ลิมิตความอดทนควรสิ้นสุดที่ตรงไหน เมื่อความToxicเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว เราเจอความ Toxic จากบุพการีของเราเอง และตอนนี้เราตั้งครรภ์36w+4แล้ว เราทำอะไรไม่ไหวแล้วจริงๆ ซึ่งก่อนหน้าเราก็ฝืนทำมาตลอดการตั้งครรภ์เลยเพราะคิดว่าใกล้คลอด คนในบ้านหน้าจะให้เราหยุดบ้าง คาดหวังไป ลมๆแล้งๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่ท้อง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนในบ้านลายออกกันหมดแม้กระทั่งบุพการีเรา ด่าเราจะให้เรากินแต่กับข้าวอุ่นข้ามวัน คือถ้าไม่หมดก็ต้องอุ่นกินอยู่แบบนั้นอ่ะค่ะ ถ้าเราทำใหมาคือมีปัญหาเลย ละแฟนก็เป็นเขยไง ไม่มีใครกินอาหารข้ามวันขนาดนั้น แค่ไม่อร่อยคนปกติก็ไม่กินแล้ว เราใช้จ่ายค่ากับข้าวแค่วัน100ต้นๆ กลับกันเวลาที่เค้าว่าเราเค้าไปตลาด หมากโลละเกือบ400ก็ซื้อมาตุนเพิ่มทุกอาทิตย์ไปตลาดทีนึงไม่ต่ำกว่ส1-2พัน เราโดนด่าจนรู้สึกเป็นปมกับการทำกับข้าว พอเราทนไม่ไหว สวนกลับบ้างล่าสุดที่แรงมากๆก็เอามีดปังตามาจะfunเราทั้งๆที่เราก็ท้องแก่มากแล้ว รอดมาได้เพราะผลักมือเค้าออกแล้วขับรถหนีมาบ้านญาติ ยอมรับจริงๆเมื่อก่อนเราไม่เคยกลัวตายเลย อยากจายด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เราท้อง เรากลัว เพราะเราไม่ได้ตายคนเดียว ผ่านวันนั้นมาก็ยังมีประปราย ทะเลาะบ้างแต่เราเลือกไม่สู้ ส่วนใหญ่จะหลบมาร้องไห้คนเดียว เราพึ่งพาใครไม่ได้เลย อยากกินอะไรให้เค้าช่วยทำเค้าก็จะบ่น แล้วด้วยอารมณ์โฮโมนคนท้องด้วยหรือบางคนธรรมดาก็เป็นค่ะ คืออะไรที่เราขอให้เค้าช่วยแล้วเค้าบ่นปานว่าเราไปทำเค้าลำบากมากมาย เราก็ตัดบทเลยว่าไม่ต้องทำแล้ว ถ้าลำบากขนาดนั้น มันดูเป็นบุญคุณมากมายเหลือเกิน จนวันนี้เราก็เจออีกอายุครรภ์เราใกล้รลอดเต็มทีร่างกายก็ไม่เหมือนเดิม เรากินข้าวเที่ยงเสร็จมานั่งนับลูกดิ้น แต่รู้สึกจะเป็นลม (ตลอดการตั้งครรภ์เรามีภาวะนี้มาตลอด มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาที่เราไม่สามารถควบคุมได้เลยค่ะแต่ไม่บ่อย ส่วนใหญ่จะเป็นตอนออกไปข้างนอกนานๆหรือแดดร้อน วันนี้ทุกคนไม่มีใครอยู่บ้านเลย คนที่มีหน้าที่ทำงานก็ไปทำ แต่วันนี้บุพการีเราเค้าไปบ้านญาติใกล้ๆสัก700เมตร ไปตั้งแต่เช้า