เคสนี้ น่าสนใจ และ คนไทย ควรสนใจมากๆ
คนหนึ่งคน ให้คนอีกหนึ่งคน ยืมเงินไป จะกลายสถานะเป็น เจ้าหนี้ และ ลูกหนี้
ไม่ว่า จะมีดอกเบี้ย หรือไม่ แต่สถานะ คือ ผู้มีสิทธิ์ในเงินที่ถูกย้ายไปคนหนึ่งเพื่อการใดการหนึ่ง
และต้องคืนเงินในจำนวนนั้น ตามวันเวลาตกลง อาจจะมีเงินเพิ่ม ในฐานะดอกเบี้ย หรือไม่
ก็ตามตกลงและใต้เงื่อนไขกฎหมายกำหนดอัตรา
ปัญหาเรื่องนี้คือ
1. เจ้าหนี้ ให้ยืม และ "กังวล" ว่า ลูกหนี้ จะไม่คืน
2. ลูกหนี้ กับ เจ้าหนี้ ไม่ได้ระบุ "วันเวลา" และ "จำนวน" ในการ "จะคืน" อย่างชัดเจน
3. กฎหมาย จะเอื้อประโยชน์ให้กับ ลูกหนี้มากกว่า เพราะ กฎหมาย มองว่า การให้ คืออภิสิทธิ์ ที่เจ้าหนี้ มีสิทธิ์คิด และ ไตร่ตรอง
3.1 แปลว่า กฎหมาย ให้คนคิดให้ดีๆ ว่า จะให้ใครยืมเงิน ต้องชัดเจนว่า ให้ยืมแล้วคืนอย่างไร ต้องมีหลักฐาน ต้องชัดเจน
3.2 แปลว่า กฎหมาย ให้สิทธิการทวงถามด้วย ลำดับขั้น (ทวงด้วย เอกสาร หรือ ทวงด้วยกำหนดการ) ไม่ใช่ นึกอย่างจะทวงก็ทวง
3.3 แปลว่า ลูกหนี้ เมื่อได้เงินเขามา ก็จะกลายเป็น ผู้มีอภิสิทธิ์ เหนือเงิน จำนวนนั้นๆ ทันที
4. ในสามัญสำนึก มนุษย์ ปกติ ก็มองแค่ว่า "ยืมเงินมา ก็แค่คืนเงิน" ทุกอย่างก็จบ จะมาเถียง มาเบี่ยงประเด็นทำไม
5. อะไรทำให้ คนที่ดูมีเงิน มีฐานะ ต้องยืมเงินคนอื่น (เครดิตดี ทำให้ยืมเงินง่าย)
6. อะไรทำให้ คนที่ภาพลักษณ์ดี เลือกที่จะ "ยัง" ไม่คืน และ "เลื่อน" การคืน ด้วยเหตุผลใดๆก็ตามแต่
ทั้งนี้ ถ้าจะติดตาม ก็ควรติดตามอย่างมีสติ จะด่า จะว่า อย่างไร ก็ใจเย็นๆกันครับผม
เพราะ ผลของคดีนี้ จะบอกได้ถึง การจะให้ใครซักคนยืมเงิน อย่าดูที่ภาพลักษณ์ อย่าคิดว่า เครดิตอีกฝ่ายดี ก็ยอมให้ไป
ตัองเอามาคิดก่อนว่า คนที่ เครดิตดี ภาพลักษณ์ดี ทำไม ต้องมายึมเงิน และ ไม่ควรฟังเหตุผลของเขาจากปากเขา
ทำไม คนไทย ควรสนใจ เคส เจ้าหนี้ดารา ยึกยักคืนเงิน ลูกหนี้
คนหนึ่งคน ให้คนอีกหนึ่งคน ยืมเงินไป จะกลายสถานะเป็น เจ้าหนี้ และ ลูกหนี้
ไม่ว่า จะมีดอกเบี้ย หรือไม่ แต่สถานะ คือ ผู้มีสิทธิ์ในเงินที่ถูกย้ายไปคนหนึ่งเพื่อการใดการหนึ่ง
และต้องคืนเงินในจำนวนนั้น ตามวันเวลาตกลง อาจจะมีเงินเพิ่ม ในฐานะดอกเบี้ย หรือไม่
ก็ตามตกลงและใต้เงื่อนไขกฎหมายกำหนดอัตรา
ปัญหาเรื่องนี้คือ
1. เจ้าหนี้ ให้ยืม และ "กังวล" ว่า ลูกหนี้ จะไม่คืน
2. ลูกหนี้ กับ เจ้าหนี้ ไม่ได้ระบุ "วันเวลา" และ "จำนวน" ในการ "จะคืน" อย่างชัดเจน
3. กฎหมาย จะเอื้อประโยชน์ให้กับ ลูกหนี้มากกว่า เพราะ กฎหมาย มองว่า การให้ คืออภิสิทธิ์ ที่เจ้าหนี้ มีสิทธิ์คิด และ ไตร่ตรอง
3.1 แปลว่า กฎหมาย ให้คนคิดให้ดีๆ ว่า จะให้ใครยืมเงิน ต้องชัดเจนว่า ให้ยืมแล้วคืนอย่างไร ต้องมีหลักฐาน ต้องชัดเจน
3.2 แปลว่า กฎหมาย ให้สิทธิการทวงถามด้วย ลำดับขั้น (ทวงด้วย เอกสาร หรือ ทวงด้วยกำหนดการ) ไม่ใช่ นึกอย่างจะทวงก็ทวง
3.3 แปลว่า ลูกหนี้ เมื่อได้เงินเขามา ก็จะกลายเป็น ผู้มีอภิสิทธิ์ เหนือเงิน จำนวนนั้นๆ ทันที
4. ในสามัญสำนึก มนุษย์ ปกติ ก็มองแค่ว่า "ยืมเงินมา ก็แค่คืนเงิน" ทุกอย่างก็จบ จะมาเถียง มาเบี่ยงประเด็นทำไม
5. อะไรทำให้ คนที่ดูมีเงิน มีฐานะ ต้องยืมเงินคนอื่น (เครดิตดี ทำให้ยืมเงินง่าย)
6. อะไรทำให้ คนที่ภาพลักษณ์ดี เลือกที่จะ "ยัง" ไม่คืน และ "เลื่อน" การคืน ด้วยเหตุผลใดๆก็ตามแต่
ทั้งนี้ ถ้าจะติดตาม ก็ควรติดตามอย่างมีสติ จะด่า จะว่า อย่างไร ก็ใจเย็นๆกันครับผม
เพราะ ผลของคดีนี้ จะบอกได้ถึง การจะให้ใครซักคนยืมเงิน อย่าดูที่ภาพลักษณ์ อย่าคิดว่า เครดิตอีกฝ่ายดี ก็ยอมให้ไป
ตัองเอามาคิดก่อนว่า คนที่ เครดิตดี ภาพลักษณ์ดี ทำไม ต้องมายึมเงิน และ ไม่ควรฟังเหตุผลของเขาจากปากเขา