ผมสรุปจาก e-book ของ สำนักงานกิจการยุติธรรม ในเรื่องเจ้าหนี้ ลูกหนี้ คดีแพ่งมาให้อ่านกันนะครับ

ผมสรุปจาก e-book ของ สำนักงานกิจการยุติธรรม ในเรื่องเจ้าหนี้ ลูกหนี้ คดีเพ่งมาให้อ่านกันนะครับ แต่ลองอ่านแบบเต็ม ๆ เผื่อทางผมมีสรุปผิดพลาดไป
แล้วใน #ebook ยังมีอะไรอีกเยอะเลยครับทั้งเรื่องละเมิด ทั้งการทวงหนี้เลยครับ
.
01. เจ้าหนี้
1.1. เจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินให้เก็บดอกเบี้ยตามอัตรา ดังต่อไปนี้
   1.1.1. ก่อนผิดนัดชำระหนี้ 3% ต่อปี
   1.1.2. เมื่อผิดนัดชำระหนี้ เก็บเพิ่มจากเดิมได้อีก 2% ต่อปี (รวมเป็น 5% ต่อปี)
***** ผมแก้ให้ถูกต้องจากคุณ สมาชิกหมายเลข 7572607 ครับ **** 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ดอกเบี้ย 3% จะใช้คิดในกรณีที่ คู่สัญญา (เจ้าหนี้และลูกหนี้) ไม่ได้ตกลงกันไว้ในนิติกรรมสัญญา หรือว่าไม่มีกฎหมายที่กำหนดให้ดอกเบี้ยไว้ชัดแจ้ง  ก็ให้คิดดอกเบี้ยกันที่ 3%
แต่ไม่ได้ตัดสิทธิคู่สัญญาจะตกลงดอกเบี้ยให้สูงกว่า 3% ไว้โดยนิติกรรม  (แต่ถ้าเป็นสัญญาให้กู้ยืมเงิน  จะตกลงดอกเบี้ยเกิน 15% ไม่ได้)
1.2. ห้ามคิดดอกเบี้ยในดอกเบี้ยที่ค้างชำระ (ดอกเบี้ยทบต้น)
1.3. เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยทบต้นและคิดดอกเบี้ยในเงินต้นที่ทบเข้าไปได้ ถ้าลูกหนี้ค้างดอกเบี้ย 1 ปีขึ้นไป (แต่ต้องทำหนังสือ)
1.4. เมื่อผิดนัดเวลาผ่อนส่งเป็นงวด ให้คิดดอกเบี้ยจากเงินต้นเฉพาะงวดที่ผิดนัด (จะตกลงต่างจากนี้ไม่ได้ เพราะจะตกเป็นโมฆะ)
1.5. เจ้าหนี้สามารถฟ้องลูกหนี้ได้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้

02. ลูกหนี้
2.1. ลูกหนี้ต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนให้เจ้าหนี้ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
2.2. ถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระเงินกู้และดอกเบี้ยตามงวดชำระภายในกำหนด นับแต่วันครบกำหนดชำระ ลูกหนี้ยินยอมให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดเป็นอัตราร้อยละ...............ต่อปี ของเงินต้นคงค้างทั้งหมดจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
2.3. หากลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินให้ยึดเลย เจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไม่ได้

03. ผู้ค้ำประกัน
3.1. ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบชำระหนี้แทนลูกหนี้ หากลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้
3.2. ผู้ค้ำประกันสามารถถูกฟ้องได้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้

04. คดีแพ่ง
4.1. คู่ความสามารถตกลงกันได้โดยไม่ต้องนำคดีสู่ศาล
4.2. หากคู่ความตกลงกันไม่ได้ ศาลชั้นต้นจะออกหมายส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลยแก้คดี/ยื่นคำให้การ
4.3. จำเลยต้องยื่นคำให้การเป็นหนังสือต่อศาลภายใน 15 วัน
4.4. หากจำเลยไม่ยื่นคำให้การ ศาลจะพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว
4.5. หากคู่ความไม่มาศาลทั้งสองฝ่าย ถือว่าขาดนัดพิจารณา

05. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
5.1. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นการยุติหรือระงับข้อพิพาททั้งคดีแพ่งและคดีอาญาบางประเภท โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่กรณี เพื่อสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
5.2. ข้อดีของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คือ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องนำคดีสู่ศาล เป็นธรรม ได้ข้อตกลงที่ทุกฝ่ายพอใจ ยุติข้อพิพาทโดยความยินยอม ยอมลดความขัดแย้ง พึงพอใจ รักษาความสัมพันธ์อันดี
5.3. คดีที่ไกล่เกลี่ยได้ เช่น คดีแพ่ง คดีอาญาในชั้นสอบสวนที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ความผิดลหุโทษ คดีอื่นๆ ที่กำหนดตาม พ.ร.ก.
5.4. คู่กรณีสามารถยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยได้ที่หน่วยงานของรัฐที่แจ้งกระทรวงยุติธรรมแล้ว สถานีตำรวจ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน สำนักงานศาลยุติธรรม
.
นี้ก็เป็สรุปคร่าว ๆ ของ e-book จาก สำนักงานกิจการยุติธรรม นะครับ ใครสนใจไปโหลดเพิ่มเติมได้เลยครับส่วนตัวผมก็ไม่ชอบลูกหนี้แย่ ๆ เหมือนกันเจอมาเยอะ  
สำนักงานกิจการยุติธรรม : https://www.facebook.com/weareoja
ขอฝากเพจเล็ก ๆ ที่ลงเกี่ยวกับ Jrock , Anime และหนัง ด้วยครับ : https://www.facebook.com/zirodaisuki