ประสบการณ์ 1 ปีของเด็กจบใหม่ ในสายงานออกแบบก่อสร้าง ที่ต้องดีลกับผู้รับเหมาด้วยตัวเอง

เรื่องของเรื่องคือเราต้องดีลงานกับช่างและผู้รับเหมา ด้วยความรู้จากห้องเรียนสถาปัตยกรรมแบบตรงสาย 5 ปี ผ่านการฝึกตอนช่วงปี 3 ปี 4 รวม 3-4 เดือน แทบไม่เคยดีลงานกับช่างเลย จนกระทั่งเรียนจบและเข้าทำงานที่นี่ บริษัทออกแบบและรับเหมา เป็นออฟฟิศเล็กๆ สมาชิกรวมหัวหน้าสัก 5 คนได้ ไม่มีทีมช่างรับเหมาเป็นของตัวเอง แต่ก็มีเจ้าประจำเป็นซับอยู่บ้าง

ระหว่างทำงานแปดเดือนแรก เราก็มีคุยกับช่างรับเหมาบ้างประปราย แต่ตั้งแต่เริ่มเดือนที่ 9 จนตอนนี้ทำงานที่นี่มา 1 ปีเต็ม ก็มีให้คุยกับผู้รับเหมาคนนึง รวมถึงหัวหน้าช่างอีกหนึ่งคนในทีมรับเหมาด้วย เพื่อเคลียร์แบบและรับรู้ปัญหาหน้างาน ของงานรีโนทเวทบ้าน 3 หลัง ต้องเตรียมใจทุกครั้งที่ต้องคุยกับช่างหรือรับเหมารายนี้ คงเพราะด้วยเรายังใหม่มากกับวงการนี้ แถมไม่มีชั้นเชิงอะไรให้ไปดีลงานอย่างราบรื่น บางครั้งก็เป็นแค่ทางผ่านรับส่งสารระหว่างทีมรับเหมากับหัวหน้า แต่หลายๆ ครั้งเราต้องเป็นคนเคลียร์แบบ สรุปแบบกับช่างเอง ศัพท์ช่างก็เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ซึ่งพยายามเข้าใจและเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด และด้วยความรู้อันน้อยนิดของเรากับงานก่อสร้างจริง ทำให้เราไม่สามารถตอบโต้พวกเขาได้ทันทีอย่างมั่นใจ กลายเป็นว่าตอนนี้เวลาเค้าถามเราเรื่องแบบ เราตอบไป เค้าก็อาจจะมีท่าทีอิดออด ว่าชัวร์นะ แน่นะ คอนเฟิมกับหัวหน้ารึยัง

ปัญหาอีกอย่างคือ แบบที่ไม่ละเอียด ซึ่งตรงนี้เรายอมรับและรับรู้ตั้งแต่แรกว่าแบบมันจะไม่ละเอียดนะ และหัวหน้าเราก็ไม่ได้ต้องการแบบที่ละเอียดไปมากกว่านั้น ตรงไหนไม่เคลียร์ก็ค่อยๆมาเคลียร์กันไป ด้วยความที่เป็นงานรีโนเวท วัดระยะและทำแบบกันเองกับทีมสองคน แต่รับเหมาเค้าก็คงหงุดหงิดกับแบบที่ไม่เคลียร์ ต้องคอยมาถามทุกครั้งว่าตรงนี้อะไรยังไง แต่เค้าก็ยังโทรมาถามเรานะ บางครั้งก็คุยจบช่างทำตามได้ไม่มีปัญหา บางครั้งก็มีอิดออด จนวันก่อนเค้ามาพูดกับเราต่อหน้าแบบทีเล่นทีจริงว่าเขียนแบบไม่เคลียร์เลยนะ ต้องให้ถามตลอด // ใช่! ทำไม บางจุดมันต้องถามด้วยหรอ ในแบบมีเขียนชัดเจน บางครั้งช่างอ่านแบบผิด ดูเลขผิด ก็มาโวยวายใส่เราแบบใส่อารมณ์ ..เราก็พยายามทนมาตลอด คิดกับตัวเองว่าทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมเหมือนเราทำมันได้ไม่ดีเลย ที่ผ่านมาเราทำถูกไหม หรือควรทำอะไรยังไง ที่ผ่านมา 1 ปีเหมือนเราแหวกว่ายหาทางไปอยู่ในหาดโคลน ไม่เจอแสงสว่าง และแทบไม่ไปไหน เครียดมากนะ วันนี้เลิกงานกลับมานอน พอตื่นมาอยู่ๆ นึกถึงเรื่องการดีลกับช่าง น้ำตาก็ไหล และเครียดจนจะอ้วก มันคงเก็บกดและกดดันกับตัวเอง ตัดสินใจไปอาบน้ำให้สบายใจ พยายามคิดระบายกับตัวเองจนสุดท้ายก็อ้วกออกมาจริงๆ โล่งขึ้นเยอะ อารมณ์เหมือนตอนอ้วกให้สร่างเลย ยิ้ม

ขอเล่าอีกนิดนึงถึงช่วงฝึกงาน ตอนฝึกงานปี 4 ตอนนั้นก็รู้สึกเครียดแบบจะอาเจียนด้วยเหมือนกัน แต่เป็นจากคำพูดของเจ้าของออฟฟิศที่เป็นหัวหน้าของทุกคน และตอนนั้นเราก็รู้ว่า ถ้าเราเลือกได้ เราขอไม่เลือกหัวหน้าแบบนี้ ถึงแม้สภาพแวดล้อมออฟฟิศจะดีมากและพี่ๆในทีมทุกคนใจดี และวันนี้เราเลือกทำงานในที่ที่มีหัวหน้าที่ดูเหมือนจะเข้าใจ และไม่มีคำพูดแย่ๆ หรือเชิงลบใส่เรา หรืออาจเรียกได้ว่ามีชั้นเชิงในการพูดสุดๆ แต่ก็ไปเจอสิ่งใหม่กับความบั่นทอนแบบ 200%

และก็สงสัยนะ ว่าถ้าแบบมันไม่เคลียร์ขนาดนี้แล้วเค้าจะไม่พอใจกับความวุ่ยวายของการเคลียร์แบบ เค้าจะรับงานนี้ทำไม ทำไมยังรับงานจากทีมเราอยู่
จนถึงตอนนี้ถ้ามีผู้อ่าน ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ถือว่าเป็นการระบายละกัน เพราะเราจะไปต่อ เราจะไม่ยอมแพ้ให้กับช่างทีมนี้ เพราะดูแล้วเค้าก็เชิงจะเล่เหลี่ยมไม่เบา แล้วยังชอบเอาอารมณ์มาลงกับเราจัง แต่เจอหัวหน้าเราพูดเป็นหงอยทุกที 😈 
แต่ถ้าท่านไหนมีคำแนะนำ วีธีการรับมือ เรื่องเล่า ประสบการณ์ หรือมุมมองกับเรื่องนี้ยังไง ถ้าจะกรุณาแบ่งปันก็ยินดีมากๆ
ปล. ปกติชอบมาหาอ่านความเห็นในพันทิป ถ้าแท็กห้องผิดขออภัยด้วยนะคะ เพิ่งสมัครมากระทู้แรกเลย ในหัวมันมีอะไรตีกันเต็มไปหมด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่