หลอกขายประกันพ่วงสินเชื่อจนโดนถอนใบอนุญาต: บทเรียนราคาแพงสำหรับนักขายประกัน
การขายประกันพ่วงสินเชื่อ เป็นกลยุทธ์ที่หลายบริษัทประกันและธนาคารนำมาใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย แต่กลยุทธ์นี้ มักถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยนักขายประกันบางราย ใช้วิธีการหลอกลวง บีบบังคับ หรือเอาเปรียบ ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าซื้อประกันพ่วงสินเชื่อ
กรณีตัวอย่าง ของ**"นาย A"** นักขายประกัน ที่ถูกถอนใบอนุญาต จากคณะกรรมการกำกับและดูแลธุรกิจประกันภัย (คบภ.) เป็นบทเรียนราคาแพง ที่นักขายประกันทุกคนควรจดจำ
นาย A ทำงานเป็นนักขายประกันให้กับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง เขามักจะนำเสนอ ประกันพ่วงสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยไม่แจ้งรายละเอียด ของประกันอย่างครบถ้วน พูดจูงลวง ให้ลูกค้าเข้าใจว่า ประกันพ่วงสินเชื่อเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องซื้อ บีบบังคับ ให้ลูกค้าเซ็นสัญญา โดยไม่ให้ลูกค้ามีเวลาพิจารณา และเอาเปรียบ ลูกค้าที่ไม่รู้หนังสือ
พฤติกรรมของนาย A ส่งผลเสียต่อลูกค้าหลายราย ลูกค้าบางรายถูกเรียกร้องค่าเบี้ยประกัน ที่สูงเกินไป บางรายถูกกีดกัน ไม่ให้ผ่อนชำระสินเชื่อต่อ บางรายถูกฟ้องร้อง เรียกร้องค่าเสียหาย
ในที่สุด คบภ. ได้รับร้องเรียนจากลูกค้าจำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจสอบ และพบหลักฐานว่า นาย A มีพฤติกรรมหลอกลวง บีบบังคับ และเอาเปรียบ ลูกค้า คบภ. จึงตัดสินใจถอนใบอนุญาต ของนาย A
กรณีของนาย A เป็นอุทาหรณ์ ที่ชัดเจนว่า การขายประกันพ่วงสินเชื่อ ที่ไม่ซื่อสัตย์ โปร่งใส และเอาเปรียบ ลูกค้า ย่อมส่งผลร้ายแรงต่อนักขายประกัน นักขายประกันทุกคน ควรยึดมั่นในจริยธรรม ความซื่อสัตย์ และ ความโปร่งใส ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันให้กับลูกค้า ไม่ควรหลอกลวง บีบบังคับ หรือเอาเปรียบ ลูกค้า เพราะผลลัพธ์ ที่ได้ ไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง ที่ต้องเผชิญ
นอกจากนี้ ลูกค้า ก็ควรศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับประกันพ่วงสินเชื่อให้ละเอียด เปรียบเทียบ พิจารณา อย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ควรเซ็นสัญญา โดยที่ไม่เข้าใจรายละเอียด ของประกัน และ ควรเก็บหลักฐาน ไว้เป็นหลักฐาน เผื่อกรณีเกิดปัญหา
หลอกขายประกันพ่วงสินเชื่อจนโดนถอนใบอนุญาต
การขายประกันพ่วงสินเชื่อ เป็นกลยุทธ์ที่หลายบริษัทประกันและธนาคารนำมาใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย แต่กลยุทธ์นี้ มักถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยนักขายประกันบางราย ใช้วิธีการหลอกลวง บีบบังคับ หรือเอาเปรียบ ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าซื้อประกันพ่วงสินเชื่อ
กรณีตัวอย่าง ของ**"นาย A"** นักขายประกัน ที่ถูกถอนใบอนุญาต จากคณะกรรมการกำกับและดูแลธุรกิจประกันภัย (คบภ.) เป็นบทเรียนราคาแพง ที่นักขายประกันทุกคนควรจดจำ
นาย A ทำงานเป็นนักขายประกันให้กับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง เขามักจะนำเสนอ ประกันพ่วงสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยไม่แจ้งรายละเอียด ของประกันอย่างครบถ้วน พูดจูงลวง ให้ลูกค้าเข้าใจว่า ประกันพ่วงสินเชื่อเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องซื้อ บีบบังคับ ให้ลูกค้าเซ็นสัญญา โดยไม่ให้ลูกค้ามีเวลาพิจารณา และเอาเปรียบ ลูกค้าที่ไม่รู้หนังสือ
พฤติกรรมของนาย A ส่งผลเสียต่อลูกค้าหลายราย ลูกค้าบางรายถูกเรียกร้องค่าเบี้ยประกัน ที่สูงเกินไป บางรายถูกกีดกัน ไม่ให้ผ่อนชำระสินเชื่อต่อ บางรายถูกฟ้องร้อง เรียกร้องค่าเสียหาย
ในที่สุด คบภ. ได้รับร้องเรียนจากลูกค้าจำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจสอบ และพบหลักฐานว่า นาย A มีพฤติกรรมหลอกลวง บีบบังคับ และเอาเปรียบ ลูกค้า คบภ. จึงตัดสินใจถอนใบอนุญาต ของนาย A
กรณีของนาย A เป็นอุทาหรณ์ ที่ชัดเจนว่า การขายประกันพ่วงสินเชื่อ ที่ไม่ซื่อสัตย์ โปร่งใส และเอาเปรียบ ลูกค้า ย่อมส่งผลร้ายแรงต่อนักขายประกัน นักขายประกันทุกคน ควรยึดมั่นในจริยธรรม ความซื่อสัตย์ และ ความโปร่งใส ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันให้กับลูกค้า ไม่ควรหลอกลวง บีบบังคับ หรือเอาเปรียบ ลูกค้า เพราะผลลัพธ์ ที่ได้ ไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง ที่ต้องเผชิญ
นอกจากนี้ ลูกค้า ก็ควรศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับประกันพ่วงสินเชื่อให้ละเอียด เปรียบเทียบ พิจารณา อย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ควรเซ็นสัญญา โดยที่ไม่เข้าใจรายละเอียด ของประกัน และ ควรเก็บหลักฐาน ไว้เป็นหลักฐาน เผื่อกรณีเกิดปัญหา