สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าแฟนคุณมีเพื่อนหนุ่มมารับส่งเหมือนที่คุณทำแบบเดียวกับเพื่อนคนนี้ คุณคิดว่าใจกว้างพอไหม การมีน้ำใจมีได้ แต่การมีน้ำใจเผื่อแผ่อาจจะต้องดูบริบทหลายๆอย่าง ถ้าคุณไม่มีรถเพื่อนคุณก็ต้องไปทำงานเอง วันไหนคุณย้ายที่ทำงานเพื่อนคุณก็ต้องไปเอง วันไหนคุณป่วย คุณต้องไปส่งลูกส่งเมีย คุณจะต้องไปส่งเพื่อนอีกไหม เพื่อนจะโกรธคุณมากเลยหรือเปล่า ถ้าไม่ไปรับส่งเขา
ความคิดเห็นที่ 11
เพื่อนผญคิดถึงแต่ความสบายตัวเองมาก ส่วนคุณไม่รู้มีเจตนาอื่นแอบแฝงมั้ยนะคะ
ถ้าเป็นเราไม่มีวันพึ่งคนอื่นทุกวันแบบนี้แน่ๆ และถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันจริง ต้องคิดถึงแฟนเพื่อนและว่าจะรู้สึกยังไง
ปฏิเสธเพื่อนไปค่ะ ยิ่งเพื่อนสนิทยิ่งพูดกันง่าย คนเราต้องใข้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ค่ะ จะพึ่งเพื่อนแบบคุณไปตลอดทั้งขีวิตหรอคะ เลือกที่จะหางานตรงนั้นแล้วแต่ต้องพึ่งคนอื่น แปลกมาก
แล้วคุณลองคิดดูนะคะถ้ามีผชอาสามาส่งแฟนทุกคนคุณจะรู้สึกแบบไหนคะ
***เน้นย้ำไว้เลยนะ อย่าเอาตัวเองไปผูกมัดและทำตัวเป็นคนมีน้ำใจจนเกินเหตุให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว วันไหนอยากจะสะบัด มันจะสะบัดไม่หลุด แม้จะไม่ใช่ในทางชู้สาวก็ตาม และมันจะอึดอัดจนหาทางออกยากมากในที่สุดถ้าคุณไม่คิดอะไร
ถ้าเป็นเราไม่มีวันพึ่งคนอื่นทุกวันแบบนี้แน่ๆ และถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันจริง ต้องคิดถึงแฟนเพื่อนและว่าจะรู้สึกยังไง
ปฏิเสธเพื่อนไปค่ะ ยิ่งเพื่อนสนิทยิ่งพูดกันง่าย คนเราต้องใข้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ค่ะ จะพึ่งเพื่อนแบบคุณไปตลอดทั้งขีวิตหรอคะ เลือกที่จะหางานตรงนั้นแล้วแต่ต้องพึ่งคนอื่น แปลกมาก
แล้วคุณลองคิดดูนะคะถ้ามีผชอาสามาส่งแฟนทุกคนคุณจะรู้สึกแบบไหนคะ
***เน้นย้ำไว้เลยนะ อย่าเอาตัวเองไปผูกมัดและทำตัวเป็นคนมีน้ำใจจนเกินเหตุให้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว วันไหนอยากจะสะบัด มันจะสะบัดไม่หลุด แม้จะไม่ใช่ในทางชู้สาวก็ตาม และมันจะอึดอัดจนหาทางออกยากมากในที่สุดถ้าคุณไม่คิดอะไร
ความคิดเห็นที่ 149
ปัญหาการเดินทางเป็นของเพื่อนค่ะ เพื่อนควรแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง อาจจะมีแนะนำบ้างในช่วงเเรก และให้เขาแก้ไขด้วยตัวเขาเอง มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณค่ะ
คุณบอกเพื่อนกันไม่ได้คิดอะไร
เมื่อก่อน ในความเป็นเพื่อน จะคุยกันก็แค่บางโอกาส
แต่นี้คุณกำลังจะได้เจอเขาทุกวัน อัพเดทสารทุกข์สุขดิบทุกวัน
ต่อให้ไม่ถามอะไรเลย คนนั่งรถมาด้วยกัน มันก็เห็นสีหน้า ว่าตอนนี้ อีกฝ่ายมีความสุข หรืออีกฝ่ายกำลังหน้าหม่นหมอง
เหตุการณ์ในรถที่เห็นก้วยกัน ตรงนั้นรถติดเนาะ
ตรงนี้มีร้านเปิดใหม่เหรอ อ้าว ร้านตรงนั้นปิดไปแล้ว
