สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่า จขกท เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานมาได้1ปี แล้วลาออกเป็นคนว่างงานไม่นานมานี้เองค่ะ
ในช่วงที่ยังทำงานอยู่ เจอเรื่องราวแย่ๆมาเยอะพอสมควร อย่างเช่น การทำงานในวันหยุดนักขัตฤกษ์โดยแจ้งล่วงหน้าแค่1วัน การโดนกล่าวหาและลงโทษทั้งที่ไม่มีความผิด การทำงานที่ไม่มีการแพลนล่วงหน้าจากทีม 90%ในทีมเป็นเด็กใหม่ในบางครั้งต้องช่วยเหลือกันเองโดยไม่มีหัวหน้า หักโอทีโดยไม่มีสาเหตุ โดนด่าและทำให้อับอายต่อหน้าลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน การโดนด่าโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน โดนบังคับทำงานข้ามวัน เป็นต้น
ซึ่งในตอนนั้นเองที่พบเจอกับเรื่องราวแบบนี้ ขอบอกก่อนว่า จขกท และเพื่อนๆในทีมได้ปรึกษากันในเรื่องที่ประสบพบเจอกันมาตลอด เคยลองทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจในหัวหน้าที่เขาต้องปฏิบัติตัวกับเราแบบนั้น เราได้ข้อสรุปและความเห็นตรงกันว่า บางทีเขามีการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยยุติธรรมกับพวกเราเลย แต่บางทีก็เป็นพวกเราเองที่ทำงานได้ยังไม่ดีพอ ทำได้แค่เท่าประสบการณ์ที่มี พวกเราเลยโดนปฏิบัติตัวแย่ตั้งแต่ต้นจนถึงวันสุดท้าย ถึงแม้เราจะทำได้ดีขึ้นแล้วจริงๆแต่เรายังได้รับการปฏิบัติแย่ๆเหมือนเดิมแบบไม่รู้สาเหตุ พวกเราส่วนนึงเลยลาออก
หลังจากผ่านเหตุการณ์พวกนั้นมาสภาพจิตใจค่อนข้างย่ำแย่พอสมควรค่ะ ในตอนที่อยู่ตรงนั้นจริงๆเราสามารถรับมือและผ่านมันมาได้ แต่พอเราถอยออกมาทบทวนดู ก็พบว่าตอนนี้สุขภาพและสภาพจิตใจแย่แล้วจริงๆค่ะ เราเอาแต่ตั้งคำถามว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ หรือเรื่องแบบนี้มันเป็นปกติของงานออฟฟิศอยู่แล้ว แต่เป็นเราเองที่ปรับตัวไม่ได้ ตอนนี้อยู่ในช่วงหางานใหม่ค่ะ มันค่อนข้างเครียดมากว่าที่ๆเราจะได้ไปทำงานจะเป็นยังไง จะเจอเรื่องแบบนี้อีกไหม หรือควรเปลี่ยนสายงานไปเลย
ช่วงนี้ก็เลยกำลังพักและเตรียมตัวที่จะสอบและสอบสัมภาษณ์กับที่ทำงานใหม่หลายๆแห่งค่ะ แต่แล้วอยู่ดีๆไม่นานมานี้ก็หมดไฟค่ะ หมดอาลัยตายอยาก ไม่ทำอะไร ไม่ออกไปเจอใคร ตัดขาดจากทุกการติดต่อในโลกออนไลน์ แม้แต่ร้านข้าวก็ไม่ไปค่ะ เอาแต่นอนดูซีรีส์ไปเรื่อยๆทั้งๆที่รู้ว่าควรเตรียมตัว ค่อนข้างผิดหวังในตัวเองนิดหน่อยค่ะ เพราะจริงๆไม่ได้เป็นคนเก่งขนาดนั้น อย่างน้อยก็ควรเตรียมตัวให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีอารมณ์ทำอะไรอยู่ดีค่ะ
แต่แล้วดันไปเจอซีรีส์ดีๆเรื่องนึงค่ะ misaeng(2014) เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือน ค่อนข้างสะท้อนสังคมมนุษย์เงินเดือนได้ดีจริงๆค่ะ มีคนหลายแบบ มีหลายเหตุการณ์ที่เจอ ทั้งเรื่องดีเรื่องไม่ดี ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น ความพยายามของแต่ละคนแต่ละตัวละคร ซึ่งพอจขกท.เองได้ดูแล้วรู้สึกเข้าใจโลกมากขึ้นค่ะ มีไฟกลับมา มีแรงที่จะไปทำงาน55
