แชร์ประสบการณ์เรียนไม่จบในมหาวิทยาลัย

สวัสดีค่า ขอแทนตัวเองว่ามิวนะคะ ตอนนี้มิวอายุ 25 ปี กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยอยู่ปี2 ค่ะ หลังจากที่ออกจากมหาวิทยาลัยเดิมมาตอนช่วงอายุ 21 ปี ออกมาหาแรงบันดาลใจ พักฟื้นตัวเอง หาเงินได้ก้อนนึงกลับมาเรียนต่อ อยากจะแชร์ประสบการณ์เผื่อน้องๆเจอสถานการณ์แบบมิวได้ยุคปัจจุบัน

- เมื่อก่อนมิวสอบติดมหาวิทยาลัยแห่งนึงในเชียงใหม่ ที่รับน้องโหดมากๆ ตอนนั้นไม่ได้รับรู้เรื่องการรับน้องเลย รู้แค่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณะที่อยากเรียน แล้วก็ตัดสินใจสอบ และด้วยความที่เป็นคณะที่ชอบ มิวคิดว่ามิวทำได้ดี ทั้งรอบสอบและรอบสัมภาษณ์ แล้วก็ประสบความสำเร็จค่ะ มิวสอบติดใน 1 ครั้ง

- ต่อมาหลังจากรับน้อง (ก่อนจะเปิดเทอม) มิวถึงรับรู้ว่าการรับน้องที่นี่โหดจัดรัสเซียมากๆ เกือบถอดใจ แต่พอผ่านมาได้ ด้วยความที่อยากเรียน ก็เลยอดทน หลังจากรับน้องมา ก็โดนรับน้องในคณะ และสาขาที่ตัวเองเรียน เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะที่เป็นลม ล้มลงไปดื้อๆ เพราะเรียน 08.00 รับน้องถึง 21.00 (กลับหอมาก็ต้องทำงานอย่างหนัก บางวันแทบไม่ได้นอน และสาขาที่เรียนต้องใช้ความคิดค่อนข้างมาก)

- หลังจากรับน้องได้ครึ่งเทอม ที่บ้านมิวก็ประสบปัญหา ทำให้มิวต้องกลับบ้านไปช่วยที่บ้าน แต่อย่างที่บอกว่า การรับน้องของมหาวิทยาลัยนี้ค่อนข้างโหดมาก ทำให้เวลามีคนนึงที่ลากิจในการรับน้อง เพื่อนๆทั้งรุ่นก็จะโดนทำโทษ และมิวเป็นคนที่ลา ทำให้เพื่อนต้องโดนทำโทษในวันนั้น จุดเริ่มต้นจากนี้ทำให้เพื่อนในรุ่นบางส่วนไม่ชอบมิว ที่มิวขาดดการรับน้อง ทำให้เพื่อนโดนทำโทษ

- หลังจากนั้นเวลาที่มิวทุ่มเทในด้านการเรียน ช่วยเพื่อนทำงานกลุ่มให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ก็ไม่เคยทดแทนเรื่องของการขาดรับน้อง ที่เพื่อนโดนลงโทษได้เลย เพื่อนเกือบครึ่งรุ่นไม่ชอบขี้หน้าเราไปแล้ว เพราะเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์เดียว

- จนผ่านมาเทอมสอง การรับน้องก็ยังไม่จบสิ้น มรสุมชีวิตก็เริ่มถาโถม คุณตาของมิวเสียชีวิต และตาเป็นเสาหลักของบ้าน ที่บ้านมิวเริ่มกระสับกระส่าย มิวจึงต้องหางานทำ เพราะจะไม่มีค่าเทอมในการเรียนต่อปีต่อๆไป

- มิวทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ ตอนนั้นยอมรับว่าได้เงินดีมากๆ เพราะเป็นงานที่ถนัด และสาขาที่เรียนก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์อยู่แล้ว จึงมีพื้นฐานในการใช้พอสมควร แต่จะบอกว่ามันเป็นชีวิตที่หนักมาก เพราะไม่มีใครซัพพอร์ต มีแต่ตากับยาย ซึ่งตาเสียไปมิวก็ต้องดูแลยายต่อ + ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวที่เหลือของมิว ยังต้องเรียนไปด้วย และโดนรับน้องไปด้วย

