลือกเดินแบบไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งก็มีหลายๆคนทำ เราก็น่าจะทำได้เพราะนั่นแหละ รีวิวบอกว่าพระอาทิตย์ตกช้า เธอมีเวลาเดินถึง 3 ทุ่ม นู้นน เธอทำได้ ((บอกก่อนว่าเป็นหญิงสาวที่ไม่ออกกำลังกายใดๆ เลย ไปมาหลายทริปก็ไม่ออก เชื่อว่าตัวเองอึดมาก ไหวนะ และทริปนี้ก็ไปเดินออกกำลังกาย 1 วันถ้วนก่อนบิน ฮ่าๆๆ)) แต่พอมาเจอความสวยงามและการเดินทางเรียบที่หลอกเราตายใจมา 8 กิโลเมตร หลังจากนี้คือได้แต่บ่นในใจว่ามาทำไมวะเนี่ยย ฉันจะตายแล้ว ไม่เดินแล้วได้ไหม ร่างกายกับใจกำลังตบตีกันน อย่างมาก ไปค่ะ ไปกันต่อ....


หลังจากเดินข้ามสะพานมาเส้นทางที่ไม่ปราณาก็บังเกิน เป็นทางหินที่ชันมากๆๆ ไปดูคลิปยูทูปเบอร์ท่านหนึ่ง ถึงว่าทำไมพี่เค้าถึงถอดใจไม่ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ถึงบางอ้อค่ะ คือจากป้ายบอกจากตรงนี้ถึงยอดระยะทาง 1-2 กิโลเมตรถ้าจำไม่ผิด แต่ใช้เวลาเดินพอๆกับ 8 กิโลเมตรที่เดินมาเมื่อเช้า คือเดินไปพักทุกๆ 10 นาทีว่าได้ ขาสั่นมากๆๆ แต่ใจก็บอกต้องไปให้ถึงอีกนิดเดียวเรามาแล้ว แต่ปากก็บ่นว่าเอาร่างกายมาทรมานทำไม ฮ่าๆๆ
แต่สุดท้ายเราก็ทำได้ เรามาถึงจุดชมวิวด้านบนแล้วค้าาาาา .....วิวขนาดนี้หายเหนื่อยเลย
นั่งพักทานข้าว ดื่มด่ำวิวตรงหน้า แล้วพอมานั่งคิดๆๆ นี่ฉันต้องเดินลงอีกนะ ไม่อยากจะคิดเลย ช่วยมีม้าให้นั่งเหมือนที่จีนได้มั้ยยย ไม่ไหวคับ แต่ต้องไหว ไปค่ะ ไปกันต่ออออ สำหรับขาลงเราสบายมาก เดินแบบสับสับบบ เราโอเคกว่าขาขึ้น แต่เพื่อนเราโอเคกับขาขึ้น ไม่โอเคกับขาลง หรือขาเราไม่รู้สึกอะไรไปแล้วก็ไม่รู้5555555555 และใช่ค่ะเราถ่ายรูปไม่หยุด
สุดท้ายสิริรวมการเดินทางของเราไปกลับอยู่ที่ 12 ชั่วโมง ใช้ชีวิตแบบคุ้มค่ามากกก
จบการเดินทาง กลับเข้าโรงแรมแบบศพเดินได้มาก และเป็นมื้อที่ต้องการอะไรแซ่บๆ จบด้วยมาม่าจากไลย์แลนด์ต้มยำกุ้งเท่านั้นนน
Day 2 ใจจริงอยากให้พยากรณ์มั่วสักนิด แต่ไม่เลยค่ะ ฝนตก พายุแรงมากกก ออกไปซื้อของฝากเกือบกลับมา รร ไม่ทัน กะว่านอนสักพักฝนอาจจะหยุด อยากไปเดินรูทสั้นๆๆ ไม่หยุดสรุปได้พักของจริง ที่จริงใน el chalten แทบจะมีรูท trekking ทุกทิศทางเลยนะคะ แต่ด้วยอากาศไม่เอื้อ
เราได้เดินแค่รูทใหญ่ แต่สำหรับเราคือคุ้มค่ามากแล้ว ไว้มีโอกาสสัญญาว่าจะเก็บเงินมาอีก มาเดินให้ครบ อยากไปฝั่งชิลีด้วย ก็ใจมันรักการเดินเขา
จากนี้เป็นบรรยากาศรอบๆ ใน el chalten นะคะ อีกสิ่งที่ประทับใจแอบถ่ายไว้มากมายคือ แบบบ้านค่ะ บ้านที่นี่คือสวยทุกที่ ตั้งแต่ อูซัวยา el calafate el cahlten เอาบรรยากาศมาฝากค่ะ เป็นเมืองที่น่ารักก เราอยู่ที่ el chalten 2 คืน 3 วัน ประทับใจมากๆ นักท่องเที่ยวจากหลากหลายทั่วโลก กับบ้านเมืองที่น่ารักและสงบ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมคนถึงยอมเดินทางไกลมาเพื่อพิชิตเข้ายอดนี้ ถ้ามีโอกาศก็อยากให้ทุกคนลองมาสักครั้งค่ะ
จบไปแล้วกับ Laguna de los Tres รีวิวสั้นๆ ริวิวจากผู้เดินจริง สองเท้าของฉันทำสำเร็จแล้ว เดินฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย มีแต่ค่าใช้ใจ
[CR] Patagonia ดินแดนในฝันของนักเดินทาง (Argentina)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้