ตรงนี้ทำทางอีกละ เออวิทยุมรข่าวนี่พอดี เราอ่านเราดูมาเมื่อคืน แสดงทัศนคติ ฯลฯ กลายเป็นประสบการณ์ร่วม ที่มีคุณและเพื่อนพบเจอกันไปทุกวัน เล็กๆที่ไม่ต้องกลับไปเล่าให้แฟนฟัง แต่พวกคุณรู้กัน 2 คน
ถ้าก่อนหน้านี้ยังรู้จักกันไม่ดีพอ การพาเพื่อนนั่งรถไปด้วยทุกวัน ก็อานจะรู้จักดีขึ้นแบบ ไม่เกลียดหันไปเลย ก็เผลอห่วงใยโดยไม่รู้ตัว
เราเอาความคิดนี้มาจากไหน
เราเลิกกับผู้ชายคนนึงไป เพราะ small talk เล็กๆ ระหว่างการเดินทางระหว่างเขาและเพื่อนค่ะ
ยิ่งไปกันบ่อยๆ ผู้ชายยิ่งพูดถึงเพื่อนคนนั้นด้วยสายตาชื่นชม
วันที่มีเราไปด้วย ก็มักจะมีคำถามจาก ผญ ว่า ผช. ได้เล่าเรื่องนี้ให้เราฟังหรือยัง เป็นเรื่องที่เขาสองคนได้ไปเจอกันมา ผญ. เล่นมุกขำๆกับเรา แล้วหันไปบอกผชว่า อันนี้ผู้ชายรู้เเล้ว เคยเล่ยกับเขาเเล้ว ห้ามมาเฉลยเรานะ
ผู้หญิงที่ขาเจ็บข้างซ้าย ขับรถไปทำงานได้ด้วยใช้ขาขวา โทรหาแฟน(เก่า)เรา ให้ไปส่งที่ทำงานหน่อย เขาหากุญแจรถไม่เจอ แล้วก็ไปตั้งสเตตัสใน FB ว่า ไม่อยากขาเจ็บเลย เพราะต้องรบกวนให้แควนๆไปส่ง เราหึง เราวีน
ทั้งคู่บอกเราว่าไม่คิดอะไร เฟรนลี่เฉยๆ ผู้ชายบอกว่าเราคิดมาก ประสาทแดก toxic ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเขา ถ้าจะเลิกก็เลิกเราคงเข้ากันไม่ได้
ผ่านไป 1 ปี เขาก็ลงรูปเเทคกัน เพื่อนๆร่วมแสดงความยินดี ถามหาวันแต่งงาน
เราทักไปถามว่า นี่หรือคนที่ไม่คิดอะไรกัน เขาบอกเราว่า เขาเพิ่งรู้สึกดีต่อกัน ขอบล็อคเราละกัน เราจะได้ไม่ต้องเห็นภาพบาดใจ
จุกเริ่มต้นมาจาก การนั่งรถคันเดียวกัน ไปออกทริปดูนกกัน ทุกวัน เสาร์ หรืออาทิตย์ หรือหยุดนักขัตฤกษ์เองนะ
ไม่ได้รับส่งไปทำงานทุกวัน แบบที่คุณกำลังจะทำด้วยซ้ำ
แต่ถ้าคุณมองงว่า ปัญหาของเพื่อน ควรมาเป็นปัญหาในครอบครัวด้วย มองแฟนว่าระแวง toxic คิดมากไปเอง
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องรักษาแฟนคนนี้ไว้ เพราะเพื่อนสำคัญกว่า ก็ทำเลยค่ะ ไม่ต้องบอกอะไรแฟนคุณหรอก
วันนี้คุณไม่คิดอะไรกับเพื่อนคนนี้ อนาคตบอกไม่ได้
เผื่อแฟนคุณจะได้มีเรื่องเล่าเป็นกรณีศึกษาแบบเราค่ะ
คุณบอกเพื่อนกันไม่ได้คิดอะไร
เมื่อก่อน ในความเป็นเพื่อน จะคุยกันก็แค่บางโอกาส
แต่นี้คุณกำลังจะได้เจอเขาทุกวัน อัพเดทสารทุกข์สุขดิบทุกวัน
ต่อให้ไม่ถามอะไรเลย คนนั่งรถมาด้วยกัน มันก็เห็นสีหน้า ว่าตอนนี้ อีกฝ่ายมีความสุข หรืออีกฝ่ายกำลังหน้าหม่นหมอง
เหตุการณ์ในรถที่เห็นก้วยกัน ตรงนั้นรถติดเนาะ
ตรงนี้มีร้านเปิดใหม่เหรอ อ้าว ร้านตรงนั้นปิดไปแล้ว
ตรงนี้ทำทางอีกละ เออวิทยุมรข่าวนี่พอดี เราอ่านเราดูมาเมื่อคืน แสดงทัศนคติ ฯลฯ กลายเป็นประสบการณ์ร่วม ที่มีคุณและเพื่อนพบเจอกันไปทุกวัน เล็กๆที่ไม่ต้องกลับไปเล่าให้แฟนฟัง แต่พวกคุณรู้กัน 2 คน
ถ้าก่อนหน้านี้ยังรู้จักกันไม่ดีพอ การพาเพื่อนนั่งรถไปด้วยทุกวัน ก็อานจะรู้จักดีขึ้นแบบ ไม่เกลียดหันไปเลย ก็เผลอห่วงใยโดยไม่รู้ตัว
เราเอาความคิดนี้มาจากไหน
เราเลิกกับผู้ชายคนนึงไป เพราะ small talk เล็กๆ ระหว่างการเดินทางระหว่างเขาและเพื่อนค่ะ
ยิ่งไปกันบ่อยๆ ผู้ชายยิ่งพูดถึงเพื่อนคนนั้นด้วยสายตาชื่นชม