- เหมือนเดิม คือมิวลาการรับน้อง เพราะต้องดูแลยาย และต้องหาเงินในทุกๆเย็น และก็เหมือนเดิม ที่เพื่อนๆโดนลงโทษ มิวเลยฝืนค่ะ ทั้งทำงาน , รับน้อง , ทำงานที่อาจารย์สั่ง กินข้าววันละ 1 มื้อคือข้าวเที่ยงอย่างเดียว เพราะไม่มีเงิน ตอนเย็นหลังจากเลิกเรียนก็ต้องรับน้องโดยทันที มีเวลาแค่กินข้าวเย็นประมาณ 15 นาที ทนได้ประมาณเดือนนึง มิวก็เป็นลมหมดสติไป จนต้องโดนหามส่งรพ. รู้ตัวอีกทีคือตื่นมาในห้องฉุกเฉิน คิดอยู่ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ได้เรียนตามที่คิดไว้ หรืออาจจะเป็นเราที่แคร์คนอื่นมากไป ไม่อยากให้ยายผิดหวัง บลาๆ ตอนนั้นในหัวมันพุ่งเข้ามาทุกเรื่อง

- หลังจากนั้นตัดสินใจ ไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆของคณะ คือเข้าไปน้อยมาก เน้นการเรียนอย่างเดียว สรุปคือโดนเพื่อนแบนค่ะ มีแค่เพื่อนต่างสาขาที่ยังไปไหนมาไหนด้วยกันบ้าง แต่คนในคณะแทบไม่ได้คุยกับใครเลยค่ะ เหมือนผีเลย ไร้ตัวตนมากๆ จนมาถึงโปรเจกต์งานกลุ่ม ก็ไม่มีใครให้อยู่กลุ่มด้วยค่ะ เพราะคนอื่นๆคือมีเป็นสายรหัสกัน เลยจับกลุ่มกัน ส่วนมิวที่ไม่เอากิจกรรมรับน้อง ทั้งๆที่ก็รับด้วยกันมา 1 ปีเต็มๆ ก็โดนแบนอยู่ดีค่ะ (พี่ๆอาจจะคิดว่าทำไมถึงไม่บอกอาจารย์ จะบอกว่ามหาวิทยาลัยนี้ 80% คืออาจารย์จะรู้เห็นเรื่องของการรับน้องค่ะ ซึ่งก็คือรู้ว่าใครเอารุ่นไม่เอารุ่นบ้าง ประมาณนี้ ก็จะโดนอาจารย์เพ่งเล็งเป็นพิเศษ) เอาจริงๆถึงมิวรู้สึกว่ามันไม่แฟร์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ

- งานที่มิวส่งไปทั้งหมด เป็นงานที่มิวชอบ ทำตามสไตล์ตัวเอง ถึงยังไงอาจารย์ก็จะมีข้อติ สั่งแก้งาน ทั้งๆที่หัวข้อบอกว่า ตามที่เราชอบ หรือความเป็นตัวเรา แต่ก็ยังโดนสั่งแก้อยู่ดี หรือเพราะการเป็นตัวเรา มันไม่เข้าตาอาจารย์ก็ไม่รู้นะคะ ทั้งๆที่มิวสอบเข้า และส่งงานตอนสัมภาษณ์ได้ A แท้ๆ มันหน้ามือเป็นหลังมือ มืดแปดด้านมากๆ จนมิวแก้งานส่งไป แต่ก็ยังได้ F ค่ะ ไม่โทษใครนะคะ อาจจะเป็นเพราะเราแย่จริงๆ ถึงจะส่งตามเวลา และปริมาณงานเท่าเพื่อนๆทุกคน แต่ก็ยังได้ F ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เรียนซ้ำวิชานี้ใหม่ สบายมาก ไปต่อปีที่ 2