ตัวเอกมีความอดทน มีความพยายาม ใช้ความคิดในการแก้ปัญหาและมีวุฒิภาวะ สิ่งที่จขกท.ได้จากเรื่องนี้จริงๆไม่ใช่การที่ต้องก้มหน้าอดทนรับมือกับสิ่งที่ต้องเจออย่างเดียวค่ะ แต่หลักๆมันคือความพยายามค่ะ จขกท.เป็นคนๆนึงที่เป็นคนโง่เพราะความขี้เกียจค่ะ(เปรียบเปรยนะคะ) เป็นคนที่ถ้าแค่พยายามก็จะทำได้ดีค่ะ(น่าจะเป็นกันในหลายๆคน) จขกท.เป็นคนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ค่อนข้างต่ำ ถึงจะควบคุมอารมณ์ได้ แต่สีหน้าออกตลอดเลยค่ะ ที่ผ่านมาบางทีโต้แย้งไปด้วยอารมณ์โดยที่คิดว่าความคิดตัวเองถูก แต่หลังจากที่ทำไปก็รู้สึกไม่ดีทุกครั้งถึงแม้เราจะถูกหรือไม่ถูกก็ตาม มันดูไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยค่ะ
แต่พอมาดูซีรีส์เรื่องนี้ บวกกับพักงานทบทวนหลายๆเรื่องที่ผ่านมา มันทำให้จขกท.ลดอีโก้ตัวเองลง และได้เข้าใจโลกมากขึ้นค่ะ ว่าบางทีโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา ทุกคนเกิดมาไม่เหมือนกัน เป็นเราเองที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และหาวิธีแก้ไขและเอาตัวรอดให้สามารถอยู่ได้โดยไม่ทำร้ายตัวเองค่ะ และไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่ต้องเหนื่อยต้องพยายามค่ะ ถึงเราจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่พอมาดูซีรีส์ ดูสิ่งที่แต่ละตัวละครพยายามสื่อออกมา มันทำให้เราอิน และคิดภาพออกว่าถ้าเราเป็นแบบนั้นเราจะทำแบบไหน จะรู้สึกยังไง มันอินค่ะ55 เลยทำให้เข้าใจได้มากขึ้น
เรื่องนี้ดูแล้วทำให้จขกท.มีแรงกลับมาใช้ชีวิตค่ะ พร้อมออกไปเจอกับคนทุกรูปแบบแล้วค่ะ มาเลย555
สรุปคือ ซีรีส์เรื่องนี้ดีมากค่ะ ใครกำลังรู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่ต้องเจออยู่ลองไปดูค่ะ แล้วจะได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เราที่เหนื่อย จะได้สบายใจว่ามีคนอีกเยอะที่เหนื่อยเหมือนกัน เหนื่อยเป็นเพื่อนกันค่ะ สู้ๆกับชีวิตนะคะ เรื่องนี้ดูได้ที่Netflixค่ะ
อยากแนะนำให้มนุษย์เงินเดือนได้ลองดูซีรีส์ Misaeng Incomplete Lifeค่ะ
ในช่วงที่ยังทำงานอยู่ เจอเรื่องราวแย่ๆมาเยอะพอสมควร อย่างเช่น การทำงานในวันหยุดนักขัตฤกษ์โดยแจ้งล่วงหน้าแค่1วัน การโดนกล่าวหาและลงโทษทั้งที่ไม่มีความผิด การทำงานที่ไม่มีการแพลนล่วงหน้าจากทีม 90%ในทีมเป็นเด็กใหม่ในบางครั้งต้องช่วยเหลือกันเองโดยไม่มีหัวหน้า หักโอทีโดยไม่มีสาเหตุ โดนด่าและทำให้อับอายต่อหน้าลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน การโดนด่าโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน โดนบังคับทำงานข้ามวัน เป็นต้น
ซึ่งในตอนนั้นเองที่พบเจอกับเรื่องราวแบบนี้ ขอบอกก่อนว่า จขกท และเพื่อนๆในทีมได้ปรึกษากันในเรื่องที่ประสบพบเจอกันมาตลอด เคยลองทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจในหัวหน้าที่เขาต้องปฏิบัติตัวกับเราแบบนั้น เราได้ข้อสรุปและความเห็นตรงกันว่า บางทีเขามีการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยยุติธรรมกับพวกเราเลย แต่บางทีก็เป็นพวกเราเองที่ทำงานได้ยังไม่ดีพอ ทำได้แค่เท่าประสบการณ์ที่มี พวกเราเลยโดนปฏิบัติตัวแย่ตั้งแต่ต้นจนถึงวันสุดท้าย ถึงแม้เราจะทำได้ดีขึ้นแล้วจริงๆแต่เรายังได้รับการปฏิบัติแย่ๆเหมือนเดิมแบบไม่รู้สาเหตุ พวกเราส่วนนึงเลยลาออก
