คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
คุณก็เก็บออมเงินต่อไป แต่ควรมีเป้าหมายและรู้จักคำว่าพอ พอในที่นี้ คุณก็ประเมินว่าเงิน ทรัพย์สิน ที่มีอยู่มีพอเพียงที่จะสามารถใช้จ่ายได้ตลอดจนคุณแก่หรือตลอดอายุไขของคุณได้ เมื่อคุณมีทรัพย์สินพอแล้ว คุณก็ปล่อยวางเรื่องหาเงินได้แล้ว จะทำหรือไม่ทำงานก็ได้ จะทำโดยได้ค่าตอบแทนหรือทำเพื่อแก้เบื่อ เพื่อหากิจกรรม เพื่อความพึงพอใจ โดยไม่คำนึงถึงค่าตอบแทน ก็ได้ ที่คุณกังวลตอนนี้ น่าจะเป็นที่คุณต้องการความมั่นคงในชีวิตมากกว่า ดังนั้น เมื่อคุณประเมินแล้ว ว่ามีความมั่นคงในเรื่องทรัพย์สินที่จะใช้จ่ายตลอดอายุขัยแล้ว คุณจะปลดล็อคความไม่สบายใจนี้ไปได้ ส่วนประเด็นเรื่องเมื่อแก่แล้วกังวลว่าไม่มีคนดูแล คุณไม่ต้องกังวล เมื่อคุณมีเงิน คุณสามารถใช้เงินแก้ไขปัญหานี้ได้ อีกเรื่องที่อยากให้ข้อคิดเปรียบเทียบดู คนแก่ที่ป่วยเล็กน้อยไม่มีปัญหา ยังสามารถดูแลพึ่งพาตนเองได้ แต่กรณีที่ป่วยหนักอยู่ในสภาพช่วยเหลือตนเงไม่ได้ แล้วมีคนดูแลรักษา จะตายก็ไม่ตาย จะหายป่วยก็ไม่หาย กว่าจะตายใช้เวลานานมาก ต้องอยู่ในสภาพทุกข์เวทนาเป็นเวลานาน กว่าจะตาย แต่ในที่สุด สุดท้าย ทุกคนก็ต้องตาย กับอีกกรณี คนแก่ที่ป่วยหนัก ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ไม่มีคนดูแล ข้าวน้ำไม่ได้กิน ร่างกายเมื่อขาดอาหารจะเหนื่อยอ่อน ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่นานก็ตาย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานนานนัก เราเลือกแบบใหน ส่วนกรณีตายแล้ว จะมีคนรู้หรือเปล่า เราควรกังวลหรือไม่ เพราะหากเราตายไปแล้ว คงไม่ต้องมารับรู้อะอีก มันไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว มันเป็นเรื่องของ ตำรวจ มูลนิธิ คนที่ยังอยู่ เขาต้องจัดการของเขาเอง
แสดงความคิดเห็น
กลัวไม่มีเงินใช้ ?
