เงินเดือนฐาน 90,000 ไม่รวม OT, และ incentive สามารถออกรถยุโรปป้ายแดงได้มั้ยคะ

เพิ่มเติม: ขอบคุณความเห็นทุกคนมากๆค่ะ มีอีกหลายมุมมองที่คอยแนะนำค่ะ ตอนนี้เลยลองคิดว่าถ้าผ่อน 4 ปี (ดาวน์ 20% ดอก 2.79%) ย่นระยะเวลาดูเพื่อไม่ให้มันนาน แต่รายจ่ายก็จะเพิ่มขึ้นอีก 11% โดยประมาณ จากเดิมต้องผ่อนเดือนละ 42k ขยับเป็น 47k ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 48.78% ของรายได้ ถ้าผ่อนไม่นานน่าจะรู้สึกยกหนี้ออกจากอกได้เร็วขึ้นค่ะ 

สำหรับหลายๆท่านที่ถามเรื่องงานเข้ามา หนูอยู่สาย commercial ค่ะ หนูโชคดีที่เริ่มต้นการทำงานในบริษัทที่เห็นโอกาสในตัวหนูค่ะ เลยโตไวค่ะ หัวหน้าคนแรกดีมากกกกกกกกก หนูก็โชคดีที่โตไว้ด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้สอบถาม และขอแนวทางในการตัดสินใจค่ะ รบกวนไม่ดราม่าหรือต่อว่าใดๆนะคะ เนื่องจากอยากทราบหลายๆความเห็นค่ะ
อยากให้พี่ๆช่วยกันวิเคราะห์ หรือเตือนสติก่อนจะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ให้ความรู้และขอคำแนะนำด้วยนะคะ

รถที่ดูไว้เป็น audi, benz, bmw ประมาณ 2.8-3.1 ล้านต้นๆค่ะ
การซื้อจะเป็นดาวน์ 20% ดาวน์ 600k, ผ่อนไม่เกิน 43,000 ค่ะ ผ่อน 5 ปีค่ะ

condition งานเราเป็นตำแหน่ง senior manager บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งค่ะ อายุ 28 ปี งานรวมๆ 6 ปีค่ะ หนี้มีบัตรเครดิตที่จ่ายตรงทุกงวดค่ะ ใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น ไม่มีขั้นต่ำค่ะ
สามี (จดทะเบียน) ทำงานอยู่บ.ใหญ่เช่นกันค่ะ เงินเดือน 113,000 ยังไม่รวมโบนัสใดๆ สามีไม่มีหนี้สินค่ะ บัตรเครดิตใช้ของเรา จ่ายตรงทุกงวด มีผ่อน 0% เครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

เราแพลนอยากซื้อรถค่ะ เป็นเงินเรา 100% และชื่อรถเป็นชื่อเราค่ะ
เงินเดือนกลม 100,000 (OT ได้ทุกเดือน มีเบิกค่าโทรศัพท์ได้ด้วยค่ะ)
ค่ารถ 43,000 cost อื่นๆค่าน้ำมันน่าเสื่อม สามีจ่ายให้ค่ะ เพราะถือว่าช่วยด้วยกัน
ค่าคอนโดเดือนละ 10,000
ยังเหลืออยู่ประมาณ 47,000 ค่ะ

เลยอยากทราบว่าพอจะเป็นไปได้มั้ยคะ เราคิดกลมๆว่าถ้าซื้อรถ เงินเดือนควรจะเป็น 2 เท่าของค่าผ่อนค่ะ ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้าซื้อแล้วมีความสุข เอาเลยค่ะ จากที่แจ้งมา เงินคุณพออยู่แล้ว

(ขอแก้ไขเพิ่มเติม “พอ” ที่ว่านี่คือเงินไม่หมดค่ะ แต่ financial experts แนะนำให้ค่าผ่อนรถไม่เกิน 10% ของรายได้นะคะ ไม่ใช่ครึ่งนึงแบบที่คุณคิด แนวคิดนั้นทำลายความมั่นคงทางการเงินได้เลย)

แปลว่าที่ผ่านมาคุณต้องมีเงินเก็บเดือนละ 80,000 ใช่ไหมคะ
คูณ 6 ปี ก็น่าจะมีเงินสดเก็บไว้ 5 ล้านกว่า ถ้ามีเท่านี้จริงๆ เงินที่คุณเอาไปซื้อรถมันไม่เปลี่ยนชีวิตคุณมากแน่นอน

แต่ถ้าไม่มีเงินเก็บเท่านั้น แล้วที่ผ่านมาคุณใช้จ่ายส่วนมากไปเกือบทั้งหมด งั้นก็ต้องรู้ไว้ว่าการผ่อนรถเดือนละสี่หมื่นกว่า มันจะไปลดไฟ์สไตล์คุณตรงอื่นอย่างแรง ต้องเตรียมใจรับความอึดอัดนี้ไว้นะคะ

มันมีสิ่งที่เรียกว่า Hedonic Treadmill หรือลู่วิ่งความสุข ที่อธิบายว่าไม่ว่าเราจะยกระดับชีวิตหรือประสบความสำเร็จอะไรมากแค่ไหน สุดท้ายความสุขที่เพิ่มเข้ามามันจะลดลงจนกลับสู่สภาพเดิม เหมือนไม่เคยได้สิ่งเหล่านั้นมา ค่าเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2 ปี แต่ยุครีบเร่งนี้คนมักจะเบื่อเร็วขึ้น (ซึ่งก็เป็นเหตุให้คนไม่น้อยแพ้ใจตัวเองแล้วต้องซื้อของใหญ่ชิ้นใหม่ทุกๆ ปีสองปี) พอคุณผ่อนรถไปได้ 2 ไม่ถึงปี ความรู้สึกจะไม่ต่างจากตอนนี้อีกรอบ ก็ต้องถามว่าคุ้มกับเดือนละสี่หมื่นไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่