ซึ่งปกติแกต้องกลับมากินข้าวเที่ยง แต่วันนี้ไม่มีใครกลับมาเลย โทรหาแฟนก็ไม่รับเพราะทำงานอยู่ในไร่ ส่วนบุพการีเรา เราโทรไปเสียงญาติคุยเล่นกันเจี๊ยวจ๊าวตอนนั้นเป็นเวลาประมาณบ่าย2เราก็ถามว่า ยังไม่เสร็จหรอไปช่วยเขาห่อขนม เขาก็ว่าเสร็จแล้ว เราก็บอกว่าไม่กลับมากินข้าวรึไง รู้สึกไม่ดีเหมือนจะเป็นลม อยู่คนเดียวไม่มีคนอยู่บ้าน เขาก็ว่าจะเป็นลมก็ดมยาไปเพราะเขาจะยังไม่กลับนั่นกินขนมอยู่ ยอมรับเราก็เริ่มมีอารมณ์จริงๆค่ะเพราะมันแน่นหายใจไม่ดีมากๆเหมือนจะวูบ เราเลยบอกว่าไม่มีคนอยู่จะเป็นลมจะปล่อยให้หนูตายอยู่คนเดียวหรอ(ใจเราคือหวังพึ่งพาเค้าให้มาอยู่เป็นเพื่อนเพราะมันก็เป็นเวลานอนกลางวันของเขาเหมือนกันไม่ได้รบกวนอะไรขนาดนั้น)แต่เค้าตอบมาว่า ตายก็ตายคนเดียวสิ ใครจะไปตายกับ ตอนนั้นน้ำตสเราร่วงเลยค่ะ คำพูดแดกดันนั้นมันคืออะไร คำพูดแบบนี้ควรหลุดออกมาจากปากคนที่เรารักจริงๆหรอ เรามานั่งคิดย้อนไป มันเหมือนผิดที่เราเองตั้งแต่แรก กับดักความกตัญญู เรารักเค้า ดูแลเค้า เราท้องแก่ เค้าไม่สบาย4-5ทุ่มเรียกรถกู้ชีพพาไปหาหมอไม่มีใครวานได้เราก็ไป เคยทำงานได้งานดีๆแต่ไม่ได้อยู่บ้าน สังเกตเห็นว่าเค้าไม่มีคนกละบมาดูแลเราก็ทิ้งงานกลับมาอยู่ด้วย แต่พอกลับมาก๋มาเจออะไรแบบนี้ สารพันปัญหา ตอนแฟนเราอยู่เค้ามำท่าห่วงเราถามไถ่เราตลอดแค่นั่งเฉยๆก็ถามปวดท้องมั้ยอะไรมั้ย พอแฟนไม่อยู่ ลูกเราไม่ดิ้นผุดลุกผุดนั่งเป็น ชม.กระวนกระวายเค้าก็เดินผ่านไปมาเฉยๆ เราเหม็นควันไฟ(เค้าเอาเจาไว้ในบ้าน ไม่มีห้อง)แฟนเราอยู่เค้าก็เรียกบอกจะจุดไฟนะ เดี๋ยวเหม็นควัน พอตอนแฟนเราไม่อยู่ เราหลับอยู่ในบ้านเค้าก็จุดไฟไม่บอกจนเราตื่นมาคือควันมันอบอวนเต็มบ้านไปหมด แล้วคิดดูว่าควันกับคนท้องมันอันตรายขนาดไหน ยิ่งใช้เชื้อไฟเป็นยางรถด้วย เราก็โวยว่าทำไมไม่บอกเราจะได้หนีไปนอกบ้าน เค้าก็บอก ก็กูไม่อยากให้รู้ เราแบบ ห้ะ คือเค้าจะรมควันเรากับลูกหรอวะ เหตุการณ์ Toxicมีเยอะมากๆๆๆๆ อยากหนีไปจริงๆแต่ก็ท้องแล้วก็ไม่มีที่ไปด้วย ถ้าไปอยู่หับฟนก็เป็นแคมป์คนงายไกล รพ.สิทธิ์การรักษาเราอีก เราทนจนจะเป็นประสาทแล้วจริงๆ ขอโทษที่ยาวแล้วอาจจะไม่ปะติดปะต่อกันนะคะ เราเรียบเรียงไม่เป็น ขอโทษด้วยค่ะ
คนเราอดทนต่อความ Toxic ได้มากขนาดไหน..?