- ปี 2 ก็ยังต้องเข้าร่วมรับน้องต่อ เพราะเป็นรุ่นพี่ ต้องไปรับสายรหัสตัวเอง ไม่ลงดีเทลเยอะมากนะคะ แต่น้องสายรหัสของมิว ขอลาออกไปเพราะไม่ไหว มิวก็ยอมรับในการตัดสินใจของน้อง และมิวก็ลาขาดจากการรับน้องไป เพราะไม่จำเป็นต้องไปดูแลน้องรหัสตัวเองแล้ว เพราะน้องออกไปแล้ว มาเครียดเรื่องเรียนต่อ โปรเจกต์ของปี 2 ต้องส่งเป็นกลุ่ม ซึ่งคนที่ไม่มีใครคบแบบมิว ก็ต้องทำคนเดียวค่ะ 55555 เวทนาตัวเอง สรุปก็ผ่านมา

- ขึ้นมา ปี3 ทะเลาะกับเพื่อนหนัก ไม่รู้ว่ามิวไปทำอะไรให้ คือรุมเกลียดกันทั้งๆที่ยังไม่เคยทำอะไรที่มันนอกเหนือจากการไม่เอารับน้องเลย กิจกรรมของรุ่นอื่นๆมิวช่วยหมด ทั้งร้องเพลง จัดกิจกรรม อะไรที่ทำแล้วสร้างสรรค์ มิวช่วยหมดเลย มีอีกนิดนึงคือมิวไม่เข้าสังคมร้านเหล้าต่างๆ ที่เพื่อนๆชอบไป แต่เราด้วยความต้องทำงาน และหาเลี้ยงตัวเอง จึงไม่ได้เอาเงินไปลงกับตรงนั้น แต่ก็นั่นแหละค่ะ เพื่อนบอกว่ามิวทำตัวแปลกแยก ไม่เข้าสังคม จนโดนเกลียดหนักเข้า จนไม่อยากเข้าไปในมหาวิทยาลัย

- ปี 3 เทอม 2 ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย โดนหนักทั้งเพื่อนและอาจารย์ ช่วงนั้นจิตตกมากๆ มืดแปดด้าน ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิต ไปต่อก็ไม่ไหว จะหยุดตอนนี้ก็เสียดายเวลา แต่ก็ถือว่าเลือกทางที่ตัวเองสบายใจค่ะ มิวออกมาทำงานได้ 2-3 ปี กลายเป็นว่างานของมิวมีคนชอบเยอะมากๆๆๆๆ มีลูกค้าซื้อเยอะ ได้วันละ 3-5 พันบาท เก็บเงินมาก็ให้ยายได้ก้อนนึงค่ะ และก็ออกมาทำงาน กลับไปเยี่ยมยายบ้าง ตอนนี้ยายมิวอยู่กับยายอีกคนนึง และมีพี่สะใภ้ย้ายบ้านมาช่วยดูแล กว่าจะหาทางออกได้ยากมากๆ แต่ไม่อยากให้น้องๆที่มีปัญหาในชีวิตถอดใจ ทุกปัญหามีทางออก แต่เรื่องเงินสำคัญจริงๆค่ะ อะไรที่มีประโยชน์กับชีวิตก็ทำก่อน อย่าพึ่งเอาชีวิตไปทำในสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ตอนนี้เอาจริงๆก็ยังมีปมกับเรื่องที่เรียนไม่จบพร้อมคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เสียดายค่ะกับสิ่งที่ทำไป หรือพี่ๆคนไหนมีไอเดียอยากจะแนะนำมิวสำหรับเรื่องในอดีต หรืออนาคตต่อๆไป แนะนำมาได้เลยนะคะ อยากรู้ว่าสิ่งที่มิวเจอ มิวคิดถูกรึยัง แต่ว่า ตอนนั้นมิวรู้สึกแย่มากๆๆๆจริงๆค่ะ มัน toxic จนเกินกว่าชีวิตจะรับได้ และยังเสียใจเรื่องตามาจนถึงวันนี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ถือว่าได้ระบายสิ่งที่เจอมาและมีคนได้รับรู้ว่ามิวเจอเหตุการณ์นี้ ตอนนั้นบอกใครไม่ได้ แต่ตอนนี้ได้มีคนมาอ่านก็ถือว่าได้ระบายมากๆแล้วค่ะ t-t
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่