จาก Reception สู่ GM (ในเวลา 5 ปี) เรียกผมว่า Job Hopper.

วันนี้ขอมาแชร์ปสก.เกี่ยวกับการทำงานสายโรงแรมให้เพื่อนๆได้ร่วมแสดงความคิดเห็นกันครับ เราคงจะคุ้นเคยกับคำพูดที่ว่า เงินเดือนในพันทิป...มักสูงเสมอ กระทู้นี้เลยจะข้ามเรื่องตัวเงินไปละกันครับ เพื่อลดดราม่า
เข้าเรื่องเลยนะครับ

กาลครั้งหนึ่ง เมื่อ13ปีก่อน ชายหนุ่มวัย23 เรียนจบเอกภาษาอังกฤษ จาก มหาวิทยาลัยย่านกำแพงแสน นครปฐม ตัดสินใจลองสมัครงานโรงแรมแถวสุขุมวิท ทำงานได้3เดือน เด็กหนุ่มไม่ผ่านทดลองงาน เพราะติดเล่น มาสายบ่อย และไม่เข้าใจการทำงานเป็นทีม ว่าการมาสายของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานกะก่อนหน้าต้องกลับบ้านช้าไปอีก

หลังจากนั้น เด็กหนุ่มคนนั้นก็ได้ไปทำงานอีกหลายที่ ทั้งสำนักพิมพ์, call center, เซลส์ขายรถยุโรป, บริษัทรับจัดหางาน เวลาผ่านไป จากเด็กจบใหม่ กลายเป็นชายอายุ30 ที่ยังมองหาลู่ทางในอาชีพให้ตัวเองไม่เจอ
ด้วยความอินดี้ เลยทิ้งเงินเดือนหนุ่มออฟฟิศย่านสาทร สมัครงานโรงแรมที่เกาะทางใต้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องปาร์ตี้วันพระจันทร์เต็มดวง จุดเริ่มต้นของการอัพเลเวลไวยิ่งกว่าตั๋วช้าง  ได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้

April 2017 Guest Service Agent รีสอร์ท 5ดาว ได้เรียนรู้การบริการแบบเหนือความคาดหมาย แก้ปัญหาตั้งแต่ลูกค้าไม่ชอบห้อง ไวไฟช้า แขกตกบันไดเป็นแผล แขกโดนแมงกะพรุนกล่อง เอาสปีดโบ้ทออกไปช่วยแขกที่พายคายัคแล้วโดนน้ำพัดออกทะเล

August 2017 มีโรงแรมอีกที่เปิดรับ Supervisor ลองสมัครดู แล้วก็ได้งาน
คราวนี้บันเทิงเลยครับ โรงแรมอยู่หน้าหาดที่จัดปาร์ตี้ ช่วงที่มีปาร์ตี้ แคนเซิลวันหยุด ลากยาวๆ7วันติด นอนวันละ4-6ชั่วโมง พักอยู่ห้องพักในโรงแรม แถมมีหัวหน้า หัวหน้าก็ไม่ค่อยแก้ปัญหาให้ เลยต้องทำงานแทนFront Office Manager บ่อยครั้งที่ต้องประชุมแผนก ประชุมหัวหน้าแผนก ประชุมP&L แทนผจก.

January 2018 ย้ายตามแฟนมาอยู่โรงแรมเดียวกัน April 2018 แต่งงาน แล้วลาออกจากงานเพื่อออกจากเกาะช่วง October 2018 ย้ายมาอยู่จังหวัดทางภาคเหนือ ใกล้บ้านเกิดภรรยา ชีวิตก็มาเจออะไรมากมาย ทั้งโดนพี่มิจหลอกไปทำงานเป็นผจก. สรุป ขายตรงครับ ไปเป็นผจก.ร้านส้มตำ เดือนแรกก็เหมือนจะดี เดือนที่สองขอลดเงินเดือน บอกว่าร้านขาดทุนขายไม่ถึงเป้า ลาออกสิครับรออะไร

March 2019 Duty Manager โรงแรมใหญ่ๆแถวเมญ่า บันเทิงเลยครับ ทำงานครบ3กะ เช้า บ่าย ดึก แก้ปัญหาทุกจุดที่มีคอมเพลน ประชุมเช้าแทนผจก.อาทิตย์ละครั้ง เจอความต่างของวัฒนธรรม โดนนินทาสารพัด แต่หนักสุดเห็นจะเป็นการมาของไอ้ต้าวโควิด ปี2020 เริ่มเห็นผลกระทบ เงินเดือนลด50% ไม่มีเซอร์วิสชาร์จ แต่ต้องออกมาทำงานทุกวันเหมือนเดิม (มาครึ่งวัน) จะเอาอะไรกินล่ะครับ บ้านเพิ่งเริ่มผ่อนได้ไม่กี่เดือน ค่าเดินทาง ค่าน้ำมันเท่าเดิม ทนอยู่ได้ถึงต้นปี2021 ตัดสินใจลาออกไปทำบริษัทเอกชนอยู่เกือบ2ปี

November 2022 Front Office Manager หนีคำสาปคนโรงแรมไม่พ้น มาอยู่โรงแรมเล็กๆ ทำแทบทุกอย่าง มีงานเลี้ยงก็ช่วยเสิร์ฟอาหาร ช่วยทำอาหาร ดูหน้าฟรอนท์ เป็นHR ประสานงานช่าง บางครั้งก็ซ่อมไฟเอง เจอระบบญาติowner จุกๆครับ คนนี้เตือนไม่ได้ คนนั้นแตะไม่ได้ นี่หลาน นั่นลูก โน่นคนของนาย ก็ตามนั้นฮะ ออกดีกว่า ไม่อยากมีปัญหา

