จากที่เคยโพสต์เรื่องนี้ไป
เมื่อเหตุบังเอิญ มาบรรจบกันพอดีของ ทักษิณ - AIS - สารัชถ์ - สมชัย - พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ต้นปี 66
จากเหตุบังเอิญ กำลังกลายเป็น ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) จริงตามที่เคยบอกไปแล้ว
ต้องบอกว่า การวางแผนครั้งนี้ แยบยล และมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดีแล้วของใครบางคน หรือกลุ่มคนที่เคยเสียผลประโยชน์กำลังจะกลับมาทวงคืนผลประโยชน์ของตัวเองคืนหรือไม่ ?
เพราะสารัชถ์ แทบจะเข้ามารับธุรกิจของเครือ ชินคอร์ป (เดิม) ไปหมดแล้ว ยังไม่นับรวมที่มีข่าวลือว่า เคยไปหาพี่โทนี่ที่สิงค์โปร์ด้วย ยิ่งทำให้เห็นว่า มหาเศรษฐีคนนี้ กับกลุ่มทุนพลังงาน ที่เข้ามาคุมธุรกิจโทรคมนาคม เป็นเรื่องที่ ‘น่าค้นหา’ และน่าสนใจว่ามีอะไรบ้างที่อยู่ ‘เบื้องหลัง’ อีกหรือเปล่า ?
มหาเศรษฐีที่หลีกเลี่ยงงานสังคม แทบไม่มีภาพถ่ายปรากฏในสื่อ และให้สัมภาษณ์น้อยครั้งมาก ขณะเดียวกัน แม้ธุรกิจของเขาจะเป็นธุรกิจสัมปทาน เกี่ยวข้องกับรัฐโดยตรง แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นเขาปรากฏตัวในงานแถลงข่าว ในงานเลี้ยง หรืองานใดๆ ข้อคิดและข้อเขียนจากสารัชถ์จะปรากฏก็แต่ในรายงานประจำปีของกัลฟ์เท่านั้น (The Momentum; 6 Sep 2022)
ล่าสุด อาศัยจังหวะชุลมุน แอบประกาศควบรวมกันแบบเงียบๆ แบบเนียนๆ
ตอนหัวค่ำเกือบประมาณ 3-4 ทุ่ม เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ค. 2567 บางสื่อถึงขั้นต้องปิดการแสดงความคิดเห็นในโพสต์ให้ทันที
(ก็แค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องปิดเมนท์ด้วย)
วงการตลาดหุ้นไทย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) ประกาศควบรวมกิจการ จัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo) เหลือแค่บริษัทเดียวเท่านั้น
โดยสรุปให้เข้าใจง่าย นี่คือดีลบริษัท A+B ได้ออกมาเป็นบริษัท C แล้วผู้ถือหุ้นเดิมสามารถนำหุ้นของ GULF หรือ INTUCH มาแลกเป็นบริษัทใหม่ได้ ดังนี้
• 1 หุ้น GULF ต่อ 1.02974 หุ้นใน NewCo
• 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้นใน NewCo (ไม่รวมหุ้น 47.37% ที่ GULF ถือหุ้น INTUCH ก่อนหน้านี้
โดยมีผู้ที่ได้ประโยชน์ในระยะสั้น คือผู้ถือหุ้น INTUCH รวมถึงบริษัท SINGTEL ที่ถือสัดส่วน 23.31% ซึ่งจะได้รับการจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรสะสมของบริษัท จำนวน 4.5 บาทต่อหุ้น
ซึ่งการควบรวมครั้งนี้ บริษัทใหม่ (NewCo) จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer หรือ VTO) ทั้งหมด
• บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ในสัดส่วน 36.25% กำหนดไว้ที่ราคา 216.30 บาท
• และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (THCOM) ในสัดส่วน 58.86% กำหนดไว้ที่ราคา 11.00 บาท
ส่งผลให้ราคาของทั้งหุ้น ADVANC กับ THCOM อาจจะอยู่แบบคงที่หรือมีการเคลื่อนไหวไม่มาก เนื่องจากถูกกดดันจากราคา Tender Offer ที่ต่ำกว่าตลาดซื้อขายเสียอีก
Thai PBS รายงานว่า "มูลค่าหุ้นที่สารัชถ์ถือครองก็อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ทุกปี"
• ปี 2562 ปีแรกที่ก้าวขึ้นครองแชมป์ สารัชถ์มีความมั่งคั่งรวม 120,959.99 ล้านบาท
• ปี 2563 ความมั่งคั่งลดลง เล็กน้อย แต่ก็อยู่ในระดับมากกว่า 1 แสนล้านบาท (115,289.99 ล้านบาท)
• ปี 2564 ทะยานแบบก้าวกระโดดสู่ 173,099.73 ล้านบาท
• ปี 2565 พุ่งทะลุไปถึง 218,981.58 ล้านบาท
• และในปี 2566 ลดลง แต่ก็ยังเป็นอันดับ 1 ที่ 190,828.06 ล้านบาท
ถามว่า การควบรวมกิจการครั้งนี้ ระหว่าง GULF และ INTUCH คงไม่มีนักการเมือง หรือกลุ่มเห็นต่างกล้าพูด หรือคัดค้านอย่างแน่นอน
เพราะเคยมีเป็นตัวอย่างแล้ว กับ
"ปฏิบัติการตบปากด้วยกฎหมาย" เรียกค่าเสียหายข่มขู่เพื่อปิดปาก หรือในภาษาอังกฤษที่เราเรียกกันว่า "SLAPP Law" ฟ้องปิดปาก จนนำมาสู่การที่พรรคก้าวไกลเสนอแก้กฎหมาย วิ.แพ่ง + วิ.อาญา หวังหยุดคดี SLAPP
"ปิดปากการมีส่วนร่วม" ของภาคประชาชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บอกเลยว่า จากเป็นเจ้าของธุรกิจพลังงานที่สำคัญที่สุดของประเทศ ยังรวมไปถึง ธุรกิจสื่อสาร (AIS) ธุรกิจดาวเทียม(ไทยคม) ธุรกิจท่าเรือ (ในนามธุรกิจร่วมทุน บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (GPC) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 ร่วมกับ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) ถือหุ้น 30%) และอีกมากมายหลายๆ ธุรกิจ เรียกได้ว่ามีแทบจะทุกอุตสาหกรรม
ประจวบกับเหตุบังเอิญ อีกแล้ว !!!
โดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ได้กล่าวถึงการปรับค่าไฟฟ้าไว้น่าสนใจว่า
• การปรับค่าไฟฟ้าหรือค่า Ft ครั้งนี้ ถือเป็นการผลักภาระให้แก่ประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม
• รัฐบาลกลับพยายามจำกัดการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. แต่เปิดช่องให้ บ.เอกชน ผลิตไฟฟ้าขายให้กับ กฟผ. ได้ และปล่อยให้ บ.เอกชนหาประโยชน์จากนโยบายรัฐ ทำสัญญาระยะยาวผูกขาดการขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.
• หากินกับการสำรองไฟฟ้า ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย ทำให้การสำรองไฟฟ้าที่สูงมากเป็นต้นทุนแฝง แถมเป็นภาระของผู้ใช้ไฟฟ้า เอื้อประโยชน์ให้กับบ.เอกชน ซึ่งเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย ที่ทำให้คนไทยต้องใช้ไฟฟ้าแพงมานานนับสิบปี
จาก Shin สู่ Gulf จาก Gulf จะกลับไปสู่ Shin อีกไหม ?
'ชินคอร์ป' ของใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เค้าคนนี้ อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง !!!
เรียกได้ว่า สารัชถ์ ช็อปปิ้งทุกบริษัทเก่าของทักษิณกลับมารอไว้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ภายใต้ชื่อ GULF
ทั้ง AIS และ Thai Com กลับมาอยู่ในมือเรียบร้อย
ดังนั้น เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว หลังวันที่ 22 ส.ค. 67
ทักษิณ จะพ้นโทษ ได้ใบบริสุทธิ์ เป็นปชช.ปกติ แบบไร้เงื่อนไขใดใด
เราอาจจะได้เห็นคนถือหุ้นใหญ่บริษัทใหม่ ที่คุมทั้งธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจดิจิทัล
ที่มีนายใหญ่อยู่เบื้องหลังก็เป็นได้
เพราะตอนนี้คอมเมนท์ในโชเขียลเองก็เป็นเอกฉันท์แล้ว
รู้ๆ อยู่ว่าใครกำลังจะกลับมา
รู้หรือยัง ... ตกลงใครอยู่เบื้องหลังสารัชถ์ ???
เพราะสารัชถ์ แทบจะเข้ามารับธุรกิจของเครือ ชินคอร์ป (เดิม) ไปหมดแล้ว ยังไม่นับรวมที่มีข่าวลือว่า เคยไปหาพี่โทนี่ที่สิงค์โปร์ด้วย ยิ่งทำให้เห็นว่า มหาเศรษฐีคนนี้ กับกลุ่มทุนพลังงาน ที่เข้ามาคุมธุรกิจโทรคมนาคม เป็นเรื่องที่ ‘น่าค้นหา’ และน่าสนใจว่ามีอะไรบ้างที่อยู่ ‘เบื้องหลัง’ อีกหรือเปล่า ?
มหาเศรษฐีที่หลีกเลี่ยงงานสังคม แทบไม่มีภาพถ่ายปรากฏในสื่อ และให้สัมภาษณ์น้อยครั้งมาก ขณะเดียวกัน แม้ธุรกิจของเขาจะเป็นธุรกิจสัมปทาน เกี่ยวข้องกับรัฐโดยตรง แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นเขาปรากฏตัวในงานแถลงข่าว ในงานเลี้ยง หรืองานใดๆ ข้อคิดและข้อเขียนจากสารัชถ์จะปรากฏก็แต่ในรายงานประจำปีของกัลฟ์เท่านั้น (The Momentum; 6 Sep 2022)
ล่าสุด อาศัยจังหวะชุลมุน แอบประกาศควบรวมกันแบบเงียบๆ แบบเนียนๆ
• บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ในสัดส่วน 36.25% กำหนดไว้ที่ราคา 216.30 บาท
• และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (THCOM) ในสัดส่วน 58.86% กำหนดไว้ที่ราคา 11.00 บาท
ส่งผลให้ราคาของทั้งหุ้น ADVANC กับ THCOM อาจจะอยู่แบบคงที่หรือมีการเคลื่อนไหวไม่มาก เนื่องจากถูกกดดันจากราคา Tender Offer ที่ต่ำกว่าตลาดซื้อขายเสียอีก