หลังจากผ่านเหตุการณ์พวกนั้นมาสภาพจิตใจค่อนข้างย่ำแย่พอสมควรค่ะ ในตอนที่อยู่ตรงนั้นจริงๆเราสามารถรับมือและผ่านมันมาได้ แต่พอเราถอยออกมาทบทวนดู ก็พบว่าตอนนี้สุขภาพและสภาพจิตใจแย่แล้วจริงๆค่ะ เราเอาแต่ตั้งคำถามว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ หรือเรื่องแบบนี้มันเป็นปกติของงานออฟฟิศอยู่แล้ว แต่เป็นเราเองที่ปรับตัวไม่ได้ ตอนนี้อยู่ในช่วงหางานใหม่ค่ะ มันค่อนข้างเครียดมากว่าที่ๆเราจะได้ไปทำงานจะเป็นยังไง จะเจอเรื่องแบบนี้อีกไหม หรือควรเปลี่ยนสายงานไปเลย
ช่วงนี้ก็เลยกำลังพักและเตรียมตัวที่จะสอบและสอบสัมภาษณ์กับที่ทำงานใหม่หลายๆแห่งค่ะ แต่แล้วอยู่ดีๆไม่นานมานี้ก็หมดไฟค่ะ หมดอาลัยตายอยาก ไม่ทำอะไร ไม่ออกไปเจอใคร ตัดขาดจากทุกการติดต่อในโลกออนไลน์ แม้แต่ร้านข้าวก็ไม่ไปค่ะ เอาแต่นอนดูซีรีส์ไปเรื่อยๆทั้งๆที่รู้ว่าควรเตรียมตัว ค่อนข้างผิดหวังในตัวเองนิดหน่อยค่ะ เพราะจริงๆไม่ได้เป็นคนเก่งขนาดนั้น อย่างน้อยก็ควรเตรียมตัวให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีอารมณ์ทำอะไรอยู่ดีค่ะ
แต่แล้วดันไปเจอซีรีส์ดีๆเรื่องนึงค่ะ misaeng(2014) เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือน ค่อนข้างสะท้อนสังคมมนุษย์เงินเดือนได้ดีจริงๆค่ะ มีคนหลายแบบ มีหลายเหตุการณ์ที่เจอ ทั้งเรื่องดีเรื่องไม่ดี ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น ความพยายามของแต่ละคนแต่ละตัวละคร ซึ่งพอจขกท.เองได้ดูแล้วรู้สึกเข้าใจโลกมากขึ้นค่ะ มีไฟกลับมา มีแรงที่จะไปทำงาน55
ตัวเอกมีความอดทน มีความพยายาม ใช้ความคิดในการแก้ปัญหาและมีวุฒิภาวะ สิ่งที่จขกท.ได้จากเรื่องนี้จริงๆไม่ใช่การที่ต้องก้มหน้าอดทนรับมือกับสิ่งที่ต้องเจออย่างเดียวค่ะ แต่หลักๆมันคือความพยายามค่ะ จขกท.เป็นคนๆนึงที่เป็นคนโง่เพราะความขี้เกียจค่ะ(เปรียบเปรยนะคะ) เป็นคนที่ถ้าแค่พยายามก็จะทำได้ดีค่ะ(น่าจะเป็นกันในหลายๆคน) จขกท.เป็นคนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ค่อนข้างต่ำ ถึงจะควบคุมอารมณ์ได้ แต่สีหน้าออกตลอดเลยค่ะ ที่ผ่านมาบางทีโต้แย้งไปด้วยอารมณ์โดยที่คิดว่าความคิดตัวเองถูก แต่หลังจากที่ทำไปก็รู้สึกไม่ดีทุกครั้งถึงแม้เราจะถูกหรือไม่ถูกก็ตาม มันดูไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยค่ะ
แต่พอมาดูซีรีส์เรื่องนี้ บวกกับพักงานทบทวนหลายๆเรื่องที่ผ่านมา มันทำให้จขกท.ลดอีโก้ตัวเองลง และได้เข้าใจโลกมากขึ้นค่ะ ว่าบางทีโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา ทุกคนเกิดมาไม่เหมือนกัน เป็นเราเองที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และหาวิธีแก้ไขและเอาตัวรอดให้สามารถอยู่ได้โดยไม่ทำร้ายตัวเองค่ะ และไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่ต้องเหนื่อยต้องพยายามค่ะ ถึงเราจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว แต่พอมาดูซีรีส์ ดูสิ่งที่แต่ละตัวละครพยายามสื่อออกมา มันทำให้เราอิน และคิดภาพออกว่าถ้าเราเป็นแบบนั้นเราจะทำแบบไหน จะรู้สึกยังไง มันอินค่ะ55 เลยทำให้เข้าใจได้มากขึ้น
เรื่องนี้ดูแล้วทำให้จขกท.มีแรงกลับมาใช้ชีวิตค่ะ พร้อมออกไปเจอกับคนทุกรูปแบบแล้วค่ะ มาเลย555
สรุปคือ ซีรีส์เรื่องนี้ดีมากค่ะ ใครกำลังรู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่ต้องเจออยู่ลองไปดูค่ะ แล้วจะได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เราที่เหนื่อย จะได้สบายใจว่ามีคนอีกเยอะที่เหนื่อยเหมือนกัน เหนื่อยเป็นเพื่อนกันค่ะ สู้ๆกับชีวิตนะคะ เรื่องนี้ดูได้ที่Netflixค่ะ