July 2023 Front Office Manager ลองเข้าไปหาประสบการณ์จากโรงแรมเชนขนาดกลางดูบ้าง อยู่ไม่กี่เดือนได้ของติดตัวมาเพียบเลย P&L, Budget, Capex, Revenue Forecast, Revenue Analysis, SOPs, Risk prevention, Preventive Maintenance ติดนิดเดียว เจ้าที่แรงไปหน่อย อ่ะ ไม่เป็นไร ลาออกดีกว่า

November 2023 Assistant Hotel Manager ดู2ตึก ขนาดกลางๆ เจ้าของเป็นทุนจีน เจอระบบที่ อิหยังวะมากๆ ของเกือบทุกอย่างซื้อจากจีน ไม่ลงทุนกับระบบที่ฉลาดๆ เน้นจ่ายให้ถูกที่สุดไว้ก่อน พีคสุดคือขายของยังไงให้ขาดทุน ไม่ยากครับ ขายถูกในวันที่คนอื่นขายได้แพงกว่าเป็นเท่าตัว ไปถึงต้องนั่งงมข้อมูลเองย้อนหลังตั้งแต่เปิดโรงแรม แถมเจ้าที่แรงอีก ไม่เป็นไรอดทนทำไป เน้นถูกต้อง ไม่เน้นถูกใจ สรุปว่าปีนั้นเป็นปีแรกที่โรงแรมมองเห็นกำไรจากการประกอบกิจการ ส่วน2024 Forecast ไว้แล้วว่าโต 30%, GOP+100% นั่งทำงานไปได้ครึ่งปี วันดีคืนดีก็มีโทรศัพท์มาขอResume เป็นเชนจากต่างประเทศ ต้องการ GMคนไทย
ดูเรทแล้ว+40% ตัดสินใจส่งเรซูเม่เดี๋ยวนั้นเลย สัมภาษณ์ 2รอบ ปิดดีลเรียบร้อย แจ้งลาออกล่วงหน้า 30วัน เตรียมตัวไปเริ่มงานเดือนหน้า

จขกท.เริ่มงานโรงแรมช่วงอายุ30ปี เคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากเกษียณที่ตำแหน่งGM โรงแรมเล็กๆ ในจังหวัดเล็กๆ เคยคิดไว้ว่าเราเริ่มช้ากว่าคนอื่นมากๆ ส่วนมากคนอื่นเค้าเริ่มสตาร์ทตั้งแต่เรียนจบ เลยพยามทำมากกว่าตำแหน่ง ว่างก็ขอเรียนรู้งานในตำแหน่งที่สูงกว่าไปอีกขั้น ถ้ามีโอกาสก็ขอลองทำดู มีเวลาว่างก็เปิดหาความรู้เพิ่มเติมในสายงานจากyoutube ลงเรียนคอร์สออนไลน์ฟรีของมหาวิทยาลัยต่างๆ

ปัจจุบันอายุย่าง 37ปี ก้าวมาถึงเป้าหมายที่เคยวางเอาไว้ในตำแหน่ง GM แล้ว ความเหนื่อย ความกดดันในวันที่เป็นตำแหน่งเด็กๆ ค่อยๆหายไป แทนที่ด้วยความกดดันจากการมองภาพใหญ่ และดูภาพรวมในเรื่องรายได้ ผลกำไร ลดต้นทุน บริหารกำลังคน วางแผนการสร้างรายได้ สิ่งที่ได้ชดเชยกลับมาจากความเหนื่อย คงเป็นการยอมรับจากผู้ร่วมงาน และเงินเดือน สวัสดิการต่างๆที่มาพร้อมตำแหน่ง ถ้าเทียบตัวเองกับเพื่อนสมัยเรียน ที่ทำงานในวงการเดียวกัน เงินเดือนจขกท.ยังไม่เท่าเพื่อนที่ตำแหน่งน้อยกว่า แต่ก็พอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามอัตตภาพ

การเป็น Job Hopper มีความเสี่ยงถ้ามองในมุมที่เป็นตัวเลือกของฝ่ายบุคคล ต้องขายตัวเองให้เป็น เลือกสมัครงานที่เหมาะกับความสามารถของตัวเรา และอย่าแสดงทัศนะคติด้านลบในการสัมภาษณ์เด็ดขาด จงเป็น Mr. Yes man. ถามอะไร ตอบได้ ทำได้ครับ(ต้องมั่นใจว่าทำได้จริง) โอกาสไปถึงฝันมีแน่นอนครับ

ปล. อีก20กว่าปีที่เหลือ จขกท.วางแผนไว้ว่าจะอยู่กับงานโรงแรมอันเป็นที่รักอีกไม่เกิน10-15ปี ระหว่างนั้นก็จะเก็บเงินไปขยายสวนทุเรียนกับสวนยาง ที่เป็นงานอดิเรกหลังเกษียณของพ่อกับแม่ โดยหวังจะเอาความรู้ที่ได้จากการทำงาน ไปลงมือทำธุรกิจส่วนตัวต่อยอดจากที่พ่อกับแม่ทำเอาไว้ครับ

ปล. อ่านจบแล้วคิดเห็นอย่างไร ร่วมแสดงความเห็นได้นะครับ แตกต่างได้ แต่ไม่แตกแยกครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่