เรารู้สึกเครียดกับการที่ตัวเองจะไม่มีเงินใช้มาก อาจเกิดจากปมในวัยเด็กที่ไม่เคยได้อะไรจากพ่อแม่ พอโตขึ้นก็เลยหาเงินแล้วกลัวว่าจะหมด ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับการไม่กล้าใช้เงิน เพราะว่าก็ใช้ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมันเป็นการเติมเต็มตัวเองที่ไม่เคยได้อะไรจากพ่อแม่ในวัยเด็กเลย ในขณะเดียวกัน ก็มีความกลัวว่าในอนาคตจะไม่มีรายได้เข้ามา เนื่องจากงานที่ทำเป็นงานฟรีแลนแล้วก็ไม่มีความคิดจะไปทำงานประจำด้วย เพราะว่ารายได้ ได้น้อยกว่า บวกกับมีมีความจำเป็นต้องอยู่ที่บ้านเป็นหลัก เลยทำให้ไปทำงานประจำที่เข้าตรงเวลาไม่ได้ แต่ด้วยความที่มันเป็นฟรีแลนซ์ มันเลยเอาแน่เอานอนไม่ได้กับเงินเดือน มันเลยทำให้เรามีความรู้สึกกลัวจะไม่มีเงินใช้ในอนาคตตลอด เราอยากรู้ว่าเราควรที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง นิสัยของเราเป็นไปตามด้านล่างนี้เลยใครมีอะไรอยากจะแนะนำไหมคะว่าต้องจัดการกับความคิดของตัวเองยังไงคะ
นิสัย
- หาเงินมาได้จะแบ่งเงินออกเป็นหลายกองตามหลัก 6 Jars : ใช้เต็มที่ในส่วนที่เอาไว้สำหรับช็อป
- ดิ้นรนในการทำงาน อะไรที่ได้เงินก็ทำ ส่วนอะไรที่ไม่ได้เงินไม่ทำเลย : ตรงนี้คนใกล้ตัวบอกว่ามันเป็นปัญหาเพราะเราคิดถึงแต่เงินอย่างเดียว เราไม่มีงานอดิเรก เพราะเรารู้สึกว่างานอดิเรกมันไม่ได้เงิน เราไม่มีสิ่งที่เราชอบนอกเหนือจากเงิน เลยทำให้เราหาความสุขจากอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากอะไรก็ตามที่มันทำแล้วได้เงิน
- มีความกลัวเงินหมดเพราะว่าเคยเอาไปลงทุนจนหมดตัว
- ปัจจุบันไม่มีหนี้สิน
- ปัจจุบันมีบ้านมีรถมีทุกอย่างที่ตัวเองต้องการในวัยเด็กเรียบร้อยแล้ว : ตรงนี้จะสื่อว่าเราได้รับการเติมเต็มในสิ่งที่เราขาดไปช่วงวัยเด็กทั้งหมดแล้ว เป้าหมายสูงสุดของเราคือการมีบ้านซึ่งมันมีแล้ว มันเลยทำให้เราไม่มีเป้าหมายในชีวิตต่อว่าเราจะใช้ชีวิตไปเพื่ออะไร สิ่งสำคัญที่เราอยากได้มากที่สุดก็คือเงิน แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะเอาเงินตรงนั้นไปทำอะไร แค่มีเอาไว้ก่อนมันรู้สึกดีกว่าไม่มี
- เป็นคนเชื่อในเรื่องเกี่ยวกับ "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" : มองแง่ร้ายได้ว่ารายได้ที่ได้มาทุกวันนี้มันก็อาจจะหายไปไปได้ แต่ในขณะเดียวกันถ้ามองเป็นแง่ดีก็คือรายได้ทุกวันนี้มันก็อาจจะเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน แต่มันก็ชอบกังวลไปก่อนคิดลบไปก่อนเพื่อหาทางแก้ไขมันเลยทำให้เราเครียดมากกับชีวิต
- เรายอมรับว่าไม่รู้จักพอ เหตุผลเพราะไม่รู้ว่าจะพอไปเพื่ออะไร ด้วยความที่ชีวิตมันคือความไม่แน่นอน ถ้าในอนาคตมีปัญหาขึ้นมาแล้วเราไม่มีเงินเข้ามาแก้ไขเพราะว่าเราเลือกที่จะพอตั้งแต่ตอนนี้เราจะทำยังไง (มันไม่ใช่การไม่รู้จักพอเพราะว่าเราใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยแต่มันเป็นการไม่รู้จักพอเพราะว่ากลัวอนาคตที่มันไม่แน่นอนมากกว่า)
เราอยากให้ช่วยบอกวิธีการแก้ไขหรือว่าวิธีการในการมองชีวิตในแบบของคุณ เพื่อที่จะได้ทำให้เราตระหนักได้ถึงบางอย่างแล้วทำให้เราหายเครียดกับตรงนี้ค่ะ