🎯หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด self-awareness🎯

จะเป็นการดีไหม ถ้าคนเราสามารถที่จะล่วงรู้อนาคตได้ ว่าพรุ่งนี้ เดือนหน้า หรืออีกสิบปี จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

 จะเป็นการดีไหม ถ้าคนเราสามารถที่จะเห็นอดีตได้ อดีตอันเนิ่นนานเหล่านั้น ที่หลับใหลอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำ...

 (ขอแทคพุทธศาสนา เรื่องเล่าอาจจะยาวหน่อย แต่ท้ายๆจะพูดเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมค่ะ)

 ⁓⁓ฉันกับพี่สาว เราอายุห่างกัน 2 ปี เมื่อพี่เรียนจบก็ได้ทำงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ในบริษัทแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ออกไปทำงานเพ้นท์ผ้าไหมกับเพื่อน แล้วภายหลังก็แยกตัวออกมาทำเองกับแฟน โดยรับงานมาจากร้านขายเสื้อผ้าในห้างดิโอลด์สยาม.. ความเห็นส่วนตัวฉัน มันไม่น่าจะเป็นงานที่สร้างรายได้ 30,000-40,000 บาท/เดือน โดยไม่ต้องทำงานทุกวัน ได้เลย แต่พี่กับแฟนก็ทำได้ ที่ฉันไม่คิดว่ามันจะทำเงินได้ ก็เพราะไม่เห็นว่าการเพ้นท์ดอกไม้หลากหลายสีลงบนเสื้อมันดูสวยตรงไหน ดอกไม้ก็ไม่สมจริง แต่ทำไมลูกค้าคนไทยและลูกค้าชาวพม่าถึงชื่นชอบมากก็ไม่รู้ พี่ฉันถึงกับจะเปิดร้านเสื้อผ้า และมีเดินทางไปพม่าเพื่อหาคอนแทคลูกค้าเองด้วย แต่ตอนหลังก็ไม่ได้สานต่อโครงการเพราะติดปัญหาเรื่องการกู้เงินเพื่อมาเปิดร้าน

 พี่เรียนที่กรุงเทพฯ และทำงานเพ้นท์ผ้าอยู่ประมาณ 25 ปี จากนั้นก็ย้ายครอบครัวกับมาบ้านเกิดที่สามจังหวัดชายแดนใต้ วันก่อนฉันถามพี่ว่าทำไมตอนนั้นถึงย้ายกลับมาอยู่บ้าน พี่บอกว่าช่วงนั้นน้ำท่วมกรุงเทพฯ แม้ว่าแถวบ้านน้ำมาไม่ถึง แต่ก็ต้องเจอกับความยุ่งยากลำบากในการหาซื้อน้ำและอาหาร ต่อมาก็มีการประท้วงปิดถนนบ่อยๆ คือมันไม่มีความแน่นอน ไม่รู้สึกว่าชีวิตมั่นคง ก็เลยย้ายกลับมา

 เมื่อได้ฟังฉันจึงร้องทัก เฮ้ย.. เก่งอะ เห็นถึงความไม่แน่นอนมานานแล้ว ว่าแต่จำที่พระท่านเทศน์มาพูดหรือเปล่า พี่ก็บอกว่าจริงๆคือคิดเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยๆ ตอนที่ทำงานกราฟฟิค ก็ถามรุ่นพี่ที่ทำงานเกี่ยวกับงานพวกนี้ ว่าเราจะทำงานบริษัทได้จนถึงอายุเท่าไหร่ พี่ที่ทำงานก็บอกว่า ประมาณอายุ 45 ดังนั้นพี่ก็เลยตัดสินใจไม่มาทางกราฟฟิคแล้ว เพราะมันดูไม่มั่นคง ไหนจะต้องคอยอัพเดทโปรแกรมคอมที่ตกรุ่นเร็วด้วยอีกอย่างนึง และที่พี่คิดบ่อยๆอีกอย่างก็คือ ทำไมชีวิตมันถึงต้องดิ้นรน ต้องทำแต่งาน จะขับรถเล่นชมวิวเหมือนตอนเด็กๆก็ไม่ได้ มันไม่เคยมีความสุขจริงๆ ถึงแม้การเที่ยวห้างมันก็มีความสุขอยู่บ้าง แต่มันก็สุขแค่แป๊บเดียวเอง และแม้หลังจากน้ำท่วมงานเพ้นท์ผ้าเข้ามาเยอะ จนทำให้มีรายได้ 70,000-80,000/ เดือน อยู่ประมาณ 2 ปี แต่ใจก็อยากจะกลับมาอยู่บ้านตลอด

 ตอนแรกกลับมาบ้านก็คิดว่ามั่นคงแล้วนะ แต่เปิดร้านขายเสื้อผ้ามันไม่ใช่งานราชการ ไม่มีบำนาญ แก่ตัวไปจะทำไง ก็เลยหาซื้อที่ดินไว้ทำกิน แล้วก็เรียนป.โทเพื่อจะเป็นครูสอนศิลปะ แล้วพอโควิดเข้า ก็เห็นว่าคิดไว้ไม่ผิดจริงๆ มันมีแต่ความไม่แน่นอน⁓⁓

#งานเพ้นท์ผ้าของพี่ที่ฉันมองว่าไม่เห็นจะสวยเลย แต่กลับเป็นงานที่สร้างรายได้ที่ขี้เหร่เนะ (kirei ne)



#ยิ่งมีตุ๊กตาหน้าหวานเข้าไปอีก ฉันก็ยิ่งงง ใส่แล้วมันสวยตรงไหน









#นอกจากงานเพ้นท์เสื้อและกระโปรงตัดเย็บสำเร็จเป็นตัวๆแล้ว งานผ้าหลาก็มีเยอะพอๆกัน โดยได้รับค่าจ้างเป็นหลา



#แต่บางลายฉันก็มองว่าสวยนะ เช่นลายเหล่านี้













#นอกจากเพ้นท์ชุดไทยสำหรับพนักงาน หรือข้าราชการแล้ว พี่ยังเพ้นท์ชุดไทยสำหรับใส่ประกวดด้วย และก็เช่นเคย ฉันไม่ชอบเลยตุ๊กตาหน้าหวานและดอกไม้เล็กๆแบบนั้น แล้วคนอะไรไปอยู่ตรงปลายกระโปรง ฮ่าๆๆ แต่สปอนเซอร์คงชอบ



















#เพ้นท์ชุดประกวดชายงามก็มี








แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่