วันที่มีเราไปด้วย ก็มักจะมีคำถามจาก ผญ ว่า ผช. ได้เล่าเรื่องนี้ให้เราฟังหรือยัง เป็นเรื่องที่เขาสองคนได้ไปเจอกันมา ผญ. เล่นมุกขำๆกับเรา แล้วหันไปบอกผชว่า อันนี้ผู้ชายรู้เเล้ว เคยเล่ยกับเขาเเล้ว ห้ามมาเฉลยเรานะ
ผู้หญิงที่ขาเจ็บข้างซ้าย ขับรถไปทำงานได้ด้วยใช้ขาขวา โทรหาแฟน(เก่า)เรา ให้ไปส่งที่ทำงานหน่อย เขาหากุญแจรถไม่เจอ แล้วก็ไปตั้งสเตตัสใน FB ว่า ไม่อยากขาเจ็บเลย เพราะต้องรบกวนให้แควนๆไปส่ง เราหึง เราวีน
ทั้งคู่บอกเราว่าไม่คิดอะไร เฟรนลี่เฉยๆ ผู้ชายบอกว่าเราคิดมาก ประสาทแดก toxic ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเขา ถ้าจะเลิกก็เลิกเราคงเข้ากันไม่ได้
ผ่านไป 1 ปี เขาก็ลงรูปเเทคกัน เพื่อนๆร่วมแสดงความยินดี ถามหาวันแต่งงาน
เราทักไปถามว่า นี่หรือคนที่ไม่คิดอะไรกัน เขาบอกเราว่า เขาเพิ่งรู้สึกดีต่อกัน ขอบล็อคเราละกัน เราจะได้ไม่ต้องเห็นภาพบาดใจ
จุกเริ่มต้นมาจาก การนั่งรถคันเดียวกัน ไปออกทริปดูนกกัน ทุกวัน เสาร์ หรืออาทิตย์ หรือหยุดนักขัตฤกษ์เองนะ
ไม่ได้รับส่งไปทำงานทุกวัน แบบที่คุณกำลังจะทำด้วยซ้ำ
แต่ถ้าคุณมองงว่า ปัญหาของเพื่อน ควรมาเป็นปัญหาในครอบครัวด้วย มองแฟนว่าระแวง toxic คิดมากไปเอง
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องรักษาแฟนคนนี้ไว้ เพราะเพื่อนสำคัญกว่า ก็ทำเลยค่ะ ไม่ต้องบอกอะไรแฟนคุณหรอก
วันนี้คุณไม่คิดอะไรกับเพื่อนคนนี้ อนาคตบอกไม่ได้
เผื่อแฟนคุณจะได้มีเรื่องเล่าเป็นกรณีศึกษาแบบเราค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7
เป็นเรา เราก็ไม่โอเคค่ะ
ถ้าไม่มีคุณ เพื่อนไปกลับเองได้ไหม ถ้าได้ ก็แสดงว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำ
คุณดัน priority ความรู้สึกของเพื่อนผญ มากกว่า ความรู้สึกของแฟน เป็นใครก็น้อยใจค่ะ
หลายๆความเห็นให้แนวคิดที่ดี คือลองเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ
ถ้ามีเพื่อนผช ไปรับไปส่งแฟนคุณทุกวัน นั่งรถด้วยกันสองต่อสองทุกเช้าเย็น
ถ้าคุณโอเค ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ก็บอกแฟนตามนี้เลยค่ะ ว่าถ้าเธอทำบ้าง เราโอเคนะ ทำได้เลย
แฟนคุณจะได้ใช้เหตุผลนี้ประกอบการตัดสินใจด้วยว่าจะยังไงต่อไป
ถ้าไม่มีคุณ เพื่อนไปกลับเองได้ไหม ถ้าได้ ก็แสดงว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำ
คุณดัน priority ความรู้สึกของเพื่อนผญ มากกว่า ความรู้สึกของแฟน เป็นใครก็น้อยใจค่ะ
หลายๆความเห็นให้แนวคิดที่ดี คือลองเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ
ถ้ามีเพื่อนผช ไปรับไปส่งแฟนคุณทุกวัน นั่งรถด้วยกันสองต่อสองทุกเช้าเย็น
ถ้าคุณโอเค ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ก็บอกแฟนตามนี้เลยค่ะ ว่าถ้าเธอทำบ้าง เราโอเคนะ ทำได้เลย
แฟนคุณจะได้ใช้เหตุผลนี้ประกอบการตัดสินใจด้วยว่าจะยังไงต่อไป
แสดงความคิดเห็น
รับส่งเพื่อนสนิทไปทำงานด้วย พูดยังไงให้แฟนเราสบายใจ